อาวุธปืนประจำกายของทางราชการ ที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ ตามสถานตำรวจต่าง ๆ นั้น มีมาตั้งแต่สมัยตั้งสถานีตำรวจใหม่ ๆ อย่างน้อยก็ตก 30 ปีขึ้นไป ผ่านการใช้งานตกทอดมาหลายมือ จึงมีบางส่วนที่สภาพไม่สมบูรณ์บ้าง ไม่เหมาะแก่การใช้งานบ้าง หรือไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้บ้าง ประกอบกับในปัจจุบันทาง ตร. ได้แจกอาวุธปืนชนิดใหม่ ขนาด 9 มม. ทั้ง Sig Sauer และ Glock อีกทั้งพี่น้องตำรวจก็เป็นเจ้าของอาวุธปืนในโครงการสวัสดิการกันเป็นจำนวนไม่น้อย
อาวุธปืนในคลังของแต่ละสถานีตำรวจ จึงกลายเป็นภาระในการจัดเก็บ และดูแล ทั้งการดูแลชโลมน้ำมันกันสนิม ทำความสะอาด ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นจะใช้แล้ว ใกล้จะขึ้นทะเบียนวัตถุโบราณกับกรมศิลปากรได้อยู่แล้ว จึงเห็นควรให้ทาง ตร. พิจารณา "จำหน่าย" อาวุธปืนของทางราชการ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อทั้งเจ้าหน้าที่ หน่วยจัดเจ็บ และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีหลายแนวทางที่เป็นข้อเสนอ อาทิ
อันนี้เป็นแนวทางคร่าว ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย อยากให้ทางผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลองพิจารณาดู เพราะมันเป็นปัญหาของสถานีตำรวจ อยู่ที่ท่านจะแก้ไข หรือซุกมันไว้ใต้พรม ปล่อยไว้จนปัญหามันทะลักออกมา เอาไงดีครับทั่น ?
- ส่วนหนึ่งอาจเรียกเก็บรวบรวมเป็นพิพิธภัณฑ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ได้เห็นความเป็นมาในอาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในอดีต ทั้งปืนสั้น และปืนยาว
- เฉพาะปืนยาวรุ่นเก่า ๆ ที่กระสุนก็ไม่มีให้ ใช้งานก็ยาก ไม่มีใครเบิกใช้แล้ว อาจมอบให้ ตชด. เอาไปดูแล หรือพิจารณาว่าจะนำมาใช้งานหรือไม่ ก็ได้
- ปืน .38 ส่วนหนึ่งจำหน่ายให้กับข้าราชการตำรวจในแบบสลักหลังห้ามโอน ต้องตกทอดเป็นมรดกเท่านั้น โดยคิดราคาที่ไม่แพง เป็นราคาสวัสดิการ แนวทางนี้น่าจะสามารถทำเงินเข้าคลังได้หลายล้านบาทแน่นอน เพราะอาวุธปืนลูกโม่ เป็นระบบอาวุธที่เชื่อใจได้ น่ามีไว้ในครอบครองคู่กับ 9 มม.
- ส่วนที่เสียหาย ซ่อมไม่ได้ ก็ให้จำหน่ายโดยการทำลายเสีย ไม่ให้ตกไปอยู่ในท้องตลาด รวมทั้งกระสุนเก่าเก็บหลายสิบปี ให้จำหน่ายให้หมด เอาไปใช้ก็เสี่ยงไม่คุ้มครับ
อันนี้เป็นแนวทางคร่าว ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย อยากให้ทางผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลองพิจารณาดู เพราะมันเป็นปัญหาของสถานีตำรวจ อยู่ที่ท่านจะแก้ไข หรือซุกมันไว้ใต้พรม ปล่อยไว้จนปัญหามันทะลักออกมา เอาไงดีครับทั่น ?
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น