รู้จักผบ.ตร.คนที่ 11 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา

จากมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) ในวันนี้( 14 สิงหาคม 2558) ที่ห้องประชุมสมาคมทหารมหาดเล้กรักษาพระองค์ กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1พัน4 รอ.)  ผลเป็นเอกฉันท์ 6-0 โหวตให้ "พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา" หรือ บิ๊กแป๊ะ  เป็นผบ.ตร.คนที่ 11 ต่อจาก พล.ต.อ.สมยศ  พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร.ในปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการสิ้นกันยายนนี้

     จากรายงานข่าวทราบว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ฯ(อาวุโสลำดับ 5) ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งนั่งเป็นประธานการประชุมพิจารณาและได้รับการคัดเลือกในที่สุด โดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน


     พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2502 ที่ จ.ชลบุรี เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36  เชี่ยวชาญงานสืบสวนสามารถคลีคลายคดีสำคัญ ๆ ได้หลายคดี  โดยมีประวัติการศึกษาอบรมต่าง ๆ ดังนี้

  • มัธยมศึกษาตอนปลายที่ ร.ร.วชิราวุธวิทยาลัย
  • ปริญญาตรีที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
  • ปริญญาโทที่ มหาวิทยาลัยแคนตักกีสเตท สหรัฐอเมริกา
  • หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐเอกชนและการเมือง,วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
  • หลักสูตร โรงเรียนนักปกครองระดับสูง รุ่น 41 กรมการปกครอง
  • หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง สำนักงานศาลยุติธรรม รุ่น 1
  • หลักสูตร POST BLAST INVESTIGATION COURS (ATF) (ILEA) สหรัฐอเมริกา

     รับราชการครั้งแรกในตำแหน่ง รอง สวป. สถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ชีวิตราชการผ่านการปฎิบัติหน้าที่ในหน่วยงานหลักสังกัด กองบัญชาการสอบสวนกลาง(บช.ก.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เคยอยู่ในชุดปฎิบัติการพิเศษ นเรศวร 261 , ชุดอรินทราช กองบังคับการปฎิบัติการพิเสษ(สปพ.) หรือ 191  และชุดปราบจลาจล




     เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)เมื่อปี2553 และรักษาการในตำแหน่งเดียวกันเมื่อปี 2557เมื่อครั้งเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ก่อนที่จะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.)เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งขาติ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 57

     เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ขณะดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.น. ได้มีเหตุการยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมม็อบพันธมิตรบริเวณรัฐสภา ซึ่งมีผู้ชุมนุมถูกยิงด้วยแก๊สน้ำตาจนขาขาด   พล.ต.อ.จักรทิพย์ฯ ได้ฉีกเสื้อเครื่องแบบของตัวเองใช้รัดขาห้ามเลือดให้กับผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บขาขาดดังกล่าว โดยขณะนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็น ผบ.เหตุการณ์คุมกำลังสลายการชุมนุม จนได้รับฉายา “สภาพบุรษแก๊สน้ำตา”

     ในส่วนของทรัพย์สินตามข่าวรายงานว่ามีกว่า 900 ล้านบาท , ภรรยาของท่านเป็นเจ้าของ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

     ก็ต้องดูกันต่อไปครับว่าสไตล์การทำงานของ ผบ.ตร. คนที่ 11 จะเป็นอย่างไร   และการที่มีอายุราชการเหลืออีกถึง 4 ปี เศษ(เกษียณปี 2562)  น่าจะทำให้การทำงานต่อเนื่อง ดังนั้นตำรวจในยุค บิ๊กแปะ น่าจะถูกคาดหวังไว้สูงแน่ ๆ  บวกกับกระแสปฎิรูปตำรวจจาก กปปส. ที่คอนโทรลรัฐบาลอยู่ในขณะนี้  ย่างก้าวต่อไปจะเป็นอย่างไร  ต้องติดตามกันครับ

ปล. การตั้ง ผบ.ตร. ในค่ายทหาร  โดยผู้ร่วมประชุม มาจาก คสช.  และผลการลงมติแบบเอกฉันท์  ช่างเบ็ดเสร็จง่ายดาย สมเป็นรัฐเผด็จการจริง ๆ

ความคิดเห็น