หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อ ปืนไฟฟ้า หรือ TASER GUN และแจกจ่ายให้กับสถานีตำรวจทั่วประเทศแล้วนั้น ในตอนแรกมีของแต่ไม่มีการฝึกการใช้ ก็ยังไม่มีใครกล้า จนเมื่อมีการฝึกและแนะนำการใช้จึงเริ่มเห็นการนำปืนไฟฟ้าดังกล่าวออกปฏิบัติหน้าที่ในกรณีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมคนเมาสุรา สารเสพติด หรือคนวิกลจริต
ผลการปฏิบัติได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สามารถป้องกันเจ้าหน้าที่ตำรวจจากการปะทะโดยตรงจากบุคคลเป้าหมายได้ สามารถหยุดยั้งไม่ให้บุคคลเป้าหมายทำร้ายผู้อื่น หรือสร้างความเสียหายแก่ประชาชนในที่เกิดเหตุ และยังไม่มีรายงานการบาดเจ็บจากการใช้ปืนไฟฟ้า
เมื่อเปรียบเทียบกับ ไม้ง่าม ที่ใช้ก่อนหน้านี้นั้น ไม้ง่ามจะต้องใช้คนอย่างน้อย 3-4 คน ในการปฏิบัติ อีกทั้งตัวไม้ง่ามเองมีความยาว อันเป็นข้อจำกัดในการใช้ในพื้นที่แคบ การใช้ปืนไฟฟ้าจึงสะดวกกว่ามาก แต่ต้องให้ผู้ใช้เข้าในระยะ 5-7 เมตร พร้อมกำลังสนับสนุนที่จะเข้าควบคุมตัวเป้าหมายทันที
ตอนนี้เกิดปัญหาอย่างที่ได้เคยกล่าวไว้ตั้งแต่รับปืนไฟฟ้ามาใหม่ ๆ นั่นคือ ซื้อแพง เอ๊ยไม่ใช่ นั่นคือ กระสุนมีเพียงชุดละ 4 นัด และตัวปืนไม่สามารถชาร์จไฟหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ อันนี้ได้ถามไปยังงานพลาธิการของแต่ละจังหวัดแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววใด ๆ จาก ตร. สงสัยตอนจัดซื้อไม่ได้คิดเผื่อ อย่าบอกนะว่าต้องรอตั้งงบไว้ปีหน้า
สถานการณ์ตอนนี้ในพื้นที่เมืองใหญ่ มีการใช้งานกันไปบ้างแล้ว กระสุนเหลือกันแค่ 1-2 นัด ส่วนที่เหลือก็เอามาฝึกจนแบตหมดไปบ้างก็มี ไม่รู้ว่าจะสามารถยืมกระสุนจากโรงพักเล็กมาสำรองไว้ก่อนได้หรือไม่ ต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้ากันยังไง
สะท้อนปัญหาจากผู้ปฏิบัติให้ฟังแล้ว ทาง ตร. จะจัดการอย่างไร ก็รีบนะครับ อย่าให้ผู้ปฏิบัติขาดการสนับสนุน
.... ตำรวจฝั่งทน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น