ถอดบทเรียน กรณีระงับเหตุ ดวลปืนโจ๋มหาชัย

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 56 เวลาประมาณ 01.00 น. ได้เกิดเหตุนักเที่ยวย่าน อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงกัน  เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เข้าไประงับเหตุ แต่กลับถูกยิงอาการสาหัส 1 นาย คือ ด.ต.ณัฐศาสตร์  ศรีสร้อย  อายุ 43 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสมุทรสาคร  
     จากกรณีดังกล่าว สิ่งที่จะสามารถนำมาเป็นบทเรียนให้กับเพื่อนข้าราชการตำรวจคือ
     1. ตร.ที่เข้าไประงับเหตุ ไม่มีเสื้อเกราะ !! ยิ่งเป็นเหตุมีอาวุธปืน ยิ่งจำเป็นต้องมี  งานนี้ สตช. ควรตระหนักถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ จะจัดซื้อมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ ตร. ที่เข้าเวร(เข้าใจว่างบน้อย เอาเฉพาะที่เข้าเวรก่อนก็ได้)  อย่าให้ต้องเป็นภาระของ ตร.ชั้นผู้น้อย ในการจัดซื้อ จัดหา เองเลยครับ
     2. อาวุธประจำกายของ ตร. เป็นลูกโม่ ขณะที่คนร้ายใช้ปืนแม็กกาซีน  อำนาจการยิงมันต่างกัน ระหว่าง 6 นัด กับ มากกว่า  อีกทั้ง ตร. ไม่เตรียมความพร้อมในเรื่อง กระสุนสำรอง หมดโม่แล้ว หมดเลย ไม่สามารถช่วยเหลือตนเอง หรือเพื่อนได้อีก   และแม้ว่าจะมีกระสุนสำรอง แต่การโหลดกระสุนก็ช้ากว่าแบบแม็กกาซีนอยู่ดี
          ปืนหลวงก็เป็นรุ่นโคตรเก่า ไม่ได้จัดหามาทดแทนหลายสิบปีแล้ว  เห็นควรของบจัดซื้อทดแทน ให้เป็นขนาด 9 มม.
     3. การตัดสินใจในสถานการณ์คับขัน  อาจกล่าวได้ว่าคนไม่อยู่ในสถานการณ์นั้น ๆ ก็พูดอะไรก็ได้  แต่ถ้าได้มีการฝึกฝนอยู่เป็นประจำแล้ว  น่าจะมีการตัดสินใจได้ดีขึ้น เช่น เรามีกระสุนจำกัด จะต้องใช้อย่างรอบคอบ , การคุ้มกันคู่บัดดี้ , เตรียมความพร้อมก่อน ว.4 ฯลฯ

     หวังว่าท่านที่ได้อ่านบทความนี้คงได้นำไปบอกต่อกับเพื่อน พี่ น้อง ตำรวจ เพื่อลดการสูญเสียชีวิต เลือดเนื้อ  และขอฝากไว้อีกนิด กับการที่คนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบอย่างจงใจเช่นนี้  ท่านผู้บังคับบัญชาคงทราบดีนะครับ ว่าควรทำอย่างไร

ภาพ ไทยรัฐ

ความคิดเห็น