ช่วงนี้เป็นช่วงกระแสการปฏิรูปตำรวจกำลังมาแรง ผมขออนุญาตมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการปฏิรูปตำรวจด้วยคนนะครับ ในฐานะที่เป็นตำรวจ เพราะที่ผ่านมามีผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในการปฏิรูปตำรวจกันมากมาย ส่วนมากคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นนั้นจะไม่ได้เป็นตำรวจ ส่วนมากจะอยู่ตรงข้ามกับตำรวจ บางคนก็อาจจะเป็นโจร ญาติพี่น้องของโจร ผู้สนับสนุนให้ความช่วยเหลือโจร และผู้หาผลประโยชน์จากโจร
แต่ก็มีบางท่านมีความปรารถนาดีต่อตำรวจด้วยความจริงใจ อยากเห็นตำรวจมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ก็ต้องขอบคุณท่านเหล่านี้ด้วยนะครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตามท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้รู้ปัญหาที่แท้จริงๆ เพราะท่านไม่ได้เป็นตำรวจ
แต่ก็มีบางท่านมีความปรารถนาดีต่อตำรวจด้วยความจริงใจ อยากเห็นตำรวจมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ก็ต้องขอบคุณท่านเหล่านี้ด้วยนะครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตามท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้รู้ปัญหาที่แท้จริงๆ เพราะท่านไม่ได้เป็นตำรวจ
สำหรับผมเป็นตำรวจในตำแหน่งพนักงานสอบสวน ในสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ผมขอแสดงความคิดเห็นเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับงานสอบสวนและเฉพาะเรื่องงบประมาณในการทำงานเกี่ยวกับงานสอบสวนเท่านั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าเมื่อมีคดีเกิดขึ้นแล้ว ในการสอบสวนคดีดังกล่าว ต้องมีค่าใช้ค่าจ่ายในการดำเนินการ แต่ละคดี ประมาณเท่าใด
ซึ่งงานสอบสวนในสถานีตำรวจที่ผมประจำอยู่นั้นได้รับงบประมาณจากทางราชการในการทำงาน มีเพียงค่าน้ำมันเท่านั้น เดือนละ ๗,๐๐๐ บาท จะคิดคำนวณเฉพาะค่าใช้จ่ายคดีที่เกิดขึ้นแล้วมีการลงสถิติเป็นตัวเลขเท่านั้น โดยประมาณ ๑ เดือน สถานีตำรวจของผม มีคดีที่เกิดขึ้นประมาณ ๙๐ คดี เอาเฉพาะคดีที่มีตัวผู้ต้องหาเท่านั้นเอง
ก็จะแยกให้เห็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเป็นคดีต่างๆ ดังนี้
๑.คดีที่ฟ้องต่อศาลแขวง จำนวน ๒๐ คดี
๒.คดียาเสพติด ๖๐ คดี แบ่งเป็น -เสพฟื้นฟู – เสพขับฯ -ครอบครอง -ครอบครองเพื่อจำหน่าย
๓.คดีเกี่ยวกับทรัพย์ ๓ คดี
๔.คดีเกี่ยวกับชีวิตร่างกาย ๒ คดี
๕.คดีเกี่ยวกับเพศ ๑ คดี
๖.คดีที่ผู้เสียหาย พยาน ผู้ต้องหา เป็นเด็กหรือเยาวชน จำนวน ๒ คดี
๗.คดีจราจร จำนวน ๒ คดี
-สถานีตำรวจที่ผมประจำอยู่ห่างจากศาลฯ สำนักงานอัยการ สำนักงานคุมประพฤตฯ และสำนักงานตรวจพิสูจน์ของกลาง และอื่นๆ ประมาณ ๘๐ กิโลเมตร
-ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปสถานที่เหล่านั้น เฉพาะค่าน้ำมัน ครั้งละ ๕๐๐ บาท ผมจะแยกให้เห็นว่าแต่ละคดีมีค่าใช้จ่ายเฉพาะในการเดินทาง คดีละเท่าใด
๑.คดีศาลแขวง ต้องนำตัวผู้ต้องหาไป ศาล ๑ ครั้ง จำนวน ๒๐ คดี คดีละ ๕๐๐ บาท รวม ๑๐,๐๐๐ บาท
๒. คดียาเสพติด ๖๐ คดี แยกเป็น
-เสพฟื้นฟู จำนวน ๓๐ คดี การดำเนินการ ๑.ภายใน ๔๘ ชม. นำตัวไปศาลฯ และส่งปัสสาวะไปตรวจ / ๒.นำสำนวนไปส่งอัยการ เดินทาง ๒ ครั้ง ค่าใช้จ่ายครั้งละ ๕๐๐ บาท คดีละ ๑,๐๐๐ บาท ๓๐ คดี รวม ๓๐,๐๐๐ บาท
-คดีเสพขับฯ จำนวน ๑๐ คดี การดำเนินการ ๑.ภายใน ๔๘ ชม. นำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ ครั้งที่ ๑ และส่งปัสสาวะไปตรวจ / ๒. ภายใน ๑๒ วันไปฝากขังครั้งที่ ๒ / ๓.ฝากขังครั้งที่ ๓ / ๔.ฝากขังครั้งที่ ๔ / ๕.นำสำนวนไปส่งอัยการ สรุปคดีเสพขับฯ เดินทาง ๕ ครั้ง ครั้งละ ๕๐๐ บาท ๑ คดีค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ๑๐ คดี รวม ๒๕,๐๐๐ บาท
-ครอบครองฯ ๒๐ คดี ๑.ภายใน ๔๘ ชม. นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลฯ ครั้งที่ ๑ และส่งของกลางตรวจพิสูจน์ / ๒. ฝากขังครั้งที่ ๒ / ๓.ฝากขังครั้งที่ ๓ / ๔.ฝากขังครั้งที่ ๔ / ๕.ฝากขังครั้งที่ ๕ / ๖.นำสำนวนส่งอัยการ สรุป คดีครอบครองฯ เดินทาง ๕-๖ ครั้ง ครั้งละ ๕๐๐ บาท คดีละ ๒,๕๐๐-๓,๐๐๐ บาท ๒๐ คดี ๒๕,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ บาท
๓.คดีเกี่ยวกับทรัพย์ ๓ คดี
- ๑.ภายใน ๔๘ ชม. นำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ ครั้งที่ ๑ / ๒. ภายใน ๑๒ วันไปฝากขังครั้งที่ ๒ / ๓.ฝากขังครั้งที่ ๓ / ๔.ฝากขังครั้งที่ ๔ / ๕.นำสำนวนไปส่งอัยการ สรุป เดินทาง ๕ ครั้ง ครั้งละ ๕๐๐ บาท ๑ คดีค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ๓ คดี รวม ๗,๕๐๐ บาท
๔.คดีเกี่ยวกับชีวิตร่างกาย ๒ คดี
- ๑.ภายใน ๔๘ ชม. นำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ ครั้งที่ ๑ / ๒. ภายใน ๑๒ วันไปฝากขังครั้งที่ ๒ / ๓.ฝากขังครั้งที่ ๓ / ๔.ฝากขังครั้งที่ ๔ / ๕.นำสำนวนไปส่งอัยการ สรุป เดินทาง ๕ ครั้ง ครั้งละ ๕๐๐ บาท ๑ คดีค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ๒ คดี รวม ๕,๐๐๐ บาท
๕.คดีเกี่ยวกับเพศ ๑ คดี
- ๑.ภายใน ๔๘ ชม. นำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ ครั้งที่ ๑ / ๒. ภายใน ๑๒ วันไปฝากขังครั้งที่ ๒ / ๓.ฝากขังครั้งที่ ๓ / ๔.ฝากขังครั้งที่ ๔ / ๕.นำสำนวนไปส่งอัยการ สรุป เดินทาง ๕ ครั้ง ครั้งละ ๕๐๐ บาท ๑ คดีค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ๑ คดี รวม ๒,๕๐๐ บาท
๖.คดีที่ผู้เสียหาย พยาน ผู้ต้องหา เป็นเด็กหรือเยาวชน ตาม ป.วิ.อ. ๑๓๓ ทวิ จำนวน ๒ คดี
-๑.ภายใน ๒๔ ชม. นำตัวไปตรวจจับที่ศาลเยาวฯ ๒. ภายใน ๓๐ วันไปผัดฟ้องครั้งที่ ๒ ๓.ผัดฟ้องครั้งที่ ๓ ๔.ผัดฟ้องครั้งที่ ๔ ๕.นำผู้เสียหาย พยานไปสอบปากคำร่วมกับอัยการ นักจิตฯ ๖.นำผู้ต้องหาไปสอบปากคำร่วมกับอัยการ นักจิตฯ ที่ปรึกษากฎหมาย ๗.ส่งสำนวนอัยการ เดินทาง ๗ ครั้ง ครั้งละ ๕๐๐ บาท คดีละ ๓,๕๐๐ บาท ๒ คดี รวม ๗,๐๐๐ บาท และจ่ายให้ที่ปรึกษากฎหมาย ครั้ง ๕๐๐ บาท
๗.คดีจราจร เฉพาะที่ ฟ้องผู้ต้องหา จำนวน ๒ คดี ไม่รวมคดีที่เกิดขึ้นออกไปตรวจที่เกิดเหตุประมาณ ๑๐๐ ครั้ง ต่อเดือน เฉลี่ยรถชนกันวันละ ๓-๔ ครั้ง
๑.ภายใน ๔๘ ชม. นำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ ครั้งที่๑ / ๒.ภายใน ๑๒ วันไปฝากขังครั้งที่ ๒ / ๓.ฝากขังครั้งที่ ๓ / ๔.ฝากขังครั้งที่ ๔ / ๕.นำสำนวนไปส่งอัยการ สรุป เดินทาง ๕ ครั้ง ครั้งละ ๕๐๐ บาท ๑ คดี ค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ๒ คดี รวม ๒,๕๐๐ บาท
รวมค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเฉพาะค่าน้ำมันเดินทางไปศาลฯ อัยการฯ คุมประพฤติฯ สำนักงานตรวจพิสูจน์ของกลาง คิดคำนวณตามคดี ตกเดือนละประมาณ ๑๑๙,๕๐๐ บาท รับงบประมาณจากราชการเพืยง เดือนละ ๗,๐๐๐ บาท
ยังไม่รวมค่ากระดาษ หมึก ปากกา ดินสอ แต่ละเดือน โต้ะ เก้าอี้คอมพิวเตอร์ ซื้อเอง
เห็นไหมครับนี้เพียงคิดคำนวณเอาจากตัวเลขสถิติคดีจริงๆ เฉพาะจับตัวผู้ต้องหาได้นะครับ ค่าใช้จ่ายสถานีตำรวจที่ผมประจำอยู่โดยประมาณเท่านี้ครับ สถานีตำรวจที่ผมอยู่มีพนักงานสอบสวน อยู่ จำนวน ๖ เทพ ก็ต้องช่วยแบกรับภาระส่วนนี้เพื่อให้งานเดินไปได้เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุขเรียบร้อย
นี้เป็นเพียงเฉพาะงานสอบสวนนะครับ เพราะงานสอบสวนเรามีหน้าที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอเพื่อพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา เพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ไม่ว่าประชาชน จะอยู่ในฐานผู้เสียหาย พยาน ผู้ต้องหาหรือจำเลยก็ตาม ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เราไม่ได้นั่งอยู่ที่เก้าอี้ที่สถานีตำรวจเพียงอย่างเดียวเหมือนกับหน่วยงานอื่นที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เราต้องออกไปแสวงหาและ รวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอ ก็อยากให้พี่น้องประชาชน นักวิชาเกินทั้งหลายได้รับรู้ เข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมของตำรวจมีอย่างไรบ้าง นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเล็กๆ ของงานสอบสวนเท่านั้นนะครับ
ประกอบเงินเดือนค่าตอบแทน ของพนักงานสอบสวน ทำงานมา ๓๐ ปี รับประมาณ ๔๐,๐๐๐-๔๕,๐๐๐ บาท ส่วนอัยการ ศาล ทำงานมาประมาณ ๑๔-๑๕ ปี เงินเดือนและค่าตอบแทน ๑๐๐,๐๐๐ กว่าบาท
ท่านทั้งหลายที่จะปฏิรูปตำรวจเคยรู้เรื่องนี้ไหมครับ เมื่อรู้แล้วก็หวังว่าท่านจะปฏิรูปลงไปถึงรายละเอียดนี้ด้วยนะครับ ไม่ใช่คิดปฏิรูป คิดได้แค่เพียงเปลี่ยนแปลงหน่วยงานการกำกับดูแล การรวมอำนาจ เปลี่ยนเป็นการกระจายอำนาจให้นักเลงท้องถิ่นเข้ามาคุมตำรวจเท่านั้นเพื่อความสะใจเท่านั้นเอง และผมเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญของนักเลงท้องถิ่นมากนัก รัฐบาลชุดนี้ต้องการให้ข้าราชการยืนอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องพึ่งนักลากตั้งโดยเฉพาะนักเลงท้องถิ่น
ก็ขอแสดงความคิดเห็นเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ส่วนท่านใดจะแสดงความคิดเห็นต่อยอดต่อไปอีกก็เชิญได้ตามสบายครับ เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของตำรวจ และเพื่อให้ประเทศชาติ บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า สังคม ประชาชนสงบสุขเรียบร้อยต่อไป
ข้างต้นนี้เป็นความเห็นของพนักงานสอบสวนท่านหนึ่ง ที่อัดอั้นกับกระแสปฏิรูปตำรวจ และได้รับส่งต่อ ๆ กันมาทาง ไลน์ บ้าง เฟสบุ๊ค บ้าง ก็นำมาถ่ายถอดกันอีกครั้ง เผื่อท่านนักปฏิรูปทั้งหลายได้มาอ่าน จะได้เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจกันมากขึ้น
นี่แค่งานสอบสวนงานเดียวนะครับ งานด้านอื่น ๆ ก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน ทั้ง งานป้องกันปราบปราม , งานสืบสวน , งานจราจร , งานอำนวยการ ล้วนแต่ขาดแคลนงบประมาณ และทรัพยากรต่าง ๆ ทั้งสิ้น ยังไงก่อนคิดจะปฏิรูป น่าจะเชิญพวกช่างคิด ช่างติ ลองมาเป็นตำรวจกันดูสักเดือน สองเดือน น่าจะดีนะครับ ....
ปล. ค่าใช้จ่ายข้างต้นเป็นการประมาณการที่อาจจะสูงเกินจริงไปบ้าง เพราะในบางครั้ง การฝากขัง หรือส่งสำนวน อาจไปพร้อมกันหลาย ๆ คดีได้ครับ
ปล.2 รูปจากกูเกิ้ล
*******************
ข้างต้นนี้เป็นความเห็นของพนักงานสอบสวนท่านหนึ่ง ที่อัดอั้นกับกระแสปฏิรูปตำรวจ และได้รับส่งต่อ ๆ กันมาทาง ไลน์ บ้าง เฟสบุ๊ค บ้าง ก็นำมาถ่ายถอดกันอีกครั้ง เผื่อท่านนักปฏิรูปทั้งหลายได้มาอ่าน จะได้เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจกันมากขึ้น
นี่แค่งานสอบสวนงานเดียวนะครับ งานด้านอื่น ๆ ก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน ทั้ง งานป้องกันปราบปราม , งานสืบสวน , งานจราจร , งานอำนวยการ ล้วนแต่ขาดแคลนงบประมาณ และทรัพยากรต่าง ๆ ทั้งสิ้น ยังไงก่อนคิดจะปฏิรูป น่าจะเชิญพวกช่างคิด ช่างติ ลองมาเป็นตำรวจกันดูสักเดือน สองเดือน น่าจะดีนะครับ ....
ปล. ค่าใช้จ่ายข้างต้นเป็นการประมาณการที่อาจจะสูงเกินจริงไปบ้าง เพราะในบางครั้ง การฝากขัง หรือส่งสำนวน อาจไปพร้อมกันหลาย ๆ คดีได้ครับ
ปล.2 รูปจากกูเกิ้ล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น