หมาข้างรั้ว กับ หมาข้างขา

ภาพจาก www.dogilike.com
มาฟังเรื่องราวของตำรวจบ้านนอกคนหนึ่งที่ได้เขียนบรรยายความรู้สึกในการแต่งตั้งโยกย้าย ระดับ รอง ผบก. - สว. วาระปี 58  ที่เป็นตำนานของ ตร.  แม้ ณ วันนี้จะบอกว่าจบแล้ว  แต่ปรากฎว่ายังเหลืออีกบางตำแหน่งที่ยังไม่มีการแต่งตั้งแต่อย่างใด(ไม่รู้อะไรของมัน)   ความรู้สึกที่ตำรวจท่านนี้บรรยายออกมาเปรียบเหมือน หมาข้างรั้ว กับ หมาข้างขา  จะเป็นอย่างไรลองอ่านกันดูครับ

     ผมได้สัมผัสกับนายตำรวจรุ่นพี่หลายๆคนได้บอกผมว่าการบริการและช่วยเหลือประชาชนนั้นเป็นหน้าที่ ที่ต้องทำ แต่ความเจริญรุ่งเรืองในอาชีพรับราชการนั้น อยู่ที่เจ้านายหรือผู้บังคับบัญชาระดับสูง หรือไม่ก็ต้องเข้าหานักการเมืองสำคัญๆ ผมเพียงรับรู้ตามที่พี่บอกแต่ก็คิดว่าหากเราทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุดแล้ว เราก็น่าจะเจริญเติบโตในอาชีพนี้ได้ จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้พบและพูดคุยกับพี่ตำรวจที่นับถือขณะนั้นดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการ ภาค 5  พี่แกบอกว่า กล้วยเอ๋ยอาชีพตำรวจไม่วิ่งเต้น ไม่อยู่กะนาย  หรืออยู่กะขั้วอำนาจ นั้นไม่มีทางเจริญหรอกให้ทำงานแทบตาย ชาวบ้านเห็น ลูกน้องเห็น แต่นายไม่เห็น ไม่เคยเห็นหน้าตาเลย ก็ไม่มีประโยชน์  เหมือนสุภาษิต หมาข้างขา กับหมาข้างรั้วนั่นล่ะ  ผมจึงได้ถามถึงความหมายดังกล่าว นายก็บอกว่า

     หมาข้างขามันก็อยู่ใกล้ชิดกะนายมัน คอยเลียแข้ง เลียขา ประจบสอพลอ หยอกล้อเล่นกะนาย  นอนอยู่ในบ้าน อาบน้ำเกือบทุกวัน มีเสื้อผ้าใส่ให้สวยงาม มีอาหารดีๆๆให้กิน บางครั้งนายกินขนมก็ป้อนให้กับมือ เวลาจะออกไปเที่ยวไหน ก็เอาหมาข้างขา ไปด้วย นั่งรถ จยย. หรือรถยนต์ โชว์ไปตามที่ต่างๆ  เวลามันประจบสอพลอกะนาย นายมันก็รู้แต่นายก็ชอบ  เวลาโยกย้ายไปอยู่บ้านหลังใหญ่และใหม่ก็จะเอามันไปด้วย มีที่นอน อาหารการกินเหลือเฟือไม่อดอยาก หมาพวกนี้มีนิสัยฉลาดมักขี้อ้อน  ประจบประแจง  มักไม่ชอบการต่อสู้ซึ่งหน้า ชอบแทงหลัง(เท็จทูล)เอาความดีใส่ตัว ชั่วใส่คนอื่น

     ส่วนหมาข้างรั้วนั้น สัญชาติญานของมันเป็นหมานักสู้นอนเฝ้าอยู่ข้างรั้วหน้าบ้านตากแดด ลม  ฝน  มันก็ต้องทนอยู่เพื่อดูแลความปลอดภัยให้นายมัน คอยไล่กัดหมาตัวอื่นๆๆ  และขับไล่สัตว์ร้ายต่างๆๆๆที่จะเข้ามาในบ้าน  บางครั้งหิว เพราะนายลืมให้อาหาร หรือให้น้อย มันก็ต้องออกไปหากินเองนอกบ้าน ต้องไล่กัดกะหมาตัวอื่นๆๆจนบาดเจ็บกลับมา บางครั้งนายก็ไม่รับรู้หรือดูแลเลย ซ้ำร้ายอาจเฆี่ยนตีหาว่าออกไปไล่กัดเขา มันมองเข้ามาในบ้านจะไปเข้ากลุ่มกะหมาข้างขา แต่ก็ทำไม่ได้ เนื้อตัวมีกลิ่นเหม็น  มีหมัด เหา เหลือบ อยู่เต็มตัว ถึงเข้าไปก็โดนไล่ตีออกมา เชื้อชาติเผ่ามันม้นไม่ใช่หมาข้างขา เศษขนม  เศษอาหาร  นายให้ก็โยนกลิ้งมากะดิน ตกบนพื้นสกปรก แต่มันก็ต้องกิน เพื่อความหิว และความอยู่รอด อนิจจาหมาข้างรั้ว หิวออกไปนอกบ้าน โดนคนอื่น เขาตี เอายาเบื่อให้กิน ก็ตายไปอย่างหมาข้างถนน  มันเป็นชะตาลิขิตไว้แล้ว 

     เจ้านายครับผมคงโดนชะตาลิขิตไว้แล้วให้เป็นหมาข้างรั้ว มันก็ต้องทำหน้าที่ของมันต่อไป  ความก้าวหน้าของอาชีพกะว่าจะคอยอาวุโสเกษียณเป็น ผกก. สัก 2-3  ปีก็เอา แต่ถึงตอนนี้คงไม่แน่ใจแล้วล่ะเพราะมีวงจรอุบาทว์ เกิดขึ้นอีก จ้างให้ออกก่อนเกษียณ  คิดได้เสียกันเป็นแท่ง จ่ายกันตามอัตราที่ตกลงกัน  หากวงจรนี้ยังอยู่ ต่อไปคำว่าอาวุโสก็คงไม่มีความหมาย พวกมันจ้างให้ออกกันหมด คนในวงการรู้ดีว่า ใครใหญ่โตมาอย่างไร ช่องทางสายไหน ชี้หัวกันได้หมด ไม่เคยเห็นคนไหนได้ดีจากการทำงาน  ถึงทำงานดีก็ต้องมีเส้นสาย เป็นนายเวร หรืออยู่ส่วนกลางของอำนาจมาก่อนทั้งนั้น

     ที่ผมเขียนความรู้สึกออกมานี้อยากให้กำลังใจเพื่อนๆๆที่ตั้งใจทำงานแล้วไม่เจริญในหน้าที่ให้สู้ต่อไป เราทำงานให้สมกับเป็น นรต. 43  ที่เป็นรุ่นแรกของโครงการ พ่อแม่สมมุติ   ให้เพื่อนมีกำลังใจอย่าหมดหวังในการทำงาน  และผมขอให้พี่ๆๆและเพื่อนๆๆๆที่มีความเจริญในหน้าที่หากมีโอกาสให้ดูแลเพื่อนด้วย และใหญ่โตขึ้นในส่วนกลางมีอำนาจในการสั่งการแล้ว อย่าให้สิ่งอื่นใดมาซื้ออุดมการณ์ของเราได้ ขณะนี้ผมอายมากไม่อยากพูดคุยกะชาวบ้าน หรือหน่วยงานอื่นๆๆๆเขาถามสิ่งที่เกิดขึ้น ผมก็ตอบเขาไม่ได้ ไม่อยากว่าใครผิดหรือถูก หรือบกพร่องอย่างไรของความล้มเหลวดังกล่าวทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่สังคมเขาจะตัดสินอย่างไร  ขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆที่อ่านนะครับ

ตำรวจบ้านนอก(หมาข้างรั้ว)





ปล. ได้รับการส่งต่อมาทางไลน์  ต้องขอบคุณท่านผู้เขียนด้วยครับ  สะท้อนออกมาได้โดนใจพี่น้องตำรวจส่วนใหญ่ที่ประสบชะตากรรมเดียวกับท่าน  แต่คงไม่โดนใจเจ้านายแน่ ๆ ครับ

ความคิดเห็น