จะเป็น ผบ.ตร. ต้องผ่านงานสถานีตำรวจ !!

ท่านผู้ใหญ่ทั้งหลายใน ตร. เคยกล่าวเอาไว้ว่า สถานีตำรวจคือหัวใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , เป็นจุดแตกหัก , มีความสำคัญ ฯลฯ  เชื่อว่าเพื่อนตำรวจทั้งหลายคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว  และบางคนก็คงคิดในใจว่า "หึ หึ ใช่สิ กรูกำลังแตก กำลังหักอยู่เนี่ย"

          กล่าวคือ ปัญหาข้อขัดข้องในการบริหารงานสถานีมีมากมาย ทั้งกำลังพล  วัสดุ  อุปกรณ์  งบประมาณ  ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้น เป็นปัญหาในแบบคลาสสิก อมตะนิรันดร์กาล  ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น

          ตัวอย่างที่ 1 กรณีน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ได้รับจัดสรร  ไม่มีโรงพักไหนที่ได้รับการจัดสรรอย่างเพียงพอ หากจะต้องออกตรวจตามแบบ ตามวงรอบ ที่เทวดากำหนด  ในขณะที่ภารกิจอื่น ๆ ที่ต้องใช้น้ำมัน เช่น ไปคุมโรงสี , ไปประชุม , ส่งสำนวน , ส่งผู้ต้องหา ฯลฯ

          ตัวอย่างที่ 2 โครงการต่าง ๆ ของผู้บังคับบัญชา ที่สั่งการมาให้ดำเนินการ โดยใช้งบปกติของหน่วย  ไอ้งบปกติของหน่วยนี่มันมีแค่ไม่กี่อย่าง เช่น งบวัสดุอุปกรณ์(ซื้อกระดาษ หมึกพิมพ์ ยังไม่พ้น 4 เดือนแรก ก็งบหมดแล้ว) , เบี้ยเลี้ยง ซึ่งน้อยอยู่แล้ว ยังจะให้เอามาแปลงผิดประเภทอีก  มันก็กระทบต่องานปกติด้านอื่น ๆ ไปด้วย  เช่น ในสมัย พล.ต.อ.วิเชียรฯ ผบ.ตร. สั่งให้พิมพ์อิงค์เจ็ทภาพประกวดได้รางวัล ขนาดใหญ่มาก ติดหน้าโรงพัก และหน้าสายตรวจ  โดยสั่งมาแบบต้องรายงานพร้อมภาพถ่ายใน 3 - 4 วัน  ทุกโรงพักก็ทำกันทั้งที่ไม่มีงบห่าอะไร ก็ไปร้องขอ(ไถ)เอกชนตามเคย  ขนาดที่กำหนดก็ใหญ่ซะจนแขวนหน้าโรงพักแปลนเก่าที่เป็นอาคารไม้ ไม่ได้   ทีมงาน ผบ.ตร. สมัยนั้น คงไม่เคยเห็นโรงพัก ตจว.  อยู่แต่บนหอคอยงาช้าง เห็นแต่โรงพักที่เป็นตึกในนครบาล   แต่ที่แสบทรวงไปกว่านั้นคือ หลังจากสั่งมาได้ 3 วัน มันก็สั่งยกเลิก  แล้วไอ้ที่ทำไปแล้วล่ะ ? (เพิ่มเติม : ไฟล์ภาพที่ส่งมาให้พิมพ์ เมื่อนำไปพิมพ์ตามขนาดยักษ์ที่สั่งมา ปรากฎว่าภาพแตก  ไม่ชัดอีก  บางคนยังบ่นให้ได้ยินว่า "สั่งโง่ ๆ ไม่พอ มันยังส่งไฟล์โง่ ๆ มาอีก")

          ตัวอย่างที่ 3 การจัดสรรกำลังพล จะเห็นได้ว่ากำลังพลเกือบทุกโรงพักขาดแคลน  ได้ที่พอจะเข้าท่าเข้าทางหน่อยก็ถูกดึงตัวไปช่วยราชการ  พอนักเรียนนายสิบจบใหม่ แทนที่จะจัดลงโรงพัก  ดันเอาไปลงที่กองบัญชาการเป็นร้อยคน  ไม่รู้คิดได้ไง  คนล้นงาน  เห็นตอนมาตรวจงานที่โรงพัก ไม่มีหน้าที่อะไร แค่ถือกล้องถ่ายรูป ยังมีตั้ง 2 คน





          จะเห็นได้ว่า  หากผู้บังคับบัญชา ที่ไม่เคยสัมผัสงานที่สถานีตำรวจแล้ว  จะมีกรอบความคิดที่แปลกแยก  และไม่คิดถึงสภาพความเป็นจริง  ข้อจำกัดต่าง ๆ ของผู้ปฏิบัติ   บางทีสั่งมาแบบเอาหน้าออกสื่อ   จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บังคับบัญชาระดับต่าง ๆ จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในงานของตำรวจจริง ๆ  เช่น  หากจะเป็นผู้บังคับการจังหวัด ผู้บัญชาการตัวเลข หรือ ผบ.ตร. ก็ควรจะต้องผ่านงานบนสถานีตำรวจ หรือจะให้ดีก็ควรจะเคยเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจมาก่อนด้วย  จะได้รู้ว่า ไอ้จุดแตกหัก หรือหัวใจของ สตช. เขาอยู่ เขาทำงานกันอย่างไร   ไม่ใช่ประเภทกระโดดไปเป็นนายเวรฯ สลับไป สลับมา  พวกนั้นเป็นได้แค่ ขันที ไม่ใช่แม่ทัพ จำไว้

ความคิดเห็น