คุณสมบัติ ผบ.ตร. ในฝันของข้าราชการตำรวจ

การดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ในแต่ละยุคแต่ละสมัย  แต่ละคนล้วนเกิดจากการพิจารณาจากผู้มีอำนาจ  ไม่ได้มีการกำหนดคุณสมบัติเฉพาะที่ควรมี  สำหรับการเป็นเบอร์ 1 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  บางครั้งจึงได้ ผบ.ตร. ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานในแบบตำรวจ  เมื่อไม่มีประสบการณ์ตรง จึงไม่เกิดความเข้าใจถึงปัญหา อุปสรรค ที่ตำรวจระดับโรงพักจะต้องพบเจอ

     บางคนคิดเอาเองว่ามีความเข้าใจ  ทุกสถานีตำรวจคงมีสภาพเหมือนนครบาล  สั่งการแบบเหมารวม  ไม่ดูพื้นที่ อาคารที่ทำการ ศักยภาพ งบประมาณ บุคลากร ว่ามันแตกต่างกันเพียงใด   คนไม่เคยทำงานจริง ๆ จะเข้าใจการทำงานได้อย่างไร  เบื่อมากพวกนักวิ่งเต้น  โดดไปอยู่หน้าห้องคนนั้นทีนึง  แล้วก็สลับมา บช.ก. ไป ตม. กลับมาหน้าห้องอีก อะไรแบบนี้  คนแบบนี้จะมาเป็นผู้นำพาพี่น้องตำรวจสองแสนกว่านาย มันใช่หรือ  ถ้าให้ตำรวจเลือกยังไงก็ไม่ได้แน่  แต่คนแบบนี้จะเกาะติดผู้มีอำนาจ  พาลอยขึ้นไปสอยตำแหน่งที่หมายปองได้เสมอ  ส่วนคนทำงานอยู่โรงพัก ไปไกลสุดก็เกษียณหัวหน้าสถานี  แบบนี้ต่างหากที่ควรปฏิรูป

     มาดูคุณสมบัติที่ควรจะเป็น ของผู้นำ 4 คน ที่สำคัญที่สุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ หัวหน้าสถานี , ผู้บังคับการ , ผู้บัญชาการ และ ผบ.ตร.(ตามที่ พล.ต.อ.อดุลย์ฯ เคยกล่าวไว้)

  • คุณสมบัติหัวหน้าสถานี  ต้องผ่านงานสอบสวนมาอย่างน้อย 2 ปี  ด้วยการทำสำนวนจริง  ไม่ใช่เอาชื่อไปฝากไว้เท่านั้น  ต้องมีสำนวนอย่างน้อย 100 คดี ในกลุ่มสถิติคดีอาญาทั้ง 4 กลุ่ม และต้องทำงานจริงที่สถานีตำรวจอย่างน้อย 4 ปี(สอบสวน 2 ปี สายงานอื่น ๆ อีก 2 ปี) เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมาย ทราบปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ของสถานีตำรวจ ดูความเป็นอยู่ของพี่น้องตำรวจว่าเขาอยู่กันยังไง  และเพื่อความเป็นธรรม ให้เริ่มใช้ในอีก 5 ปี นับจากประกาศ 
  • คุณสมบัติผู้บังคับการตำรวจ ในสังกัด บช.น. , ภูธร 1 - 9 และ ศชต.  จะต้องเคยเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี   เพื่อให้เข้าใจถึงสภาพปัญหา ข้อจำกัดต่าง ๆ  ที่สถานีตำรวจจะต้องพบเจอ   และเพื่อความเป็นธรรม ให้เริ่มใช้ในอีก 10 ปี นับจากประกาศ
  • คุณสมบัติผู้บัญชาการ  บช.น. , ภูธร 1 - 9 และ ศชต.  จะต้องเคยเป็นผู้บังคับการในกองบัญชาการนั้น ๆ มาก่อนอย่างน้อย 2 ปี  เพื่อให้คนใน บช. นั้น ๆ ได้เติบโต  เริ่มใช้ในอีก 13 ปี นับจากประกาศ
  • คุณสมบัติผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  จะต้องเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจตามคุณสมบัติข้อแรก มาอย่างน้อย 2 ปี  เพื่อจะได้เรียนรู้ว่า "จุดแตกหัก" เขาอยู่กันยังไง  มีปัญหา ข้อจำกัดอะไรบ้าง  เริ่มใช้นับจากประกาศอีก 15 ปี 

     ชัดเจนนะครับ ถ้าได้สเปกนี้  พวกเด็กนาย หน้าห้อง  ยังไงก็ต้องลงมาทำงานแบบตำรวจจริง ๆ ไม่ใช่ถือกระเป๋าตามนายเท่านั้น   ส่วนสายอื่น ๆ ล่ะ  อย่าง ตชด. บช.ก. บช.ส. ฯลฯ  คือต้องเข้าใจนะครับ ว่าตำรวจทั่วประเทศส่วนใหญ่คือตำรวจโรงพัก ที่มีประมาณ 1,500 สถานีทั่วประเทศ  พวกนี้คือสายหลักที่ต้องสัมผัสกับพี่น้องประชาชน  เราจำเป็นต้องมี ผบ.ตร. ที่เข้าใจทั้งตำรวจ และประชาชน  องค์กรถึงจะเดินหน้าไปได้อย่างที่มันควรจะเป็น  ไม่ใช่เป็นองค์กรของนักวิ่งเต้น การต่อรองผลประโยชน์ หรือการประลองอำนาจของอีลีทแต่อย่างใด




     ถ้าดันคุณสมบัตินี้ให้ใช้จริงได้ในอีก 15 - 20 ปีข้างหน้า  ผู้ท้าชิง ผบ.ตร. จะเป็นคนที่เคยผ่านงานสถานีตำรวจมาแล้วอย่างน้อย 4 ปี เคยเข้าเวรสอบสวนด้วย  ลองคิดดูสิครับ  จะหยิบคนไหนขึ้น ผบ.ตร.  พี่น้องตำรวจก็รับได้  เพราะเขาเป็นพวกเรา เป็นตำรวจจริง ๆ  ตำรวจที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับลูกน้อง  ตำรวจที่สัมผัสกับประชาชน  รู้จักทุกข์สุขของผู้คน  อยากเห็นบรรดาผู้ท้าชิงมีคุณสมบัติอย่างนี้จริง ๆ

     สรุปผมก็ฝันเฟื่องไปงั้น  ระบบมันเคยเป็นมาอย่างไร  คนตัวเล็ก ๆ คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงมันได้  แต่ก็ขอเสนอไว้ให้ช่วยกันคิดครับ  ผมได้เสนอจุดยืนแนวคิดของผมแล้ว  อยากฟังจากเจ้านายบ้างเหมือนกัน ^^

ความคิดเห็น