วันที่ 29 เม.ย.58 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคําสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 234/2558 ลงวันที่ 27 เม.ย.2558 เรื่อง การพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข
คำสั่งดังกล่าวระบุว่า จากกรณี มีการกระทำความผิดทางอบายมุข การพนัน การค้าประเวณี และการค้ามนุษย์ เป็นนโยบายสำคัญที่จะต้อง ปราบปรามอย่างจริงจัง เนื่องจากคำสั่งเดิม (คำสั่ง ตร.ที่ 234/2548) ยังไม่ครอบคลุมทุกฐานความผิด และหน่วยรับผิดชอบและ ฐานความผิดที่ระบุเพิ่มเติมในคําสั่งนี้ดังนี้ ให้ปราบปรามการพนัน ได้แก่ ลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เช่น บาคาร่า ทายผลกีฬาต่างๆ ที่สถานบริการต่างๆ แอบแฝง จัดสถานที่ไว้ให้เล่นบ่อนการพนันที่ลักลอบเล่นโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เช่น ค้าประเวณี และการค้ามนุษย์ ได้แก่ การล่อลวง บังคับ ค้าประเวณี สถานประกอบการที่แอบแฝงมีการค้าประเวณี การค้ามนุษย์ ในลักษณะที่เป็นการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ หรือการค้าประเวณี ทั้งคนไทยและต่างด้าว ลักลอบเปิดเว็บไซต์ หรือสื่ออินเทอร์เน็ต เพื่อ ค้าประเวณี ค้ามนุษย์
โดยให้หน่วยที่จะต้องรับผิดชอบ ในพื้นที่ได้แก่ บช.น.,ภ.1-9 โดยเพิ่มเติม ศชต.และระบุหน่วยย่อยต่างๆ เช่น บก.สืบสวน, สายตรวจ 191, กก.สวัสดิภาพเด็กและสตรี (การค้าหญิงและเด็ก) หน่วยส่วนกลาง ได้แก่ บช.ก. (กองปราบ,ตำรวจน้ำ,รถไฟ,ค้ามนุษย์,เศรษฐกิจ),สตม. (ตม.1-6, บก.สืบสวน หัวหน้าด่านทุกด่าน) กรณี ความผิดค้ามนุษย์, และตามกฎหมายคนเข้าเมือง บก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กรณี ลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนัน ออนไลน์, การค้าประเวณี, การค้ามนุษย์ และ ขายหรือเผยแพร่ สื่อลามก ต่างๆ
ให้การพิจารณาบทลงโทษในความบกพร่อง ถ้าหาก กรณี หน่วยงาน บช.อื่น เข้าตรวจค้นจับกุม หน่วยพื้นที่ต้องรับผิดชอบ ในกรณี หน่วยอื่น และ ส่วนราชการอื่น ทั้งหน่วยพื้นที่ และส่วนกลาง หากปล่อยปละละเลย หรือไม่มีประสิทธิภาพในการปราบปราม ในระดับตำรวจชั้นประทวนให้ กักขัง ระดับสัญญาบัตร กักยาม ตัดเงินเดือน กรณี มีส่วนพัวพัน รู้เห็น รับผลประโยชน์ ลงโทษวินัยร้ายแรง และทางอาญาทุกกรณี จะมีการพิจารณาทางปกครอง อาจสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ ตร. หรือหน่วยงานอื่นตามความเหมาะสม รวมถึงการพิจารณาผลงานในรอบปีอีกด้วย
สำหรับการพิจารณาทางการปกครองกับผู้บังคับบัญชาระดับกองบัญชาการ ในกรณีที่มีการจับกุมอบายมุขเป้าหมายในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจตั้งแต่ 3 สถานีขึ้นไป ภายในหรือต่าง บก.และ ภ.จว. อำนาจเรียกระดับ ผบช. และ รอง ผบช.ไปปฏิบัติหน้าที่ ตร. หรือหน่วยอื่นได้ กรณี รอง ผบช. รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่ที่ถูกจับกุม รับมอบหมายให้ป้องกันปราบปรามอบายมุข ปกครองบังคับบัญชาหน่วยที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ทั้งนี้ให้คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 พ.ค. 2558 เป็นต้นไป.
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์
ปล.1 งานนี้พวก บช.ก. อาจโดนเด้งด้วย ถือว่ายุติธรรม(แฟร์) ไม่ใช่ท้องที่โดนอยู่ฝ่ายเดียว
ปล.2 คำสั่ง 1212 กรณี อดีต ผบช.ก. ไม่เห็นผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. โดนพิจารณาทัณฑ์นะ รึบังคับใช้เฉพาะ พล.ต.ต. ลงมา
น่าจะดีขึ้นมั้ง
ตอบลบ