หนึ่งในตำรวจที่เป็นที่จดจำในยุคนี้ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ตำรวจผู้เสียสละรับใช้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประชาชน จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต "ขอสดุดีวีรบุรุษตำรวจไทย จารึกเกียรติยศไว้ คู่แผ่นดิน"
ประวัติ
พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา เกิดเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493 ที่อำเภอเทพา จ.สงขลา เดิมชื่อ เนี๊ยบ แซ่เจ่ง เป็นบุตรคนที่ 4 จากจำนวน 10 คน ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สมเพียร" เมื่อครั้งเข้าโรงเรียนประถม โดยมีครูตั้งให้ ส่วนนามสกุล "เอกสมญา" เปลี่ยนตอนเข้าเรียนโรงเรียนตำรวจตำรวจภูธร 9 จังหวัดยะลา เมื่อ พ.ศ. 2513 (นพต. รุ่น 15) โดยอาศัยนามสกุลนายตำรวจผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง
เริ่มต้นชีวิตรับราชการตำรวจที่ สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งในขณะนั้น พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตเคลื่อนไหวของขบวนการโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน มีการปะทะ ทำให้มีการสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย เคยต่อกรกับกลุ่มที่ยืนตรงข้ามกับรัฐแทบทุกกลุ่ม ทั้งโจรจีนคอมมิวนิสต์ ขบวนการโจรก่อการร้าย และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เคยผ่านการยิงปะทะมาแล้วนับร้อยครั้ง สามารถสังหารฝ่ายตรงข้าม ยึดอาวุธปืน และที่พักเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลในการนำกำลังเข้าปะทะกับโจรก่อการร้ายดังกล่าว ทำให้ได้รับบาดเจ็บทั้งเล็กน้อยและสาหัสถึง 8 ครั้ง(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมตามลิงค์ด้านล่าง) ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เชิดชูเกียรติ และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆ อีกมากมาย
คำขอสุดท้าย
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.บันนังสตา ได้เดินทางมาร้องเรียนกับ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมา เนื่องจาก พ.ต.อ.สมเพียรฯ ได้ขอย้ายจาก ผกก.บันนังสตา จ.ยะลา มาดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อขอใช้ชีวิตช่วงปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ หลังจากที่ได้รับใช้ทางราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาร่วม 40 ปี สุดท้ายก็ไม่ได้รับการเหลียวแล หรือพิจารณาจากทั้ง พล.ต.อ.ปทีปฯ และ นายอภิสิทธิ์ฯ ถึงกับทำให้ พ.ต.อ.สมเพียรฯ ต้องหลั่งน้ำตาลูกผู้ชาย ด้วยคามคับแค้นใจ
รับใช้ชาติจนตัวตาย
หลังจากเหตุการณ์ข้างต้น พ.ต.อ.สมเพียรฯ ก็มิได้ท้อถอย หรือทิ้งงาน ทิ้งลูกน้อง ให้ปฏิบัติหน้าที่เพียงลำพัง หากแต่ยังคงกลับไปทำหน้าที่อย่างปกติ จนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2553(จากวันที่ไปร้องเรียนไม่ถึงเดือน) ขณะที่ พ.ต.อ.สมเพียรฯ ออกตรวจพื้นที่และหาข่าวกลุ่มก่อความไม่สงบ พร้อมลูกน้อง 3 นาย และ อส. อีก 1 นาย คือ ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ โลมา รอง สว.ปป.สภ.บันนังสตา, ด.ต.โสภณ อินทรบวร และ ส.ต.ท.ระวิกรณ์ สังข์ศิริ และ อส.อับดุลอาซิ กาจะลากี เมื่อขับรถยนต์มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม จำนวน 5-8 คน กดระเบิดที่ฝังไว้ และใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่ จำนวนหลายชุด เกิดการปะทะกันประมาณ 10 นาที จนเมื่อกำลังเสริมมาถึง กลุ่มคนร้ายได้ล่าถอยเข้าไปในป่า ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกลำเลียงทั้งทางรถยนต์ และทางเฮลิคอปเตอร์เป็นการด่วน แรงระเบิดและคมกระสุนส่งผลให้ พ.ต.อ.สมเพียรฯ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์ยะลา ลูกน้องทั้ง 4 นาย บาดเจ็บสาหัส ส่วน ด.ต.โสภณ อินทรบวร เสียชีวิตในเวลาต่อมา พ.ต.อ.สมเพียรฯ ได้รับพระราชทานยศเป็น พลตำรวจเอก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย เป็นกรณีพิเศษ
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เจ้าหน้าที่สามารถยิงคนร้ายที่ทำ พล.ต.อ.สมเพียร เสียชีวิตได้, เป็นแกนนำระดับสูงชื่อ มะแอ อภิบาลแบ ที่มีคดีอยู่ 28 คดี
บทส่งท้าย
“ ที่ผมออกมาเรียกร้องครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ตำรวจในภาคใต้ ทำงานอย่างไร ไม่ได้เรียกร้อง หาความเป็นธรรมใดๆ เพราะมีคนเคยพูดว่า ตำรวจเลือกที่ กับเลือกนายไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้นายกฯ เข้ามาสะสางปัญหา การจัดทำโผโยกย้าย ในบช.ภ.9 ด้วย อย่าเอาใจใส่ แต่ตำรวจในส่วนกลาง หรือบช.ภ.1, 2 และ 4 เพียงอย่างเดียว เพราะขณะนี้ ตำรวจในพื้นที่ รู้สึกเป็น ลูกเมียน้อย กันหมดแล้ว มีแต่เด็กนาย เท่านั้นที่ได้ดี ส่วนจะเกี่ยวข้อง กับพรรคการเมือง ใหญ่หรือไม่ ผมไม่ทราบ ”
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น