เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2560 เวลา ประมาณ 17.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจจุดสกัด ป้องกันอาชญากรรมบริเวณจุดกลับรถ คลองบางตะไนย์ ถนน 345 ม.1 ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้พบรถยนต์กระบะของผู้ต้องหาขับขี่มา เมื่อมาพบจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาได้เบรครถอย่ากระทันหันและถอยรถอย่างรวดเร็วข้ามเกาะกลางทางคุ่ขนานเข้าทางหลัก แล้วขับหลบหนีไปทาง ถนน 345 มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี ด้วยความเร็วสูง
จ.ส.ต.เอกพล ถวาย และ ส.ต.ต.จักรกฤช บุญรินทร์ จึงได้ขับขี่รถ จยย.สายตรวจ ฮอนด้า CBR ไล่ติดตามไป ระหว่างหลบหนีผู้ต้องหาได้ขับรถคันดังกล่าวด้วยความเร็วสูง ปาดซ้ายปาดขวา ในลักษณะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น หลบหนีต่อเนื่องไปทางถนน รังสิต-ซ่อมสร้าง และได้เกิดเสียหลักหมุนเป็นวงกลมแต่ก็ไม่ยอมลงจากรถ ได้ขับหลบหนีต่อ ถึงแยกบางพูนเลี้ยวซ้ายเข้า รังสิตปทุมธานี จนเลยทางลงด่วนบางพูนมุ่งหน้า ตลาดพูนทรัพย์ประมาณ 200 เมตร รถผู้ต้องหาได้เสียหลักบนไหล่ทางด้านซ้ายพลิกตะแคง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจึงได้เจ้าควบคุมตัวผู้ต้องหา จากนั้นได้ทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าว ผลจากการตรวจค้น พบ ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 ไอซ์ นำหนัก 0.54 กรัม บรรจุอยู่ในถุงพลาสติคเล็กแบบใสแบบรูดปิดเปิด ซุกซ่อนอยุ่ในคอนโซลกลางของตัวรถ จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สภ.สวนพริกไทย เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
และภาพต่อไปนี้คือการไล่ล่าจากกล้อง "แอ๊กชั่นคาเมร่า" ที่ติดหมวกของเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ
ต้องขอชื่นชมความทุ่มเท และกล้าเสี่ยงภยันตรายของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสอง และถือเป็นโชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากกรณีดังกล่าว จะเห็นได้ว่ากล้องติดหมวก เริ่มมีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะครับ ตอนนี้แต่ละคนต้องออกเงินซื้อไปก่อน อยากให้ภาคเอกชน หรือ ตร. สนับสนุน จะดีมาก ๆ ครับ ส่วนการเข้าจับกุมคนร้ายเป็นไปตามยุทธวิธีที่ได้ฝึกกันมาอย่างดี สุดยอดครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น