จากกรณีการสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจเมื่อ 4 ธ.ค. 59 ที่ผ่านมา และตรวจพบการทุจริตในพื้นที่ บช.น. โดยการจ้างนิสิตคณะแพทย์ศาสตร์ , วิศวกรรมศาสตร์ ให้เข้าไปทำข้อสอบ และให้ผู้ที่จ่ายเงินลอกข้อสอบกันในห้องสอบเลย นับเป็นวิธีการแบบดั้งเดิม ที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรเหมือนที่เคยจับกุมได้ในปีก่อน ๆ
ตามข่าวนั้นมีการจ่ายเงินกันผ่านสถาบันติวเตอร์ต่าง ๆ หัวละ 4 - 5 แสนบาท โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม. เป็นตัวกลาง จากนั้นจึงไปจ้างนักศึกษาเก่ง ๆ ให้มาสมัครสอบด้วย เพื่อให้เกิดการลอกข้อสอบกันในห้องสอบ แต่การกระทำลักษณะเช่นนี้จะสำเร็จได้ยาก เพราะมีข้อสอบหลายชุด คนที่นั่งติดกันก็จะได้ข้อสอบคนละชุดกัน คนที่สมัครสอบเลขที่ติดกันจะไม่ได้อยู่ห้องสอบเดียวกัน จึงต้องสืบสวนกันต่อไปว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องในการ วางตัว กำหนดผังที่นั่งสอบหรือไม่
การสอบนักเรียนนายสิบตำรวจ มีการตรวจเข้มกันมาก เพื่อป้องกันการทุจริตในการสอบ จัดว่าเป็นสนามสอบที่ตรวจเข้มที่สุดก็ว่าได้ โดยมีมาตรการมากมาย อาทิ
- การแต่งกายต้องเป็นเสื้อยืด กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบ
- ก่อนเข้าอาคารสอบ ให้ถอดรองเท้า ถุงเท้าออก(แล้วให้ใส่มาเพื่อ ?) ผ่านการลูบคลำตัว , เครื่องตรวจโลหะ
- อาคารสอบ มีการตรวจสอบทั้งห้องสอบ ห้องน้ำ ทางเดิน
- บริเวณสนามสอบมีเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์
- สิ่งที่เอาเข้าห้องสอบได้คือ ดินสอที่ไม่มียางลบติดปลาย(ถ้ามีถูกแกะทิ้งหมด) , ปากกา , บัตรประจำตัว นอกนั้นเอาทิ้งไว้ข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจ กระเป่าสตางค์ สร้อย แหวน ฯลฯ
- ในห้องจะเตรียมยางลบ และกบเหลาดินสอไว้ให้
- นั่งเรียงตามเลขที่ที่ประกาศไว้ ระหว่างสอบมีคนคุมสอบห้องละ 2 คน มีสั่งลุกยืดเส้นยืดสาย 2 ครั้ง ๆ ละ 2 นาที เพื่อป้องกันการส่งสัญญาณด้วยอุปกรณ์อิเลคโทรนิค
- ระหว่างสอบจะเข้าห้องน้ำ จะมีตำรวจคุมไป
- เสร็จก่อนนั่งรอ ออกจากห้องสอบพร้อมกัน ส่งคืนกระดาษคำตอบ และข้อสอบทุกคน
- คนออกข้อสอบ จะถูกกักตัวไว้ตั้งแต่เริ่มออกข้อสอบ จนถึงสอบเสร็จ
- ตรวจกระดาษคำตอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
ขนาดตรวจกันเข้มขนาดนี้ ก็ยังมีคนยอมเสียเงิน 4 - 5 แสนบาท เพื่อให้ลูกได้เป็นตำรวจชั้นประทวน ที่รับเงินเดือนรวมเงินประจำตำแหน่งที่ 14,000 ต่อเดือน ไม่ใช่ว่าเป็นตำรวจแล้วจะรวยจากเงินทุจริต หรือส่วยนะครับ ไม่เชื่อไปดูหนี้สินของตำรวจตามสถานีต่าง ๆ ดูก็ได้ 90 % มีหนี้กันทุกคน เงินเดือนรับจริงไม่กี่พันบาท และที่จ่อจะถูกธนาคารออมสิน กรุงไทย ฟ้องนั้นก็มีอยู่ไม่น้อย
ความอยากเป็นตำรวจนั้นมันเหมือนกับเป็นอาชีพพื้นฐานที่รู้จักกันดีมาตั้งแต่เด็ก ๆ ลองถามเด็ก ๆ ดูว่าอยากเป็นอะไร ส่วนใหญ่ก็คงตอบว่า ทหาร ตำรวจ ครู หมอ พยาบาล มันเลยฝังหัวกันมา ประกอบกับการเป็นข้าราชการ ที่พ่อแม่มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ มีบ้านพักให้ เบิกค่าเล่าเรียนบุตรได้ ฯลฯ จึงทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยที่จะทำทุกวิถีทางให้ลูกเป็นข้าราชการได้ แม้เงินเดือนไม่มาก แต่ก็เป็นอาชีพที่มั่นคง มีเกียรติ เลี้ยงตัวได้ยันตาย ถ้าเป็นข้าราชการได้พ่อแม่ก็โล่งใจ หายห่วงไปเยอะ เดินโม้ในหมู่บ้านได้ยาว ๆ เลยครับ ต้องยอมรับว่ามันเป็นค่านิยมของคนเป็นพ่อเป็นแม่จำนวนไม่น้อยจริง ๆ
การทุจริตในการสอบเป็นข้าราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ท่านคิดว่าจะมีเฉพาะตำรวจหรือ ? หน่วยงานอื่นที่ไม่มีข่าว แปลว่าไม่มีการทุจริตอย่างนั้นหรือ ? กระบวนการสอบเข้มข้น ตรวจสอบได้เหมือนตำรวจหรือไม่ ? อันนี้น่าคิดตาม และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเหมือนกันนะครับ ว่ามั๊ย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น