tag:blogger.com,1999:blog-1275017993822226282.post1429849434175442542..comments2024-03-07T15:13:11.969+07:00Comments on ตำรวจไทย: ปฏิรูปตำรวจ ฉบับผู้ปฏิบัติUnknownnoreply@blogger.comBlogger3125tag:blogger.com,1999:blog-1275017993822226282.post-59276168597214077252014-09-08T13:41:00.537+07:002014-09-08T13:41:00.537+07:00โดนใจมากๆโดนใจมากๆตำรวจน้อยhttps://www.blogger.com/profile/16794137469500632048noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1275017993822226282.post-27983867376273964162014-08-20T09:31:31.858+07:002014-08-20T09:31:31.858+07:00...กระผมเชื่อโดยสุจริตใจว่าคำว่า "ปฏิรูปตำรวจ......กระผมเชื่อโดยสุจริตใจว่าคำว่า "ปฏิรูปตำรวจ"นั้นหมายถึง การนำพาองค์กรตำรวจออกไปจากกรอบความคิดหรือ ออกไปจากแนวทางปฏิบัติไปจากเดิมๆแต่ยังคงไว้ ในส่วนที่ดีงามขององค์กร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ<br />...กระผมทราบดีว่าการปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องใหญ่มาก ย่อมมีท่านที่ไม่เห็นด้วยกับกระผมเป็นธรรมดาและกระผมก็ยินดีน้อมรับความคิดเห็นจากท่านเสมอ <br />...คำว่า"ประเมิน"ในความหมายของกระผมมิใช่การประเมินอย่างเดียวกับการประเมินในการพิจารณาขึ้นขั้นเงินเดือนระหว่างปี แต่หมายถึง ระบบการประเมินที่คล้ายกับการประเมินเพื่อเพิ่ม"วิทยฐานะ"ของครูทั่วประเทศ ซึ่งขั้นตอนอาจแตกต่างกันบ้าง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมขององค์กรตำรวจ อันเป็นรายละเอียดปีกย่อย แต่หลักสำคัญคือ ขั้นตอน ขบวนการประเมิน จะต้องมีความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ในทุกๆขั้นตอน<br />...กรณีนี้ กระผมเสนอให้นำเอกสาร ข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับการประเมินทั้งหมด นำมาเปิดเผยเป็น"ข้อมูลสาธารณะ"หมายถึง เพื่อนๆข้าราชการตำรวจทุกท่าน สามารถเปิดเข้าไปดูในฐานข้อมูลได้ว่า เพราะเหตุใด ข้าราชการตำรวจ นาย ก.หรือ นาย ข.ถึงได้ผ่านการประเมินในรอบนี้ ด้วยคะแนนเท่าใด ถ้าพบว่าการประเมินไม่ถูกต้อง ข้าราชการตำรวจท่านอื่นๆก็สามารถถ่วงติงได้ครับAnonymoushttps://www.blogger.com/profile/12507172378480201959noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1275017993822226282.post-89480429949417200262014-08-17T19:29:22.492+07:002014-08-17T19:29:22.492+07:00เห็นควรให้มีการจัดลำดับคุณวุฒิที่ข้าราชการตำรวจมีอ...เห็นควรให้มีการจัดลำดับคุณวุฒิที่ข้าราชการตำรวจมีอยู่แล้ว โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1.เป็นนิติศาสตรบัณฑิต กลุ่มที่ 2. รัฐศาสตรบัณฑิต(โทกฎหมาย) กลุ่มที่ 3.ผู้ซึ่งมีวุฒิปริญญาตรีอื่นๆ(ซึ่งไม่ใช่กลุ่มวิชาชีพ แพทย์,วิศวะ,บัญชี) .............ส่วนต่อไปก็เป็นกระบวนคัดเลือกหรือสรรหา ซึ่ง พ.ร.บ.ตำรวจฯ ก็ได้เปิดช่องไว้ให้อยู่แล้ว โดยให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการสำรวจตำแหน่งข้าราชการตำรวจ ที่ขาดหรือว่างลงทั่วประเทศ และสง.ตร.ทำแบบมาตราฐานของการประเมิน ส่งให้ทุกหน่วยงาน เพื่อประเมินหาข้าราชการตำรวจที่มี คุณสมบัติ คุณวุฒิ วัยวุฒิ(อาวุโส) ที่เข้าตามหลักเกณฑ์ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด แล้วให้แต่ละหน่วยงานส่งชื่อผู้ผ่านหลักเกณฑ์ข้างต้นในระดับกองบัญชาการ ขั้นตอนสุดท้ายคือ ให้ สง.ตร.เป็นผู้ประเมินในขั้นสุดท้าย พร้อมทั้ง เปิดเผยข้อมูลของผู้ที่ได้รับการประเมินทั้งหมดออกมา ยังสื่อสาธารณะ ดังตัวอย่างเช่น ครูยังทำการประเมินเพื่อเพิ่ม วิทยฐานะ เงินเดือน5-6หมื่น วุฒิจริงๆก็คุรุศาสตรบัณฑิตล่ะครับ<br /> ...........ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถทำได้ก็จะช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดสอบ และยังช่วยกระตุ้นให้ข้าราชการตำรวจพัฒนาองค์ความรู้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อผลสัมฤทธิในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอีกด้วยครับ<br /> .......กรณีของการพัฒนาระบบงานสอบสวนนั้น ในส่วนของวิธีการสรรหาบุคลากร ก็ไม่ยากอะไร เพราะ ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่สำเร็จการศึกษาเป็นนิติศาสตรบัณฑิต ก็มีเป็นจำนวนมาก เพียงแต่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่างระเบียบออกมารองรับ ตำแหน่ง "ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน"โดยคัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีวุฒิ นิติศาสตรบัณฑิต เข้าเป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวน หลังจากนั้นก็ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวนไปอีก 5 ปี ต่อเนื่องแล้วจึงปรับให้เป็นพนักงานสอบสวน ถ้าทำอย่างนี้ได้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะได้พนักงานสอบสวนที่มีความรู้ ความชำนาญ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ต้องเสียงบประมาณในการจัดสอบ<br />.......กรณีเสนอตั้งหน่วยงานสอบสวนกลาง พัฒนาด้านวิชาการให้พนักงานสอบสวนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เห็นว่าควรตั้งเป็น "คณะกรรมการสอบสวนและสืบสวนกลาง" กรณีกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ให้มีคณะกรรมการสอบสวนและสืบสวนกลางประจำจังหวัด โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิประจำจังหวัดมาเป็นคณะกรรมการด้วย เช่น ตัวแทนอัยการประจำจังหวัด ตัวแทนคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยในท้องที่นั้น ตัวแทนจากสภาทนายความ เป็นต้น เพื่อถ่วงดุลการใช้อำนาจของพนักงานสอบสวนกลางและเพื่อไม่ให้ถูกแทรกแซงตามสายบังคับบัญชาและการเมืองอีกด้วย<br />.......กรณีค่าตอบแทนใหม่ ตามความคิดเห็นส่วนตัวเห็นว่า ควรแบ่งพนักงานสอบสวนเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก คือกลุ่มที่มีไม่มียศ ได้แก่ กลุ่มพนักงานสอบสวนที่มีวุฒินิติศาสตรบัณฑิตและเนติบัณฑิตไทย กลุ่มนี้ให้รับอัตราเงินเดือนเหมือนกับ พนักงานอัยการ ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้พนักงานสอบสวนไปสอบอัยการอีก <br />กลุ่มที่สองคือกลุ่มที่มียศ ได้แก่ กลุ่มพนักงานสอบสวนที่มีวุฒินิติศาสตรบัณฑิตหรือนักเรียนนายร้อยตำรวจที่จบการศึกษาแล้ว โดยให้ปรับประจำตำแหน่งให้ใกล้เคียงกับเงินเดือนของกลุ่มแรก เพื่อให้รายได้ ไม่แตกต่างจากกลุ่มแรกมากนักAnonymoushttps://www.blogger.com/profile/12507172378480201959noreply@blogger.com