ประเด็นการอภิปรายเรื่องการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 13 ม.ค.58 คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สนช. ณ อาคารรัฐสภา 2
พล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผบช.กมค.
-การปฏิรูปตำรวจ ต้องปรับทัศนคติก่อน. คนในต้องเปิดใจ คนนอกต้องรับฟัง การปฏิรูปต้องทำให้ดีขึ้น เข้าใจตรงกันก่อน
-การเปลี่ยนแปลงของ ตร.มีวิวัฒนาการปี 2521 แยกตำรวจออกจากพลเรือน 2541 ตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2545 ปฏิรูประบบราชการ 2547 ใช้ พรบ.ตำรวจ
-การโอนภารกิจปัญหาอยู่ที่ความพร้อมของหน่วยที่จะรับโอน.
-ตำรวจเป็นหน่วยงานที่มีกำลังพลกระจายอยู่ทุกตำบล รัฐมักใช้ตำรวจปฏิบัติภารกิจโดนไม่ต้องตั้งหน่วยงานใหม่ กระทรวงอื่นมีงบแต่ไม่มีคน
-งานอื่นที่โอนไปแล้วก็ยังใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น dsi ป.ป.ช. ก็ยังต้อง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปร่วม
-ภารกิจที่จะโอน หน่วยอื่นอยากได้เฉพาะที่มีผลประโยชน์ เช่น งานทะเบียน งานขออนุญาต การเปรียบเทียบปรับ เป็นต้น
-การกระจายอำนาจ มีข้อจำกัดเพราะ ผบ.ตร.มีฐานะต้องรับผิดชอบเป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับกรม และใช้อำนาจของปลัดกระทรวงด้วย ดังนั้น ผบ.ตร.ยังต้องรับผิดและรับชอบด้วย ปัญหาจะแก้ด้วยการเป็นนิติบุคคล
วันชัย สอนศิริ
-ขณะนี้มีการพิจารณาปฏิรูปทั้งตำรวจ อัยการ ศาล กกต. ป.ป.ช.ศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวในนามคณะกรรมาธิการ
-แนวทางการปฏิรูปตำรวจของคณะกรรมาธิการ
1.ปัญหาตำรวจถูกแทรกแซงจากการเมือง ใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือทางการเมือง จะต้องทำให้ตำรวจเป็นอิสระจากการเมือง การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นอิสระ
2.กระจายอำนาจการบริหารงานตำรวจ หัวใจตำรวจคือโรงพัก ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วม
3.ปรับปรุงโครงสร้างองค์การให้เหมาะสม
4.ตัดโอนภารกิจที่ไม่ใช่ภารกิจตำรวจ
-สิ่งเร่งด่วนที่ควรดำเนินการ ควรลดขนาดองค์กร ลดภารกิจ ทำให้สายการบังคับบัญชาสั้นลง ทอนให้สั้นลง มีส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคไม่ต้องให้อำนาจเข้ามาถึง ผบ.ตร.
-ข้อมูลตำรวจที่ได้จากอดีตข้าราชการ กับข้าราชการตำรวจปัจจุบัน มักไม่ตรงกัน
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ
-ทำให้ตำรวจกลับมาเชื่อมั่นในระบบคุณธรรม
-ต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ รัฐต้องลงทุน
-ทำให้ตำรวจมีจิตวิญญาณในการปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจต้องมีวินัยแต่ก็ต้องมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
-ตำรวจต้องเป็นพันธมิตร partnership กับประชาชน
-การกระจายอำนาจต้องทำให้หน่วยงานตำรวจเป็นนิติบุคคล หัวหน้าหน่วยต้องเป็นผู้รับผิดและรับชอบ ตั้งงบประมาณเอง ถูกฟ้องเอง บริหารเอง กระจายอำนาจลงไป ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้า ประชาชนตรวจสอบได้
-การแก้ปัญหากำลังพลขาดแคลน ต้องมีกำลังพลทางเลือก ตำรวจเกณฑ์ ใช้ พรบ.รปภ.เอกชน พรบ.ไกล่เกลี่ยคดีอาญา
-การปฏิรูปควรดำเนินการไปพร้อมๆกันหลายด้านทั้งเรื่องโครงสร้าง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.
น้อมรับการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ในสิ่งที่จะทำให้ดีขึ้น ที่สำคัญการปฏิรูปให้ประชาชนได้รับประโยชน์ ควรถามเพื่อนข้าราชการตำรวจด้วย ผู้ปฏิบัติรู้ดีที่สุดว่าควรปรับเปลี่ยนอย่างไร การลอกเลียนประเทศอื่น ต้องคำนึงถึงสภาพประเทศเราเอง ประเทศเหล่านั้นพัฒนามาดีกว่าเรา เรายังมีความจำเป็นด้านความมั่นคง ปัญหาชายแดน หากกระจายอำนาจสุดโต่ง อาจกระทบต่อเรื่อง single command ผมเป็นคนแรกที่ประกาศว่าไม่ต้องการให้ตำรวจรับส่วย ปัญหาส่วยไม่ได้อยู่ที่ตำรวจ แต่เป็นเรื่องผีเน่ากับโลงผุ ตำรวจก็อยากรับ ประชาชนก็อยากให้
การรับฟังความคิดเห็นช่วงบ่าย 13 ม.ค.58
ดร.วิชช์ จีระแพทย์ ผู้แทนอัยการสูงสุด
1.กระจายเป็นนิติบุคคล 9 หน่วย (9ภาค) มีหัวหน้ายศ พล.ต.อ.
2.กำหนดสัดส่วนงบประมาณตำรวจให้ชัดเจน เป็นร้อยละของงานมั่นคง
3.ปรับโครงสร้าง ก.ตร. ประธานต้องมาจากการเลือกตั้งจากตำรวจ เป็นผู้ที่พ้นจากตำแหน่งมานาพอสมควร ห้ามหาเสียง
4.การแก้ไข ป.อาญา เพิ่ม ม.157/1 บัญญัติว่าผู้ใดเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่น ได้ตำแหน่งโดยมิได้เป็นหลักคุณธรรมจริยธรรม ความรู้ความสามารถ มีโทษเท่า ม.157
ปรีชา บุตรศรี
1.การมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น กต.ตร.ไม่ work เพราะคนที่เชิญมา ไม่กล้าให้ความเห็น การมีส่วนร่วมควรเป็น "สภาพลเมือง" ทำหน้าที่ให้ความเห็นข้อเสนอแนะแก่สภาท้องถิ่น
2.ปัญหาการถ่ายโอนภารกิจ ความไม่พร้อมของหน่วยที่จะรับโอนจะต้องแก้ไขโดย สร้างกระบวนการขั้นตอนในการถ่ายโอน ตำรวจเป็นพี่เลี้ยง กำหนดเงื่อนระยะเวลา ออกกฎหมายบังคับให้มีการถ่ายโอน
3.ควรทบทวนการแก้ไข ป.วิ.อาญา การมีความเห็นแย้งความเห็นพนักงานอัยการ. ที่แก้ไขเป็นอำนาจของ ผบช.
พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์
-งานที่จะโอนควรมีการประเมินงานที่เคยโอนไปแล้วว่ามีประสิทธิภาพหรือมีข้อขัดข้องอย่างไร ด้วย
พล.ต.ต.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบช.ภ.7
-การพิจารณามีความเห็นแย้งพนักงานอัยการของ ผบช. ตำรวจมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณา
พ.ต.อ.ศรศักดิ์ แก้วรักษา
-ปัญหาอยู่ที่คน ทั้งในและนอกองค์กรตำรวจ บุคลากรตำรวจมีความพร้อม อย่าหยามตำรวจ
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.สกพ.
1.การกระจายอำนาจ ทำเป็นนิติบุคคล การปรับลด ผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำเป็นแผนการลดระยะ 5-10 ปี ทำให้สายการบังคับบัญชาลดลง
2.การโอนภารกิจ ดูว่าโอนไปแล้วจะทำได้หรือไม่ งานบางอย่างให้เอกชนทำ เช่น ธนาคาร ศาลให้มีตำรวจศาลดูแลผู้ต้องขัง
3.ความร่วมมือกับท้องถิ่น มีกฎหมายให้ท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณ กำหนดเป็นสัดส่วน นำมาใช้งานตำรวจชุมชน ตำรวจบ้าน สนับสนุนเครื่องเครื่องใช้
พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา
1.ปัญหาตำรวจคือการบริหารงานบุคคล ขึ้นอยู่กับรัฐบาล
2.ความขาดแคลนงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ รัฐลงทุนให้ตำรวจ 320,000 บาท/คน/ปี แต่ลงทุนให้ dsi. 1,900,000 บาท/คน/ปี มากกว่าตำรวจ 300% แต่หวังผลงานตำรวจให้เท่ากัน ค่าน้ำมันรถเดือนละ 300 ลิตร เฉลี่ยวันละ 10 ลิตร ไม่พอทำงาน
3.ควรพิจารณาภารกิจที่มีความทับซ้อนกับหน่วยงานอื่นด้วย
4.การกระจายอำนาจเป็นนิติบุคคล เห็นด้วย
5.การฝึกอบรมมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ
ผู้แทน สนช.
1.การปฏิรูปตำรวจ ประชาชนได้อะไร
2.ยอมรับจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจ ข้าราชการตำรวจผู้น้อยควรมีข้อเสนอแนะสามารถสร้างการยอมรับได้
3.งบบุคลากรมีสัดส่วนมาก ขาดงบพัฒนา
4.วัฒนธรรมองค์กรต้องเปลี่ยนแปลง ผู้บังคับบัญชาไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ รับฟังปัญหา
5.ยศตำรวจเลิกยาก แต่งานที่ไม่เกี่ยวกับงานตำรวจใช้ตำรวจไม่มียศ
6.การบังคับใช้กฎหมาย ต้องพูดย้ำกับประชาชนให้รู้ว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
7.ยกเลิกระบบอุปถัมภ์ รวมทั้งใบสั่งจราจรด้วย
8.งบประมาณ จำเป็นเพื่อสร้างระบบ it ช่วยบังคับใช้กฎหมาย เช่น ส่งใบสั่งทางไปรษณีย์
9.การโอน ทำหน่วยงานให้เล็กลง ยังไม่ชัดเจนเรื่องที่เห็นว่าหน่วยงานรับโอนไม่มีความพร้อม
10.การพัฒนาบุคลากร ตำรวจกองประจำการต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
11.การแต่งตั้ง ควรมีการมอบอำนาจแต่งตั้ง
คุณรัชดา ผู้แทนสภาทนายความ
-สิ่งที่ตำรวจทำได้ดีขึ้น คือ ลดคดีซ้อมผู้ต้องหา และปฏิสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับประชาชนในสถานีตำรวจดีขึ้น
ข้อเสนอ
1.ควรโอนงานบางอย่างเช่น งานทะเบียน ขออนุญาต โรงแรมโรงจำนำ งานที่ใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน เช่น สรรพสามิต สรรพากร ตำรวจรถไฟ ตำรวจท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น ไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงดำเนินการ
2.โครงสร้าง กต.ตร.โดยหลักการดี มาจากภาคประชาชน แต่ที่ผ่านมาคัดเลือกจากพ่อค้าคหบดี ควรปรับการสรรหาเพื่อให้ได้ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆเช่นอัยการ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย เพื่อช่วยงาน กต.ตร.
พล.ต.ต.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ ผบก.อก.บช.ก.
1.จะมีการแก้กฎหมายให้กรมสรรพากรมีอำนาจสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับภาษี แต่ยังมีปัญหาขอบเขตของคดีที่จะดำเนินการ เช่น คดีปลอมใบกำกับภาษี จะอยู่ในขอบเขตหรือไม่
2.การโอนงานแล้ว ควรส่งข้อมูลให้ตำรวจด้วยหรือการประสานการปฏิบัติ เช่น ยิงปืนเพื่อเก็บตัวอย่างหัวกระสุนสำหรับการขออนุญาตอาวุธปืน เพื่อประโยชน์ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา
1.การกระจายอำนาจบางส่วน เช่น การบริหารงานบุคคล แต่จะต้องรวมอำนาจบางส่วน เช่น การ ถปภ. งานรักษาความสงบเรียบร้อย งานความมั่นคง ศชต.
2.การโอนงานต้องคำนึงถึง 1) ประสิทธิภาพ 2) ประหยัด 3) ความรับผิดชอบ
3.องค์กรดูแลการบริหารงานบุคคลไม่ควรมีฝ่ายการเมือง ควรมาจากการเลือกตั้งของตำรวจ
ความคิดเห็นอื่นๆ ได้แก่
-ตร.ต้องการคนเก่ง ดี กล้า
-การปฏิรูปให้สำเร็จต้องจริงใจ คนในองค์กรต้องรับฟังประชาชน
-การปฏิรูปควรให้ความสำคัญกับการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย
-ปัญหาอยู่ที่คน กับระบบงาน จำเป็นต้องปรับทั้งโครงสร้างสวัสดิการ และงบประมาณ
ฯลฯ
หมายเหตุ รอบบ่ายดำเนินการอภิปรายโดย พล.ต.ต.ดร.ปิยะ อุทาโย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น