ในช่วง 7 วันอันตรายของปี ทั้งปีใหม่ และ สงกรานต์ ถือเป็นช่วงเวลาที่พี่น้องตำรวจโรงพักทั่วประเทศทำงานกันอย่างหนัก ในฐานะทีมงานเฝ้าถนน ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยต้องคอยเฝ้าระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่าปีก่อนให้ได้ ยิ่งในช่วงสงกรานต์ 62 นี้ ถึงขนาดขู่ว่าหากมีคนตายเพิ่มจะต้องเอาผู้ที่เกี่ยวข้องมาปฏิบัติหน้าที่ ศปก. กันเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีตัวอย่างมาแล้ว ที่มีอุบัติเหตุจราจร แล้วมีผู้เสียชีวิตหลายคน ก็เอาผู้บังคับการจังหวัดมาประจำ ศปก. ทั้ง ๆ ที่เรื่องอุบัติเหตุจราจรนั้น มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย และที่สำคัญ "เจ้าภาพ" ของเรื่องนี้ก็คือ ปภ. หรือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลโดยตรง มีอำนาจ มีหน้าที่ มีเครื่องมือ กำลังพล และงบประมาณ
เคยเห็นข่าวการย้ายผู้ว่าราชการ หรือนายอำเภอ ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมอุบัติเหตุจราจร กับบ้างมั๊ยล่ะครับ .... ไม่มี ไม่ใช่แค่ในกรณีนี้ ในเรื่องอื่น ๆ ก็เช่นกัน ผู้บังคับบัญชาไม่ว่ากระทรวงไหน ก็ไม่เอาตัวรอดด้วยการลงโทษลูกน้องในเรื่องที่เขาไม่ผิด
ยิ่งกรณีอุบัติเหตุทางถนน เคยเอาสติปัญญาคิดกันบ้างหรือไม่ว่าทำกันมาเป็นสิบปี ตั้งแต่ยุคทักษิณ ทำไมอุบัติเหตุทางถนนถึงไม่ลดลง ทั้่ง ๆ ที่ตำรวจก็จับกันมากขึ้นทุกปี ๆ รณรงค์ก็แล้ว ให้ความรู้ก็แล้ว ทำป้ายเตือนก็แล้ว ..... เราไม่ใช่หน่วยเดียวที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยลำพังแน่ ๆ ตำรวจทำเต็มที่ทุกปี ทุกเทศกาล แล้วมึงจะลงโทษเขาให้มันได้อะไรขึ้นมา ลูกน้องเสียกำลังใจ แต่ตัวเองรอดงั้นหรือ ?
มาดูหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลดอุบัติเหตุทางถนนกันบ้าง ว่าแต่ละหน่วยเขามีบทบาทอย่างไร
นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องจิตสำนึกการเคารพกฎหมาย เคารพสิทธิของผู้อื่นในการใช้ถนนสาธารณะ ที่ต้องบ่มเพาะ สั่งสอนกันตั้งแต่เล็ก ๆ โตมาจะได้ไม่มีพฤติกรรมบ้าอำนาจ ละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่เคารพกฎหมาย กติกาสังคม เขียนกฎหมายเอื้อพวกพ้อง ตั้งคนของตัวเองขึ้นมาทุกหน่วยงานตรวจสอบ บอกมาแป๊บเดียวล่อไป 5 ปี แถมยังอยากอยู่ต่ออีก 20 ปี .... แค่นี้ก่อน หมอเรียกไปรับยา
ตำรวจไทย ไกลปืนเที่ยง
ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีตัวอย่างมาแล้ว ที่มีอุบัติเหตุจราจร แล้วมีผู้เสียชีวิตหลายคน ก็เอาผู้บังคับการจังหวัดมาประจำ ศปก. ทั้ง ๆ ที่เรื่องอุบัติเหตุจราจรนั้น มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย และที่สำคัญ "เจ้าภาพ" ของเรื่องนี้ก็คือ ปภ. หรือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลโดยตรง มีอำนาจ มีหน้าที่ มีเครื่องมือ กำลังพล และงบประมาณ
เคยเห็นข่าวการย้ายผู้ว่าราชการ หรือนายอำเภอ ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมอุบัติเหตุจราจร กับบ้างมั๊ยล่ะครับ .... ไม่มี ไม่ใช่แค่ในกรณีนี้ ในเรื่องอื่น ๆ ก็เช่นกัน ผู้บังคับบัญชาไม่ว่ากระทรวงไหน ก็ไม่เอาตัวรอดด้วยการลงโทษลูกน้องในเรื่องที่เขาไม่ผิด
ยิ่งกรณีอุบัติเหตุทางถนน เคยเอาสติปัญญาคิดกันบ้างหรือไม่ว่าทำกันมาเป็นสิบปี ตั้งแต่ยุคทักษิณ ทำไมอุบัติเหตุทางถนนถึงไม่ลดลง ทั้่ง ๆ ที่ตำรวจก็จับกันมากขึ้นทุกปี ๆ รณรงค์ก็แล้ว ให้ความรู้ก็แล้ว ทำป้ายเตือนก็แล้ว ..... เราไม่ใช่หน่วยเดียวที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยลำพังแน่ ๆ ตำรวจทำเต็มที่ทุกปี ทุกเทศกาล แล้วมึงจะลงโทษเขาให้มันได้อะไรขึ้นมา ลูกน้องเสียกำลังใจ แต่ตัวเองรอดงั้นหรือ ?
มาดูหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลดอุบัติเหตุทางถนนกันบ้าง ว่าแต่ละหน่วยเขามีบทบาทอย่างไร
- ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. หน่วยงานขึ้นตรงกระทรวงมหาดไทย ได้รับงบประมาณทุกปี ทำงานผ่านกลไกฝ่ายปกครอง อำเภอท้องที่ สั่งการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- แขวงการทาง ทางหลวงชนบท มีหน้าที่ทำถนนให้อยู่ในสภาพใช้งานได้อย่างปลอดภัย ติดป้ายเตือน ไฟส่องสว่าง ไฟสัญญาณ ฯลฯ
- ขนส่งทางบก มีหน้าที่ตรวจสภาพรถ ต่อทะเบียนรถที่จะใช้งานบนถนน ให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย (ปัญหารถควันดำ ท่อดัง ไม่รู้ว่าผ่าน ตรอ. มาได้อย่างไร) ตำรวจส่งใบสั่งความเร็ว ถ้าขนส่งไม่ร่วมมือ กฎหมายเรื่องความเร็วก็ไร้ค่า นับศพกันต่อไป
- ระบบขนส่งสาธารณะ เรามีตัวเลือกไม่มากนัก ถ้าไม่ช้า สกปรก ก็ อันตราย ถ้าทำให้ดีและปลอดภัย ก็จะลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนไปได้มากทีเดียว
นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องจิตสำนึกการเคารพกฎหมาย เคารพสิทธิของผู้อื่นในการใช้ถนนสาธารณะ ที่ต้องบ่มเพาะ สั่งสอนกันตั้งแต่เล็ก ๆ โตมาจะได้ไม่มีพฤติกรรมบ้าอำนาจ ละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่เคารพกฎหมาย กติกาสังคม เขียนกฎหมายเอื้อพวกพ้อง ตั้งคนของตัวเองขึ้นมาทุกหน่วยงานตรวจสอบ บอกมาแป๊บเดียวล่อไป 5 ปี แถมยังอยากอยู่ต่ออีก 20 ปี .... แค่นี้ก่อน หมอเรียกไปรับยา
ตำรวจไทย ไกลปืนเที่ยง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น