Google สำหรับนักสืบ !!

พล.ต.อ.วินัย  ทองสอง รอง ผบ.ตร.(ปป.3) ได้เสนอ "โครงการศูนย์ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ( Police Data Center )"  เพื่อยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม  ให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลคดีสืบสวนสอบสวน ทั่วประเทศ  ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติในทุก ๆ พื้นที่  และสามารถสืบค้นได้โดยง่าย

     ในปัจจุบันคนร้ายที่ก่ออาชญากรรม  มักจะมีพฤติกรรมซ้ำ ๆ แต่อาจก่อเหตุในหลายพื้นที่ต่าง ๆ กัน  เมื่อถูกจับกุมจะไม่สามารถขยายผลไปได้หมดทุกคดี  ทำให้ผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม  รวมทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถปิดคดีได้  รวมทั้งการตรวจสอบแผนประทุษกรรม  ภาพคนร้าย หมายจับ  บุคคลพ้นโทษ ฯลฯ  ที่ต่างท้องที่  ต่างสถานีก็จะไม่มีข้อมูลของกันและกันสักเท่าไหร่   เป็นช่องทางให้คนร้ายหลุดรอดการจับกุมไปได้จำนวนมาก

     ถือเป็นอีกหนึ่งชุดผลงานของ พล.ต.อ.วินัย  ทองสอง  ที่ทำต่อจาก ศูนย์ข้อมูลหมายจับ CCOC   ที่จะทำให้การปฏิบัติงานของบรรดา นักสืบทั่วประเทศ มีประสิทธิภาพ  เป็นที่หวั่นเกรงของอาชญากรรม   โดยแต่ละโรงพัก  แต่ละสถานี จะต้องช่วยกันกรอกข้อมูลทางคดีต่าง ๆ แผนประทุษกรรม บุคคลพ้นโทษ ฯลฯ ลงในเว็บไซต์  ให้ครบถ้วนโดยเร็ว(กำหนดช่วงการกรอกข้อมูล ม.ค. - มิ.ย. 59)  ซึ่งข้อมูลที่จะต้องกรอกนั้นมีปริมาณมหาศาลจริง ๆ ครับ  คือครอบคลุมคดีอาญา และ พ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาทั้งหมด  สถานีที่มีปริมาณงานมากนั้นจัดว่าสาหัสแน่ ๆ ครับ

     สำหรับโครงการ Police Data Center นี้  เชื่อว่าจะมีประโยชน์กับงานสืบสวนอย่างมาก  เพราะเป็นการแชร์ข้อมูลของนักสืบทั้งประเทศ  กรณีมีคดีเกิดในท้องที่ของท่าน ก็จะสามารถค้นหาแนวทางการสืบสวนได้โดยง่าย  ลักษณะการใช้งานคือเข้าไปในเว็บไซต์ Police Data Center แล้วพิมพ์คำค้นในช่องค้นหา เหมือนการใช้ Google  เช่น พิมพ์ว่า "ชิงทรัพย์ กระเป๋า รถจักรยานยนต์"  ก็จะมีข้อมูลออกมาว่าในท้องที่ใดมีเหตุเกิดในลักษณะที่ตรงกับคำค้นดังกล่าวบ้าง  ที่ใดยังไม่รู้ตัว  ที่ใดจับกุมตัวได้แล้ว  เราก็สามารถนำข้อมูลที่ได้มาเทียบเคียงกับคดีที่เรามีอยู่  อาจเป็นผู้ต้องหาที่เพิ่งพ้นโทษมา  จะได้มีแนวทางสืบสวนต่อไปได้  ไม่ตัน




     สำหรับข้อมูลหมายจับ CCOC นั้น  มีการกรอกหมายจับได้กว่า 90 % แล้ว  โดยฝากข้อมูลไว้กับเว็บไซต์ รร.นรต.  โครงการนี้ก็เช่นกันครับ   เห็นท่าน วินัยฯ บอกว่าแทบจะไม่ได้ใช้งบประมาณกันเลย  ไม่เหมือนกับโครงการ Polis และ CRIME ที่เสียเงินไปมากมาย  ทุกวันนี้ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ  มีค่าบำรุงรักษารายปีสำหรับ Polis ปีละสิบกว่าล้านบาท  CRIME ปีละสามสิบกว่าล้านบาท(ทั้ง Polis และ CRIME ใช้งบประมาณเริ่มต้นสองร้อยกว่าล้านบาท อีกต่างหาก)  ไม่รู้ว่าผู้บริหารโง่ หรือว่าจ้างบริษัทโง่กันแน่ !

     โครงการศูนย์ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ( Police Data Center ) ทำให้เพื่อน ๆตร. ที่ต้องกรอกข้อมูล เหนื่อยกันหนักแน่ ๆ  ก็ขอให้ หน.สถานี ให้ค่าตอบแทนพิเศษเป็นกำลังใจหน่อย  งานนี้ถ้าเสร็จสมบูรณ์น่าจะมีประโยชน์อย่างมาก  ช่วยกันนะพี่น้อง ....


     ใครอยากแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Police Data Center ก็สามารถติดต่อกับทีมงานได้ที่ https://www.facebook.com/PoliceDataCenter/  ครับ  จะสรรเสริญ หรือบ่น อะไรก็เชิญตามสะดวก ^^

ปล. ตอนนี้กรอกข้อมูลกันจนมึน  Polis ก็ต้องกรอก นี่ก็เพิ่มมาอีก  ใจจริงอยากจะให้กรอกละเอียดมันซะที่เดียว แล้วจบ !  ไม่ต้องกรอกที่ไหนอีกแล้ว  แล้วเวลาหน่วยเหนืออยากรู้ข้อมูลห่าอะไรก็เปิดเว็บดูเอาเอง  ไม่ใช่กรอกก็ต้องกรอก  รายงานเป็นกระดาษไปอีก  ใช้คอมพิวเตอร์เป็นพิมพ์ดีด  รู้มั๊ยว่ามันเก็บข้อมูลได้  เรียกดูเองก็ได้ ฟาย !

ปล.2 เริ่มกรอกกันแล้ว  ข้อมูลที่แต่ละสถานีตำรวจกรอกมันยังมึน ๆ กันอยู่เยอะ  โรงพักใหญ่กว่า แจ้งไปว่ามีข้อมูลน้อยกว่าโรงพักเล็ก   เกณฑ์ในการกรอกข้อมูล  คงต้องคุยกันให้รู้เรื่อง  เอาให้ชัดว่าคดีแบบไหน จะต้องกรอกบ้าง  แล้วก็ไม่ต้องย้อนไปมากนัก  เอาแค่ 10 ปีนี่ก็พอแล้ว  ขอร้องสงสารคนกรอกบ้าง  งานปกติก็มี  เร่งกันรายวันจะบ้าตาย

ความคิดเห็น