ลิงแก้แห ! ตร. กับการจัดการงานสอบสวน

การออกคำสั่ง คสช. ที่ 7/2559  (เชื่อว่ามาจากคำแนะนำของ ตร. แน่)  เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ  ไม่ใช่แค่ทำให้คำว่า "พนักงานสอบสวน" หมดไปจาก พ.ร.บ.ตำรวจฯ เท่านั้น   แต่มันคือการทำร้ายบุคลากรในสายพนักงานสอบสวนทั่วประเทศนับหมื่นคน  จะเป็นอย่างไร ไปดูกันครับ

     การแต่งตั้งตำรวจนั้น มีความพยายามมานานที่จะนำเอา "ระบบคุณธรรม" มาใช้  เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในชีวิตราชการที่ไม่ต้องวิ่งเต้น เข้าหานาย  ไม่ต้องแสวงหาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ เรียกว่าเอาผลการปฏิบัติงานเป็นตัวตั้ง  ในส่วนของหัวหน้าสถานีตำรวจก็เคยมีรางวัลโรงพักเพื่อประชาชน ในแต่ละ บช. แต่ก็มายกเลิกในยุคเผด็จการทหาร คสช. นี่แหละ(ไหนบอกว่าเป็นพวกคนดีไง)  ในส่วนของพนักงานสอบสวนซึ่งเขาทำกันมาเป็นสิบปี นั่นคือการเลื่อนไหล จากรองสารวัตร สามารถไปถึง ผู้บังคับการ ด้วยการประเมิน อบรม และสอบแข่งขัน  ถ้าใครอยากก้าวหน้าในเส้นทางนี้ ก็พัฒนาตนเองไปให้สุดได้

     แม้ตัวระบบเลื่อนไหลเอง จะยังไม่ได้ดีเต็มร้อย  แต่ก็ยังทำให้สายงานหนึ่งเห็นความก้าวหน้าในชีวิตราชการของตนเองอย่างค่อนข้างแน่นอน  แน่นอนว่ามีข้อโต้แย้งมากมายของระบบเลื่อนไหล  ที่มาตรฐานของผู้ผ่านสถาบันส่งเสริมงานสอบสวน  ไม่เป็นอย่างที่สังคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติคาดหวัง

     เมื่อปลายปีที่แล้ว มีการสัมนาของหัวหน้าสถานี และหัวหน้างานสอบสวนทั่วประเทศ  ที่ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา และคณะทำงานได้ศึกษาการแก้ไขปัญหางานสอบสวน และแนวทางการแก้ไขบางส่วนเอาไว้ก่อนท่านเกษียณอายุราชการ  นอกจากจะไม่เอามาดูและใช้งานแล้ว  ยังออกคำสั่งที่น่าจะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้อีก อาทิ

     ปัญหาการวิ่งเต้นเลื่อนระดับจะกลับมา  เมื่อการแต่งตั้งเลื่อนระดับอยู่ในมือของผู้บังคับบัญชา  ก็จะกลับสู่วงจรเดิม คือระบบอุปถัมภ์ ที่ก้าวหน้าด้วย ความเหมาะสม เป็นหลัก  ซึ่งก็รู้ ๆ กันอยู่

     ปัญหาสมองไหล  เมื่อไม่ก้าวหน้าในชีวิตราชการ  ระบบคุณธรรมไม่มี  แน่นอนว่า พงส. จำนวนไม่น้อย  คงจะกระโดดเข้าสู่ ระบบอุปถัมภ์  ดังเช่นในอดีต  แม้ว่าจะมีเงินประจำตำแหน่งมาล่อก็ตาม

     ปัญหาด้านขวัญและกำลังใจ  ถ้าออกนอกสายไม่ได้  ถนัดหรือชอบงานสอบสวน  ก็คงจะอยู่ไปวัน ๆ  ไม่รู้จะพัฒนาตนเองไปเพื่ออะไร  เหมือนได้ซอมบี้มาเป็นพนักงานสอบสวน

     ปัญหาด้านคุณภาพของเนื้องาน  จากปัญหาข้างต้นมันจะมารวมและสะท้อนในคุณภาพของงานสอบสวน  ความพึงพอใจของประชาชนที่ใช้บริการ ฯลฯ ถ้า ผบ.ตร. จะด่าใคร ก็กรุณาไปยืนหน้ากระจก แล้วด่าได้เลยครับ

     ระดับ สบ.4 - สบ.5  ที่เอาไป "ดอง" ตาม บช. และ บก. ต่าง ๆ นั้น  มันจะสร้างบาดแผลให้เขาแน่  เพราะเขาก้าวหน้า ฝ่าฟันมาได้ด้วยตัวเอง  แต่เจ้านายมาทำกับเขาแบบนี้ ตาม นโยบาย 6 ข้อ ของ ผบ.ตร. ผมจำได้ว่า ข้อ 6. คือ ส่งเสริมความสามัคคี และบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ  แต่สิ่งที่ทำนี่ดูเหมือนจะไม่เข้าข่ายนั้นแน่ ๆ




     ดูแล้วปัญหานี้ กว่าจะได้รับการแก้ไข คงเป็นช่วงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง  ที่จะต้องมาสางปัญหาที่เกิดขึ้น  เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับพนักงานสอบสวน  แต่คงต้องรอไปถึงปี 61 เป็นอย่างน้อย(ตามโรดแมพ ที่ยืดขยายได้ตามใจ)  ชื่อของผู้เกี่ยวข้อง  จะถูกจดจำในฐานะ บุคคลที่ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา และจะถูกเล่าขานเป็นตำนานแน่นอน

     สรุปการแต่งตั้งรอบนี้ ยังคงยืดออกไปได้อีก เพื่อแก้ไขปัญหา สบ.4 และ สบ.5  รวมทั้งพวกที่ต้องเยียวยา จากความไม่ชอบธรรมในการแต่งตั้งรอบที่แล้ว  คือ นอกจากตัวปัญหา ตัวต้นเหตุ ไม่ต้องรับผิดชอบการกระทำของตนเองแล้ว  ยังลามไปจัดการพนักงานสอบสวนเพิ่มอีก  เยี่ยมจิง ๆ สัส  สำนักงานตำรวจแห่งชาติวุ่นวายเพราะนายพลนี่เอง...

ปล. ไม่ได้เข้าข้างพนักงานสอบสวนนะครับ  หลายเรื่อง พงส. ก็ทำไม่ถูก  ไปดูวิธีแก้ไขปัญหากันในคราวหน้า โง่ ๆ อย่างผมยังคิดได้เลย 555

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น