หลังจากกรณีฉีกทำลายบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งผู้ก่อเหตุมีหลากหลาย ทั้งเด็กน้อยที่ฉีกเอาไปเล่น , เด็กฉีกเอาไปเผาเล่น , ผู้ป่วยจิตเภท , เอาไปจุดไฟไล่ยุง รอรับแฟน , ลิงฉีก , ป้ายล้ม หมากัดขาด , ลมพัดฉีกขาด ฯลฯ จึงได้มีคำสั่งจากที่ประชุม ศปก.ตร. ให้เป็นภาระเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศในการออกตรวจป้องกันเหตุ ไม่ให้เกิดเหตุฉีกทำลายบัญชีรายชื่อโดยเจตนาอีก
รวมทั้งให้ประสานกับ กกต.ประจำอำเภอ ต่าง ๆ ให้การติดประกาศหรือบัญชีรายชื่อตามหน่วยลงประชามติทั้งหลายนั้น เป็นไปอย่างรอบคอบกว่านี้ อาทิ
ตอนนี้พี่น้องตำรวจทั่วประเทศเลยถูกเพิ่มงาน ต้องไปตามตรวจหน่วยดูว่าบัญชีรายชื่อยังอยู่ดีหรือเปล่า นอกเหนือจากการตรวจธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ ต่าง ๆ ที่มีจุดตรวจมากอยู่แล้ว ทำไรเรื่องอย่างนี้ไม่เป็นหน้าที่ของ กกต.อำเภอ จังหวัด มาเป็นเรื่องของตำรวจอีก
ด้วยบรรยากาศการลงประชามติในยุคเผด็จการทหาร ที่สร้างบรรยากาศความกลัว แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังลนลานกับปรากฎการณ์ฉีกบัญชีรายชื่อ ถ้าเป็นยุคประชาธิปไตย เหตุการณ์แบบเด็กฉีกบัญชี หรืออื่น ๆ คงไม่เป็นประเด็น หรือดำเนินคดีแต่อย่างใด เพราะยังไงก็สามารถถ่ายเอกสารมาติดแทนได้อยู่แล้ว
การสร้างบรรยากาศความกลัว ตำรวจกลัวว่าจะถูกย้าย ถูกตำหนิโดยทหาร จึงทำให้กระบวนการดำเนินคดีมันเว่อร์เกินจริง กกต. เองก็ไม่ได้ห่วงอะไรกับบัญชีเท่าไหร่ เพราะคราวก่อน ๆ ก็มีฉีกบ้าง หายบ้าง เป็นปกติอยู่แล้ว ....
ปล. ข่าวการดำเนินคดีกับเด็กฉีกบัญชีรายชื่อ ดังไปทั่วโลกเลยนะครับ
รวมทั้งให้ประสานกับ กกต.ประจำอำเภอ ต่าง ๆ ให้การติดประกาศหรือบัญชีรายชื่อตามหน่วยลงประชามติทั้งหลายนั้น เป็นไปอย่างรอบคอบกว่านี้ อาทิ
- ในกรณีที่เกิดลมพายุ บัญชีต้องไม่ปลิวหลุดหายไป บอร์ดต้องไม่ล้ม
- ติดไว้ในที่ที่ไม่ลึกลับ สามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่ต้องสูงพ้นมือเด็กเล็ก
- มีป้ายเตือนห้ามฉีก ดึง ทำลาย ฯลฯ
- หรือเก็บไว้ในที่ปลอดภัยในตอนกลางคืน แล้วเอาออกมาตอนกลางวัน
ตอนนี้พี่น้องตำรวจทั่วประเทศเลยถูกเพิ่มงาน ต้องไปตามตรวจหน่วยดูว่าบัญชีรายชื่อยังอยู่ดีหรือเปล่า นอกเหนือจากการตรวจธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ ต่าง ๆ ที่มีจุดตรวจมากอยู่แล้ว ทำไรเรื่องอย่างนี้ไม่เป็นหน้าที่ของ กกต.อำเภอ จังหวัด มาเป็นเรื่องของตำรวจอีก
ด้วยบรรยากาศการลงประชามติในยุคเผด็จการทหาร ที่สร้างบรรยากาศความกลัว แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังลนลานกับปรากฎการณ์ฉีกบัญชีรายชื่อ ถ้าเป็นยุคประชาธิปไตย เหตุการณ์แบบเด็กฉีกบัญชี หรืออื่น ๆ คงไม่เป็นประเด็น หรือดำเนินคดีแต่อย่างใด เพราะยังไงก็สามารถถ่ายเอกสารมาติดแทนได้อยู่แล้ว
การสร้างบรรยากาศความกลัว ตำรวจกลัวว่าจะถูกย้าย ถูกตำหนิโดยทหาร จึงทำให้กระบวนการดำเนินคดีมันเว่อร์เกินจริง กกต. เองก็ไม่ได้ห่วงอะไรกับบัญชีเท่าไหร่ เพราะคราวก่อน ๆ ก็มีฉีกบ้าง หายบ้าง เป็นปกติอยู่แล้ว ....
ปล. ข่าวการดำเนินคดีกับเด็กฉีกบัญชีรายชื่อ ดังไปทั่วโลกเลยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น