จากกรณีกลุ่มชายที่มีอาการมึนเมา เข้าด่าทอ ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ บน สน.สายไหม โดยก่อนหน้าก็ได้มีเรื่องที่ปั๊มน้ำมันมาก่อน แต่ก็ยังซ่า กร่างไม่เลิก ลงมือทำร้ายตำรวจในห้องสอบสวน ล่าสุด พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ได้เดินทางมาตรวจสอบคดีด้วยตนเอง
พล.ต.ท.ศานิตย์ฯ กล่าวว่า ได้เดินทางมาตรวจสอบรายละเอียดของคดีดังกล่าว ที่มีผู้ต้องหาคือ นายโสภณ โกสินทร์ อายุ 36 ปี นายรัตนเทพ ชัยปราณีเดช อายุ 21 ปี นายปกรณ์ ชูวงค์ อายุ 24 ปี และนายสิทธิชัย โสลุน อายุ 24 ปี ซึ่งร่วมกันก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ ที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และขอให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีความอดทน อดกลั้น โดยจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันว่าไม่ได้มีเจ้าหน้าที่รายใดใช้กำลังกับทางกลุ่มผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด
เหตุดังกล่าวเริ่มจากกลุ่มผู้ต้องหาถูกต่อว่าจากทางปั๊มไม่ให้สูบบุหรี่ในปั๊ม ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่รู้กันเป็นสากลอยู่แล้วว่าในปั๊มห้ามสูบบุหรี่ ไม่น่าปัญญาอ่อนขนาดไม่รู้เรื่อง เพราะถ้าเกิดระเบิด หรือเพลิงไหม้ขึ้นมา มีคนบาดเจ็บเสียชีวิต จะชดใช้เขาได้อย่างไร พอมีเรื่องกับพวกของปั๊ม และอาสากู้ภัย ไม่พอยังมาลงกับตำรวจที่พยายามห้ามบนสถานีตำรวจเลยด้วยซ้ำ ไม่มีสติยั้งคิดสักคน
การดำเนินคดี ทางเจ้าหน้าที่ก็คัดค้านการประกันตัว 4 ผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหาแบบจัดเต็มคือ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน, ต่อสู้และขัดขว้างการจับกุม ,ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าพนักงาน , ลักทรัพย์ , ข่มขืนใจเจ้าพนักงาน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ เป็นสมาชิกของแก๊ง "ยันหว่าง" ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีการรวมตัวกันในพื้นที่ ส่วนนายโสภณฯ เคยมีประวัติเมาแล้วขับ ทำลายทรัพย์สิน และขัดขวางการจับกุมมาแล้ว 4 ครั้ง ส่วน 3 คนที่เหลือไม่พบประวัติการกระทำความผิดแต่อย่างใด มาดูคำชี้แจงจากทาง สน.สายไหม กันบ้างครับ
เรียน พี่น้องประชาชนและพี่น้องข้าราชการตำรวจ ทุกท่าน
_ ตามที่ มีคลิปกลุ่มวัยรุ่น ขึ้นมาโวยวาย ต่อว่าด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ บน สน.สายไหมในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ได้ปรากฎเป็นข่าวอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ ในขณะนี้นั้น
_ สน.สายไหม ขอเรียนว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ทุกนายที่เกี่ยวข้องได้พยายามใช้ความอดทน อดกลั้นในการดำเนินการ เพื่อให้ได้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาทำการสอบสวนดำเนินคดี แม้จะดูแล้ว ไม่ถูกใจเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทั่วไป _ สืบเนื่องจาก ตำรวจสายตรวจรับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ที่กลุ่มผู้ต้องหาขับรถเข้าไปเติมน้ำมัน แต่สูบบุหรี่ด้วยเด็กปั้มห้ามก้อจะทำร้าย เจ้าของปั้มไปต่อว่าก็ถูกชกต่อย จึงแจ้งตำรวจ แต่พอตำรวจสายตรวจ 2 นายไปถึง จะทำการระงับเหตุ กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นชกต่อยและเตะจนสลบไปชั่วครู่ แล้วขับรถพากันหลบหนี โดยเอาโทรศัพท์มือถือสายตรวจไปด้วย _ หลังเกิดเหตุสายตรวจได้วิทยุสกัดจับ ผกก.สน.สายไหม ประสพเหตุขับรถขวางหน้าไว้ แล้วสายตรวจที่ถูกทำร้ายตามไป เรียกตรวจค้นก่อนจะนำตัวมา สน.สายไหม แต่ผู้ต้องหา 4 คนขัดขืนและจะทำร้ายตำรวจอยู่ตลอดเวลา จึงแจ้ง จนท.ทหาร ร.2 พัน 1 รอ.ในพื้นที่มาสบทบ แล้วนำตัวผู้ต้องหา มา สน.สายไหม จนได้ _ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารกลับออกไป กลุ่มผู้ต้องหาได้อาละวาดขึ้นมาอีก ตามคลิป ผกก.และ รอง ผกก.(สอบสวน) พยายามห้าม และสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอดทน ไม่ตอบโต้ สุดท้ายกลุ่มผู้ต้องไปด่าว่ามีปากเสียงกับกลุ่มอาสาสมัครและประชาชนที่มายืนดูเหตุการณ์บริเวณหน้า สน. ซึ่งตำรวจและทหาร พยายามห้ามไม่ให้มีเรื่องกัน แต่กลุ่มผู้ต้องหาไม่ฟัง ลงจาก สน.เข้าไปหากลุ่มคนด้านหน้า สน. แล้วเกิดชุลมุนต่อสู้กัน แล้ว 3 ใน 4 วิ่งหนีกลับขึ้นมาบน สน. ส่วนอีกคนวิ่งออกไปนอก สน.จึงถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ ยังไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำร้าย _ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ภูมิพลให้แพทย์ตรวจรักษาแล้วกลับมา สอบสวนแจ้งข้อหาจับกุมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คนในข้อหา "ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่", "ลักทรัพย์", เมาสุราหรือมึนเมาสารเสพติดอย่างอื่นแล้วขับรถ" และอยู่ระหว่างพิจารณาแจ้งข้อหา "ดูหมิ่นเจ้าพนักงานฯ" และ"ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย" อื่นๆ ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎในคลิป _ สุดท้ายขอยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใดทำร้ายผู้ต้องหา และ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ได้ใช้ความอดทน อดกลั้นต่อความเจ็บใจอย่างสูงในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ และพึ่งคิดอยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ดูแลประชาชน และรักษากฎหมาย เราไม่ใช่ศัตรูของประชาชน _ พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น