- อาวุโสขึ้นระดับ ผบก. - ผบช. ได้ร้อยละ 25 ของตำแหน่งว่าใน ตร. ทั้งหมด
- อาวุโสขึ้นระดับ รอง ผบก. - สว. ได้ร้อยละ 33 ของตำแหน่งว่างในแต่ละ บช.
- ขึ้นข้ามหน่วยได้ แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของตำแหน่งว่างที่หน่วยจะแต่งตั้ง
- การคำนวนจำนวนอาวุโส ให้คิดเป็นจำนวนเต็ม เศษทศนิยมปัดทิ้ง( เช่น 33 % ของ 10 คน ก็จะได้ที่ 3 คน)
- การแต่งตั้งนอกวาระประจำปี ไม่นำกลุ่มอาวุโสมาคิด
- กลุ่มตำแหน่งควบทั้งหมดไม่ให้เลื่อนในกลุ่มอาวุโส เว้นแต่ประเมินจนถึงระดับสุดท้ายของแท่งของตัวเองแล้ว เช่น พงส.(สบ 5) อยู่จนอาวุโสไม่สามารถประเมินต่อได้อีก ใช้อาวุโส 25%ไปเป็น ผบก.ได้
นอกจากนี้ ในที่ประชุมไม่ได้พิจารณาเรื่องจำนวนปีครองตำแหน่ง แต่ทราบว่ามีนโยบายเพิ่ม/ลดบางกลุ่ม ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ โดย ผบ.ตร. จะเป็นผู้พิจารณาเองและจะนำเข้า ก.ตร. ในวันอังคารที่ 22 ธ.ค. นี้
รับรองได้เลยว่าการแต่งตั้งรอบนี้ชุลมุนวุ่นวายแน่ ไขว้ข้ามภาค ข้าม บช. อาจมีคนเดียว 2 คำสั่งก็เป็นได้ 55 รอบนี้ผู้บัญชาการมีเซ็ง รอรับตั๋วจาก ตร. อย่างเดียว ห้ามโวย ห้ามมึน เพราะ ผบ.ตร. มีอำนาจออกคำสั่งใหม่ได้เอง
,อันนี้เป็นเอกสารที่ส่งกันมาทางไลน์ ก็ไม่ทราบว่าจริงเท็จประการใด ถ้าจริงก็คงเป็นเรื่องที่น่าเกลียดมาก เหมือนการชักบันไดหนี บางคนได้นายพลหมาด ๆ ก็ไม่เห็นจะมีหลักเกณฑ์อะไร ออกหลักเกณฑ์มากันท่าไม่ให้คนอื่นตามทัน วางตัวแบบไร้คู่แข่งในอีก 10 กว่าปีข้างหน้า เข้าฮอร์ส พิทักษ์1 จริงหรือไม่ ?
ไปดูประวัติพลเอกแต่ละคนได้เลย รับรองว่าหลักเกณฑ์นี้ใช้ไม่ได้แน่นอน หรือมีคำว่า "เว้นแต่" สำหรับบุคคลพิเศษ หลักเกณฑ์นี้ถ้าจริงก็ใช้บังคับกับคนไม่กี่คนหรอกครับ เพราะเอาเข้าจริง นายตำรวจส่วนใหญ่ครองตำแหน่งเกินกว่าที่กำหนดไว้อยู่แล้ว วิ่งเต้นสู้ไม่ไหว ก็รอตั๋วอา(อาวุโส)ดีกว่า
ปล. ปัญหาแต่งตั้งรอบนี้อยู่ที่การเยียวยา บช.น. เป็นหลัก จริง ๆ น่าจะมีฟ้องเรียกค่าเสียหาย ผบช.น. กันบ้าง ให้เป็นบทเรียน แต่ใครล่ะจะกล้าเล่นกะ ฟาสต์แทร็ก
ปล. ปัญหาแต่งตั้งรอบนี้อยู่ที่การเยียวยา บช.น. เป็นหลัก จริง ๆ น่าจะมีฟ้องเรียกค่าเสียหาย ผบช.น. กันบ้าง ให้เป็นบทเรียน แต่ใครล่ะจะกล้าเล่นกะ ฟาสต์แทร็ก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น