ท่านที่ต้องการมีอาวุธปืนไว้เพื่อป้องกันทรัพย์สิน หรือป้องกันชีวิตตนเองและครอบครัว การขอมีอาวุธปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เป็นสิ่งที่ท่านต้องรู้และปฏิบัติให้ถูก เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง มาดูกันครับว่าถ้าจะมีอาวุธปืนเป็นของตนเองสักกระบอกหนึ่งนั้น จะต้องทำอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นต้องเลือกก่อนสิครับ ว่าอยากได้ปืนแบบไหน ยี่ห้อ รุ่นอะไร ที่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปมีได้ก็เป็นปืนพกขนาด 9 มม. หรือ .38 เป็นส่วนใหญ่ เมื่อได้รุ่นที่หมายปองแล้วก็ต้องไปยื่นเอกสารกับอำเภอท้องที่ที่ท่านอยู่ หรือหาก อยู่ในกรุงเทพ ก็ไปกองทะเบียนกรมการปกครองนางเลิ้ง โดยมีเอกสาร และคุณสมบัติของท่าน ดังนี้
คุณสมบัติของผู้ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน
- บรรลุนิติภาวะ
- สภาพร่างกายปกติไม่พิการหรือทุพพลภาพ
- ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
- มีชื่อในทะเบียนบ้านและมีถิ่นที่อยู่ประจำในท้องที่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- ไม่เคยต้องโทษจำคุกคดีอาญา
เอกสารประกอบคำขออนุญาต/การขออณุญาตซื้อปืนและเครื่องกระสุนปืน
ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการอื่นๆ หรือพนักงานองค์กรของรัฐ
- บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงาน (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน(ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชารับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาต ที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ออกหนังสือรับรองต้องเป็น ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไป
- ข้าราชการตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไปไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
ข้าราชการทหารหรือตำรวจ
- บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงาน (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชารับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาต ที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ที่ออกหนังสือต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดที่มียศตั้งแต่พันเอกหรือพันตำรวจเอกขึ้นไป
- ผู้มียศตั้งแต่พันเอกหรือพันตำรวจเอกขึ้นไปไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
ประชาชนทั่วไป หรือผู้ประกอบอาชีพอื่น
- บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- หลักฐานการประกอบอาชีพ อาทิเช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือร้าน
หากเป็นลูกจ้างหรือรับจ้างต้องมีหนังสือรับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน จากผู้ที่มีอำนาจจัดการของกิจการนั้น หรือเจ้าของแล้วแต่กรณี
หากมิได้มีอาชีพรับจ้างต้องมีเอกสารประกอบตามที่อ้างอิง อาทิเช่น ทำสวน ทำไร่ ติดต่อค้าขายที่ หรือค้าขายย่อย หรือเร่ขาย โดยไม่ได้จดทะเบียน ต้องนำหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน เงินฝากธนาคาร (Statement) หรือหลักฐานอื่นเพื่อประกอบการพิจารณา
- หนังสือรับรองความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาตจากข้าราชการระดับ 6 ขึ้นไป หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป
- พิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติ และสืบสวนความประพฤติ
- หากขออนุญาตเพื่อการกีฬาจะต้องนำหลักฐานการเป็นสมาชิกสนามยิงปืนมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน มาประกอบการพิจารณา
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
การขออนุญาตซื้ออาวุธปืนจากบุคคล
- หลักฐานเอกสารเช่นเดียวกับการขออนุญาตซื้อปืนและเครื่องกระสุน
- สำเนาบัตรประจำตัวและทะเบียนบ้านของผู้โอน พร้อมใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (ป.4) ฉบับจริงของอาวุธปืนที่จะโอน
- ผู้โอน(เจ้าของเดิมกับผู้ขอรับโอน) ต้องบันทึกการยินยอมการโอนต่อหน้านายทะเบียนไว้ในหลังใบอนุญาต(ป.4) ว่าโอนปืนกระบอกนี้ ให้ใคร มีค่าตอบแทนเท่าใด หรือโอนไม่คิดค่าตอบแทน เนื่องจากอะไร แล้วลงนามไว้เป็นหลักฐาน พร้อมผู้รับโอนลงนามไว้ด้วย
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
- หากขออนุญาตเพื่อการกีฬาจะต้องนำหลักฐานการเป็นสมาชิกสนามยิงปืนมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน มาประกอบการพิจารณา
- นำอาวุธปืนที่ขอรับโอนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในวันที่ยื่นคำร้อง
การขอรับโอนอาวุธปืนมรดก (เจ้าของปืนตาย)
- ผู้ที่มีอาวุธปืนหรือใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน(ป.4) อยู่ในครอบครองต้องแจ้งการตายต่อนายทะเบียนท้องที่ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ตายพร้อมนำใบอนุญาต(ป.4) และอาวุธปืนมอบให้นายทะเบียนด้วย
- ใบมรณบัตร พร้อมสำเนา
- สำเนาคำสั่งศาลกรณีศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
- ถ้ามีผู้จัดการมรดกเสนอได้เลย
- ถ้าไม่มีผู้จักการมรดก ต้องสอบทายาททั้งหมด ว่ายินยอมสละปืนแล้วเสนอนายทะเบียนฯ
- ผู้ขอรับโอนปืนมรดก นำหลักฐานเอกสารประกอบคำร้อง เช่นเดียวกับการขอรับโอนอาวุธปืนจากบุคคล มายื่นต่อนายทะเบียนท้องที่พร้อมเอกสารข้างต้น
- หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
- นำอาวุธปืนที่ขอรับโอนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในวันที่ยื่นคำร้อง
การแจ้งการย้ายอาวุธปืน
- ต้องยื่นคำร้องขอย้ายอาวุธปืนต่อนายทะเบียนท้องที่เดิม และนายทะเบียนท้องที่ซึ่งย้ายไปอยู่ใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่ วันย้ายออกไปและวันที่ไปถึง
- ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- บัตรประจำตัว (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- นำอาวุธปืนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
- ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
การออกใบแทนหรือคัดสำเนาใบอนุญาตอาวุธปืน
- ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- บัตรประจำตัว (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
- กรณีใบอนุญาตสูญหาย แจ้งความสถานีตำรวจท้องที่ที่ใบอนุญาตหาย แล้วนำใบแจ้งความพร้อมคัดสำเนาประจำวันด้วย
- นำอาวุธปืนไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
อัตรค่าธรรมเนียมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน
1. ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน
- ปืนยาวประจุปาก ปืนอัดลม ฉบับละ 100 บาท
- ปืนอื่นๆ ฉบับละ 500 บาท
2. ใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ฉบับละ 1,000 บาท
3. ใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน กระบอกละ 5 บาท
4. ใบอนุญาตให้ซื้อกระสุนปืน นอกจากกระสุนอัดลม 1 บาท ร้อยละหรือเศษของร้อย
5. ใบแทนใบอนุญาต
- ใบแทนใบอนุญาติให้ทำ ค้าอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ฉบับละ 20 บาท
- ใบแทนใบอนุญาตให้ประกอบซ่อมแซม หรือเปลี่ยนลักษณะอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ฉบับละ 15 บาท
- ใบแทนใบอนุญาตอื่นๆ ฉบับละ 5 บาท
หมายเหตุ: ไม่ต้องจ่ายค่าบริการอื่น นอกจากค่าธรรมเนียมเท่านั้น
สถานที่ติดต่อ : ศูนย์บริการประชาชนกรมการปกครอง
วังไชยา นางเลิ้ง ถนนนครสวรรค์
เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
โทร. 0-2356-9552
อธิบายใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืน
- ใบ ป.๑ เป็นใบคำขอครับ มีช่องว่างให้เติม ว่าต้องการอะไร
- ใบ ป.๓ เป็นใบอนุญาต ให้ซื้อปืนครับ ต้องยื่น ป.๑ ว่าจะซื้อปืน จึงจะได้ ป.๓
- ใบ ป.๔ ได้หลังจากซื้อแล้วครับ เป็นใบอนุญาตให้มีและใช้ปืนครับ
- ส่วนใบ ป.๒ เป็นใบขออนุญาตินำเข้าอาวุธปืนจากต่างประเทศ(คนทั่วไปไม่ได้ใช้อยู่แล้ว)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น