เมื่อวันที่ 7 ม.ค.59 พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ ผกก.สส.3 บก.สส.ภาค 5 เร่งขยายผล หลังทำการล่อซื้อและจับกุมตัว ด.ต.เสรีฯ ตำแหน่ง ผบ.หมู่สืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.เชียงราย (กก.สส.ภ.เชียงราย) พร้อมพวกรวม 3 คน ยึดของกลางยาบ้า 180,000 เม็ด บรรจุในกระเป๋าเป้สะพาย 2 ใบ อาวุธปืนพกขนาด 9 มิลลิเมตร และอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .765 จำนวน 1 กระบอก จับกุมทั้งหมดได้ที่บริเวณตึกแถวห้องเช่าขายของ หน้าโรงแรม 5 ดาวชื่อดัง ม.13 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย โดย ผบช.ภ.5 มีคำสั่งให้ออกจากราชการ และดำเนินคดีอาญาอย่างถึงที่สุดกับ ด.ต.เสรี ตำรวจนอกรีตไว้แล้ว
จากการขยายผลทราบว่า ขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่ม ด.ต.เสรี มีความซับซ้อน เป็นเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มของนายเล่าเอ๋อ หัวหน้าแก๊งค้ายา นายทุนผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้ามด่านพรมแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประสานผ่านสายลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปลอมตัวเข้าไปอยู่ในขบวนการกลุ่มนี้ โดยมีนายน้อย ลูกสมุนมือขวาของนายเล่าเอ๋อ ซึ่งเคยถูกจับในคดียาเสพติด คอยประสานไปยัง ด.ต.เสรี เพื่อช่วยหาลูกค้า และทำหน้าที่ติดตามทวงหนี้ค่ายาให้นายเล่าเอ๋อ
นอกจากนี้ ด.ต.เสรี ยังทำหน้าที่ติดต่อซื้อยาเสพติดจากนายน้อย และนำยาบ้าทุกครั้งไปขายส่งต่อให้นายสมบูรณ์ หรือ กำนันสมบูรณ์ ชาว ส.ปป.ลาว นายทุนใหญ่ฝั่งลาว รับช่วงไปจำหน่ายต่อเอเยนต์ผู้ค้ายากลุ่มอื่นตามลำดับ และจากการขยายผล ยังพบด้วยว่า ด.ต.เสรี มีฐานะร่ำรวย เปิดธุรกิจฟิตเนสแบย่านดอยเขาควาย อ.เมืองเชียงราย และยังใช้ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ ที่มีอำนาจการสืบสวนจับกุมได้ทั้งจังหวัด ไปคุ้มครองเก็บส่วยจากธุรกิจผิดกฏหมาย อยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์ทั้งหมดเพื่ออายัดมาดำเนินคดี
ถือเป็นอีกหนึ่งเนื้อร้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะต้องตัดทิ้ง และเชื่อว่านี่ไม่ใช่รายสุดท้ายแน่นอน หากยังหลงผิดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สุดท้ายก็หนีไม่พ้นกฎหมายบ้านเมือง และทรัพย์สินที่มีก็จะถูกยึดไปสิ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น