DSI กำลังตับแตก ต้องปฏิรูปด้วยมั๊ย ?

การเกิดขึ้นของ DSI (Department of Special Investigation) หรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545  สังกัดกระทรวงยุติธรรม  มีภารกิจเพื่อป้องกัน ปราบปราม และควบคุมอาชญากรรมที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  ถือเป็นหน่วยงานน้องใหม่ ที่ได้รับความน่าเชื่อถือในระยะเริ่มต้น  ซึ่งก็มีพี่น้องตำรวจเราเข้าไปวางรากฐานการทำงานตั้งแต่ระดับปฏิบัติ  ถึงระดับผู้บริหาร

     ในระยะหลัง DSI  ถูกนำไปรับใช้ เชื่อมโยงทางการเมืองจากรัฐบาลยุคต่าง ๆ  การตั้งข้อกล่าวหา และเลือกดำเนินคดีบางฝ่ายอย่างน่าสงสัย  แต่กลับเมินเฉยต่อการกระทำผิดของบางฝ่าย  จนทำให้ความน่าเชื่อถือของหน่วยงานลดลงจนแทบไม่เหลือความเป็นมืออาชีพ

     ล่าสุดกับกรณีจับกุม นาย ธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาในคดี ทุจริตออกโฉนดที่ดินในจังภูเก็ต-พังงา มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท  ซึ่งถูก DSI จับกุมเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 59  และนำมาขังไว้ที่ห้องขังของ DSI  และเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในวันที่ 30 ส.ค. 59 (คืนวันที่ 29 ส.ค.59) โดยมี timeline ตามที่ พลตรี นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ  ชี้แจงดังนี้

  • เวลา 01.10 น. ของวันที่ 30 สิงหาคม 2559 โดยประมาณ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้รับแจ้งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่ามีคนเป็นลมหมดสติ ขอให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ จัดชุดแพทย์ฉุกเฉินไปช่วยเหลือด่วน
  • เวลา 01.15 น. ชุดแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษและพบว่า นาย ธวัชชัย อนุกูล อยู่ในภาวะวิกฤตแล้วโดยต้องทำการช่วยฟื้นคืนชีพ ( CARDIOPULMONARY RESUSCITATION , CPR) ในทันทีจากนั้นได้รีบนำตัวไปรักษาที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ
  • เวลา 01.33 น. ชุดแพทย์ฉุกเฉินนำตัว นาย ธวัชชัย อนุกูล มาถึงห้องฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ แล้ว พยายามช่วยฟื้นคืนชีพ (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION , CPR) หรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกว่า “ปั๊มหัวใจ” โดยต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ณ ห้องฉุกเฉิน คลื่นไฟฟ้าหัวใจของ นาย ธวัชชัย อนุกูล หยุดหลายครั้ง แต่ก็ยังพอกระตุ้นให้หัวใจกลับฟื้นคืนได้ชั่วคราวแต่อาการของนาย ธวัชชัย อนุกูล ก็ไม่ได้ฟื้นกลับคืนสภาพที่พ้นภาวะวิกฤต
  • เวลา 02.40 น. ได้ย้าย นาย ธวัชชัย อนุกูล จากห้องฉุกเฉินไปยังหน่วยอภิบาลผู้วิกฤต (CRITICAL CARE UNIT) ซึ่งอาการของ นาย ธวัชชัย อนุกูล ยังคงเลวร้ายหรือวิกฤตลงอย่างต่อเนื่องจำต้องทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION , CPR) ตลอดเวลาแต่ก็ไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้จนเสียชีวิตในเวลาประมาณ 04.45 น.
  • เวลา 08.15 น.เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิปอเต๊กตึ๊งได้มาเคลื่อนย้ายศพออกไปจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งต่อมาผมได้ทราบจากนักข่าวว่าถูกนำไปชัณสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชศาสตร์
     ส่วนทาง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงการเผยแพร่ผลชันสูตรศพของนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาที่ผูกคอฆ่าตัวตายในห้องควบคุมดีเอสไอที่พบว่าตับแตกร่วมกับการขาดอากาศหายใจ ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการแต่เมื่อมีประเด็นข้อสงสัยในการเสียชีวิตดีเอสไอก็จะสั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าห้องขังทั้งหมดว่ามีบุคคลใดเข้า-ออกห้องคุมขังบ้าง ขณะเดียวกันได้สอบถามไปยังแพทย์ที่ให้การรักษาแล้วว่ามีโอกาสที่ทำให้เกิดตับแตกเกิดจากกรณีกดทับหลายครั้งเพื่อปั๊มหัวใจในช่วงที่พบว่าผู้ต้องหาพยายามฆ่าตัวตายและเจ้าหน้าที่พยายามเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนก่อนนำตัวส่งรพ.มงกุฏวัฒนะได้หรือไม่ นอกจากนี้หลังการจับกุมตัวและนำตัวมาสอบสวนที่ดีเอสไอญาติของนายธวัชชัย ก็อยู่เฝ้าและร่วมรับฟังการสอบสวนจนถึงช่วงเย็นหากมีการซ้อมหรือทำร้ายร่างกายญาติต้องรู้ ดีเอสไอยืนยันว่าไม่มีเหตุทำร้ายผู้ต้องหาแน่นอน





     ตามข่าวนะครับ  DSI  แจ้งว่าผู้ตาย ใช้ถุงเท้าผูกคอตายกับบานพับประตู  เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปช่วยเหลือ และเรียกแพทย์ รพ.พระมงกุฎ มาดังกล่าว  แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้  จนเกิดประเด็นสงสัยตามมาหลายประการ อาทิ
  • การผูกคอตายด้วยถุงเท้า แขวนกับบานพับประตู ?  ถุงเท้าจะพันรอบคอได้หรือ บานพับมันมีพื้นที่พอแขวนถุงเท้าหรือไม่
  • ใบแจ้งการตาย ระบุว่าตับแตก ! มีเลือดออกในช่องท้อง จากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก ร่วมกับการขาดอาการหายใจ   ฟังแค่นี้นึกว่าโดนรัดคอแล้วซ้อมจนตาย ?
  • การปั๊มหัวใจ ไม่มีทางจะทำให้ตับแตกได้ เพราะตับอยู่ช่องท้อง  เขาปั๊มหัวใจกันในช่องทรวงอก
  • ดูเหมือนจะเป็นอีกคดีในรัฐบาลนี้ ที่ตายอย่างมีเงื่อนงำในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ และรีบเผาศพ โดยที่ญาติไม่ติดใจ อีกแล้วครับท่าน




     คดีนี้เป็นการเสียชีวิตในการควบคุมของเจ้าพนักงาน ได้มีการชันสูตรครบฝ่ายตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่   เรื่องนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งมรสุมของ DSI ที่จะลดความน่าเชื่อถือขององค์กร ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม  ดังนั้นควรจะต้องมีการปฏิรูป "กระบวนการยุติธรรม" ทั้งระบบครับ   ไม่ใช่เล่นเพียงตำรวจหน่วยงานเดียว  รวมถึงองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่มีปัญหาความชอบธรรม และมาตรฐานการตัดสินด้วย

     ไหน ๆ ก็จะปฏิรูปก่อนเลือกตั้งแล้ว  ไม่ทำทั้งระบบเลยล่ะครับ


ปล. สำหรับนาย นายธวัชชัย อนุกูล เป็นอดีตเจ้าพนักงานที่ดิน ที่พัวพันการออกเอกสารสิทธิที่ผิดปกติมากมาย ใน จ.ภูเก็ต ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์นับร้อยล้าน พันล้านบาท  จึงเป็นเหตุให้ต้องสงสัยถึงการตายในครั้งนี้ ว่าจะเป็นการปิดปาก ก่อนที่จะสาวไปยังตัวการใหญ่ หรือไม่   อ่านบทความของ คมชัดลึก เพิ่มเติมได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/scoop/240564

ความคิดเห็น