บช.ก. กวาดล้างอิทธิพลภูเก็ต

ตำรวจ บช.ก.แถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นบ้านอดีตนายกเล็กรัษฎา รวบ 5 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางอาวุธปืน ยาเสพติด เผยผลปฏิบัติการ 3 วันแรกตามยุทธการ “ไพร่ฟ้าหน้าใสจังหวัดภูเก็ต” จับผู้ต้องหาได้แล้ว 100 ราย มูลค่าของกลางกว่า 20 ล้านบาท

     เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20  ก.พ.59 ที่ทำการตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ภายใต้ยุทธการ “ไพร่ฟ้าหน้าใจ จังหวัดภูเก็ต” นำโดย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม แถลงผลการบูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจน้ำภูเก็ต และชุดอาวุธกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการปราบปราม ในการปฏิบัติภารกิจปราบปรามอาชญากรรมเชิงรุก โดยปิดล้อมตรวจค้น ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในวันนี้(20 ก.พ.) จำนวน 9 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา 8 ราย ในจำนวนนี้ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 ราย

     โดยผู้ต้องหา 5 รายแรก ประกอบด้วยนายจอมพล สิริวันต์ นายภาสกร วุฒิชาญ นายบุญหนัก สอนนำ นายไชยรัตน์ จันทร์ทา และนายชนินทร์ เพชรคง โดยกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ เฮโรอีน,ยาอี) อยู่ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและมีอาวุธปืนอยู่ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมได้จากการปิดล้อตรวจค้นบ้านเป้าหมาย เลขที่ 45/3 ม.6 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นเครือขายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

     พฤติการณ์ในการจับกุม ขณะชุดตรวจค้นกำลังจะนำหมายเข้าทำการตรวจค้นบ้านเป้าหมาย พบผู้ต้องสงสัย จำนวน 3 คน พยายามวิ่งหลบหนีออกจากบ้าน จึงทำการควบคุมตัวไว้ได้ จำนวน 2 คน ส่วนอีก 1 คน วิ่งหลบหนีกลับเข้าไปภายในบ้าน และปิดล็อคประตู ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น จึงได้ปิดล้อมบ้านเป้าหมาย และซักถามปากคำผู้ต้องสงสัยทราบว่า ภายในบ้าน มีอาวุธปืน และยาเสพติดจำนวนมาก และยังมีบุคคลต้องสงสัยอยู่ในบ้านอีก 4 คน และได้รับแจ้งจากผู้ที่วิ่งหนีออกมาว่า คนที่อยู่ในบ้านได้ใช้อาวุธเตรียมต่อสู้เจ้าพนักงานตำรวจที่จะเข้าตรวจค้น จึงได้ขอกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม และชุดอาวุธกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม เข้าปฏิบัติการ จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ จำนวน 3 คน ส่วนอีกหนึ่งคนที่เป็นผู้ต้องหาเคยต้องหาคดีพยายามฆ่า ได้หลบหนีอยู่ใต้เพดานห้อง จนชุดปฏิบัติการพิเศษ สามารถควบคุมตัวไว้ได้ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้งหมด จำนวน 5 คน พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืน ยาเสพติดและอุปกรณ์ในการเสพยา

     ขณะที่ผลการตรวจค้นบ้านเลขที่ 100/5 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จับกุมนายวีระวัฒน์ ถนอมเกียรติ อายุ 48 ปี ข้อหา มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางกระสุนขนาด .45 มม. จำนวน 14 นัด และกระสุนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 9 นัด และทำการระดมจับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่าตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต นายหน่อย หรือจ๊อก ทองสิน อายุ 40 ปี ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯ” และจับกุมนายสุวัฒน์ ยาหลี ตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ ผู้อื่น”

     พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผบก.ประจำ บช.ก. กล่าวว่า สำหรับบ้านเป้าหมาย เลขที่ 45/3 ที่เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นนั้น เป็นบ้านอดีตนายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา และจากการสอบถามทราบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดที่กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวก่อขึ้น และไม่ได้พักอาศัยอยู่เองที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพียงแต่ให้กลุ่มผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่บางส่วนของบ้าน อย่างไรก็ตาม จากการลงมาปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ตามยุทธการ ไพร่ฟ้าหน้าใส 3 วันแรกสามารถปิดล้อมตรวจค้นจับกุมกลุ่มเป้าหมายตามหมายจับ ซึ่งเน้นคดีค้างเก่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 100 ราย ขณะที่ของกลางที่จับกุมได้มีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทแล้ว และเจ้าหน้าที่จะยังคงร่วมกันปฏิบัติภารกิจปราบปรามอาชญากรรมเชิงรุก อยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ต่อไปจนกว่าจะครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายที่ได้รับการร้องเรียนทั้งหมด.

Credit.  ข่าว // ภาพ   PhuketAndamanNews




     ถือเป็นผลงานที่ดีของ บช.ก. ที่ดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในหัวเมืองต่าง ๆ ที่ซ่องสุมกันเกินกว่าที่ท้องที่จะทำได้  ยังมีเมืองใหญ่ ๆ อีกหลายเมืองที่ควรเข้าไปดำเนินการเพื่อลดจำนวนอาวุธปืน  ซุ้มมือปืน  ซึ่งเป็นเครื่องมือของบรรดาเจ้าพ่อ ผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย  ให้ออกอาละวาดสร้างความเดือดร้อนกับสุจริตชน  เรื่องที่ท้องที่ทำไม่ได้ กองปราบเข้ามาทำก็ถือว่าถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานท่าน   ทำต่อในโซนภาค 8 อีกหลายจังหวัดก็น่าสนใจนะครับ  ยังไม่ต้องรีบกลับ

ความคิดเห็น