เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดอบรมการพัฒนางานสอบสวน , พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ฯลฯ ที่ ห้องรอยัล จูบิลี่ เมืองทองธานี โดยมี ผบช. , ผบก. , หัวหน้าสถานีตำรวจ และหัวหน้างานสอบสวนทุกสถานี เข้าร่วม ในส่วนประเด็นการพัฒนางานสอบสวน มี พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา(ท่านย้อย) รอง ผบ.ตร. เป็นวิทยากร
สำหรับเรื่องการพัฒนางานสอบสวนนี้ "ท่านย้อย" พล.ต.อ. วรพงษ์ ชิวปรีชา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ลงพื้นที่ศึกษาด้วยตนเองในหลายจังหวัด เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่จะฝากเอาไว้ให้ ผบช.-ผบก. นำไปปรับปรุงพัฒนางานสอบสวนให้เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน
ในส่วนของงานสอบสวน จากการสำรวจวิจัยของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้เสียหายที่มีต่อการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวน ประจำปี 2557 มากที่สุด อยู่ในระดับ ร้อยละ 90.3 และ ภ.9 ได้รับความเชื่อมั่นสูงสุดในระดับ บช. ร้อยละ 83.3(ตามภาพด้านล่าง)
สำหรับ สภ.เมืองนครสวรรค์ นั้นมีการตีโจทย์ปัญหาไว้อาทิ(ปรากฎตามเอกสารที่แจกในที่ประชุม)
- ประชาชนต้องคอยพบ พงส. เป็นเวลานาน เนื่องจากติดคดีก่อนหน้า หรือ ตรวจที่เกิดเหตุ
- พงส. ใหม่ อาจไม่มีความรู้ ความชำนาญเพียงพอ ขาดประสบการณ์ ขาดที่ปรุึกษา ทำให้เกิดความเครียด ทำสำนวนไม่ทัน
- เมื่อโยกย้าย การรับมอบสำนวนทำไม่ต่อเนื่อง
- ประชาชนไม่เชื่อมั่นในการทำงานของพนักงานสอบสวน
จึงได้จัดทีม พงส. ตามโครงสร้างดังรูปด้านล่างนี้ โดยให้มี สบ.4 อาวุโส เป็นหัวหน้างานสอบสวน และแบ่ง พงส. เป็น 4 ทีม โดยในแต่ละทีมจะมีทีมย่อย 2 ทีม เพื่อสลับกันเข้าเวร
แนวทางจัดทีมพนักงานสอบสวนเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ จะสามารถทำได้ในสถานีที่มีคดีมาก และพนักงานสอบสวนจำนวนมากพอที่จะจัดเป็นชุดได้ ส่วนโรงพักเล็ก ๆ ที่มี พงส.แค่ 3 - 4 คน คงต้องปรับเป็นรูปแบบอื่นตามสภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ ในชุดหนึ่งอาจมี พงส.เวรฯ - จนท.คดี - ประจำวัน - พลขับ - วิทยุ - ร้อยเวรสืบสวน - ร้อยเวร ป. - สายตรวจเวร และอาจเพิ่มหัวหน้างานสอบสวนในช่วงเวลาปกติ
ซึ่งแนวทางนี้หัวหน้างานสอบสวน มีความสำคัญมาก เพราะคือด่านหน้าสำหรับการรับเรื่องจากผู้เสียหาย เป็นผู้วิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีว่าจะเข้าข้อกฎหมายใดหรือไม่ มีความสุขุมรอบคอบสูง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีจิตสำนึกในหน้าที่ ไม่ใช่ว่าเป็นหัวหน้างานแล้วจะสบาย ไม่เข้าเวร เซ็นสำนวนอย่างเดียว แบบนี้ไมไหวแน่ ๆ ครับ
และตัวพนักงานสอบสวนเองต้องพูดจาภาษาดอกไม้ อธิบายมาก ๆ ทำสำนวนให้เร็วทันใจผู้เสียหาย เอาใจใส่และรายงานผลความคืบหน้าคดีให้ผู้เสียหายทราบเป็นระยะ วางตัวให้เป็นกลาง ศึกษาความรู้ให้ทันกฎหมายที่ออกมาใหม่ ๆ เสมอ เพราะการร้องเรียนส่วนมากเกิดจากสาเหตุประมาณนี้แหละครับพี่น้อง ต้องปรับที่ตัวเองเป็นหลักก่อน เพราะประชาชนเขาไม่มีทางเลือกในการรับบริการทางคดีอาญา ยังไงก็ต้องมาหาตำรวจ ทำให้เขาสุขไม่ได้ ก็ให้เขาทุกข์น้อยลงก็ยังดีครับ
และตัวพนักงานสอบสวนเองต้องพูดจาภาษาดอกไม้ อธิบายมาก ๆ ทำสำนวนให้เร็วทันใจผู้เสียหาย เอาใจใส่และรายงานผลความคืบหน้าคดีให้ผู้เสียหายทราบเป็นระยะ วางตัวให้เป็นกลาง ศึกษาความรู้ให้ทันกฎหมายที่ออกมาใหม่ ๆ เสมอ เพราะการร้องเรียนส่วนมากเกิดจากสาเหตุประมาณนี้แหละครับพี่น้อง ต้องปรับที่ตัวเองเป็นหลักก่อน เพราะประชาชนเขาไม่มีทางเลือกในการรับบริการทางคดีอาญา ยังไงก็ต้องมาหาตำรวจ ทำให้เขาสุขไม่ได้ ก็ให้เขาทุกข์น้อยลงก็ยังดีครับ
อ่านรายละเอียดงานวิจัยเรื่อง ความเชื่อมั่นของผู้เสียหายที่มีต่อการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวน ประจําปีบัญชี 2557 ได้ที่นี่(คลิ๊ก)
ปล. ต้องยกเครดิตการพัฒนางานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ให้กับ พล.ต.ต.สืบก์ศักดิ์ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ และทีมงาน(พ.ต.อ.อรุณ แตงนารา รอง ผบก.ฯ , พ.ต.อ.คณากร รุ่งขจรกลิ่น และ พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์)ฃ
ปล.2 มีเอกสารที่เกี่ยวข้องมีประโยชน์หลายรายการ อาทิ พ.ร.บ.ใหม่ ๆ ซึ่งได้รับกันครบทุกสถานีนะครับ อย่าลืมไปขยายความรู้ให้ รู้ทั่วกัน
ปล.3 ท่านย้อยฝากขอบคุณข้าราชการตำรวจที่ได้ฝาฟันอันตราย ความยากลำบากร่วมกันมา โดยเฉพาะช่วงปะทะกับม็อบต่าง ๆ ขอฝากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับทุกท่านที่ยังรับราชการอยู่
ปล.2 มีเอกสารที่เกี่ยวข้องมีประโยชน์หลายรายการ อาทิ พ.ร.บ.ใหม่ ๆ ซึ่งได้รับกันครบทุกสถานีนะครับ อย่าลืมไปขยายความรู้ให้ รู้ทั่วกัน
ปล.3 ท่านย้อยฝากขอบคุณข้าราชการตำรวจที่ได้ฝาฟันอันตราย ความยากลำบากร่วมกันมา โดยเฉพาะช่วงปะทะกับม็อบต่าง ๆ ขอฝากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับทุกท่านที่ยังรับราชการอยู่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น