หลังจากผลการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ออกมา(แบบไม่เป็นทางการ) ปรากฎว่ากลายเป็นพรรคก้าวไกล ที่ได้คะแนนนำอย่างเกินความคาดหมาย ได้ ส.ส.รวม 152 คน โดยเฉพาะบัญชีรายชื่อ ที่ได้มากถึง 39 คนจาก 100 คน กลายเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทย ที่ได้ ส.ส. รวม 141 คน ดังนั้นนโยบายหลัก ๆ ในรัฐบาลถัดไป(ถ้าไม่โดนวิชามารยุบพรรค ตัดสิทธิ์) ก็จะมาจาก 2 พรรคใหญ่ ก้าวไกล-เพื่อไทย นี่แหละ
มาดูนโยบายเกี่ยวกับตำรวจ ของก้าวไกล กันครับ เพราะดูแล้วชัดเจนกว่าพรรคอื่น ๆ ยิ่งตอนอภิปรายเรื่องตำรวจในสภา ยิ่งได้เห็นว่าบุคลากรของพรรคนั้น "มองเห็น" ปัญหาขององค์กรตำรวจ และกล้า "ท้าทาย" ต่ออำนาจ ไม่ว่าจะมากจากส่วนที่แตะต้องไม่ถึง องคาพยพที่เกี่ยวข้อง หรืออำนาจมืดที่คอยสั่งการความไม่ถูกต้องต่าง ๆ ในองค์กร ส่วนตัวมองว่าทางพรรคนั้น "ใส่ใจ" การปฏิรูปตำรวจอย่างแท้จริง มาดูนโยบายหรือแนวทางการแก้ไขกันเป็นข้อ ๆ เลยครับ
- เลือกทรงผมเองได้ ไม่บังคับเกรียน ยกเลิกการบังคับตัดผมเกรียน คืนทรงผมให้ตำรวจ คืนความตระหนักรู้ถึงสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตำรวจทุกคน : เรื่องทรงผมนี่มีความสำคัญต่อบุคลิกภาพ และความมั่นใจมาก ทรงผมสั้นเกรียนไม่ได้เหมาะกับเบ้าหน้าทุกคน มันเป็นความอึดอัด ไม่พอใจที่สุมอยู่ในใจ จะไว้ทรงไหนก็ไม่เกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน แต่นอกเวลางานก็ไม่อยากแสดงตัว พอไว้ทรงสั้นเกรียน ไปไหนก็รู้ว่าเป็นตำรวจ-ทหารแน่นอน ยิ่งพวกสายสืบ ก็ไม่ต้องปลอมตัวกันแล้ว ไอ้ที่บอกว่าสายสืบไว้ผมได้มันไม่จริง เพราะมันก็ต้องมีวันใส่เครื่องแบบอยู่ดี ไม่มีตำรวจที่ไหนในโลกเขาบังคับทรงผมกันขนาดนี้ เอาแค่รองทรง ไม่ยาวเกินไปก็พอแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเราต้องมาพูดเรื่องทรงผมกันตั้งแต่มัธยม จนถึงแก่เฒ่า อะไรกันนักหนา
- เงินเดือนโอนตรง โอนครบ ไม่หัก ไม่ทอน ป้องกันการหักเงินเดือน-เบี้ยเลี้ยงกำลังพล : อันนี้ในบางกรณีที่หัก ที่ทอน มันคือการเฉลี่ยความสุขไปยังตำรวจที่ทำงานด้วยกัน แต่ไม่ได้มีชื่อเบิก ถ้าในสถานีพูดคุยกันรู้เรื่อง ตกลงกันก่อน ตรวจสอบกันได้ ก็ไม่เกิดปัญหา ที่มีปัญหาคือหน่วยเหนือเอาชื่อไปเบิก คนเบิกได้นิดเดียว หรือ หัวหน้าอมซะเอง ประมาณนั้น
- ชีวิตมั่นคง รายได้-สวัสดิการเหมาะสม เงินเดือนสอดคล้องค่าครองชีพ จัดสรรงบทั่วถึง มีค่าน้ำมัน-อุปกรณ์การทำงานเพียงพอ : ค่าน้ำมันนี่ก็ลดทุกปี ไม่สอดคล้องกับราคาน้ำมัน และภาระงานที่สั่ง สั่ง สั่งกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ออกตรวจ สแกนคิวอาร์โค้ด เยี่ยมผู้นำชุมชน ประชาชน ระงับเหตุ ช่วยเหลือประชาชน ตั้งจุดตรวจ ตรวจสอบบุคคลพ้นโทษ คนบ้า จิตเวช ว.4 จุดเสี่ยง ฯลฯ ถ้าไม่ใช้เงินเดือนเติมเอง ก็ต้องไปรีดไถ เป็นบ่อเกิดวัฒนธรรมเลวร้าย จริง ๆ ควรมีการคำนวณการ ว.4 ในแต่ละผลัด แต่ละพื้นที่ว่าค่าเฉลี่ยใช้ไปกี่กิโลเมตร แล้วค่อยมาคิดเป็นค่าน้ำมัน สายงานอื่น ก็คิดแบบเดียวกัย แล้วมาคำนวณเป็นระดับสถานีอีกที / ส่วนอุปกรณ์การทำงาน ทาง ตร. มีมาให้อย่างค่อนข้างเพียงพอแล้ว เช่น อาวุธปืนสั้นออโตเมติก , รถจักรยานยนต์ ที่ยังรอจัดซื้อเพิ่มเติม เช่น วิทยุสื่อสาร เสื้อเกราะ กล้องบันทึกติดตัว / จริง ๆ ทาง ตร. สามารถประหยัดงบประมาณไปได้อย่างมากถ้าสำรวจความต้องการก่อนจัดซื้อนะ เช่น รถจักรยานยนต์ , อาวุธปืน หรือ รถเช่าที่ค่าเช่าซื้อรถได้ 2 คัน(ต้องตรวจสอบความโปร่งใสเสียที บริษัทเดิมได้ตลอด มันยังไง)
- ร้องทุกข์ได้อย่างปลอดภัย จัดตั้งผู้ตรวจการตำรวจที่เป็นอิสระจาก สตช. รับเรื่องร้องเรียน -ปกป้องสิทธิของตำรวจทุกระดับที่ถูกผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้ง : อันนี้จริง จะร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากการถูกกลั่นแกล้งโดยผู้บังคับบัญชา ไม่รู้จะไปทางช่องทางใด สุดท้ายก็ย้ายหนี รึไม่ก็โดนย้าย
- เติบโต-โยกย้ายเป็นธรรม ไร้ตั๋ว-เส้นสาย ก้าวหน้าได้ ขึ้นอยู่กับผลงาน ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับว่าเป็นคนของใคร : ทุกวันนี้ก็รู้ ๆ กัน ความก้าวหน้าคือต้อง "วิ่งเต้น" จะด้วยการดูแลรับใช้ หรือเอาผลประโยชน์เข้าแลก เรื่องฝีมือ ผลงาน ไม่เอามานับ ตั้งแต่ คสช. ยึดอำนาจปี 57 ก็ได้ทำลายระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งจนหมดสิ้น เหลือเพียงระบบอุปถัมภ์เท่านั้น ตัวอย่างคือการยุบแท่งพนักงานสอบสวน และรางวัลโรงพักเพื่อประชาชน เป็นต้น / ส.ส.โรม เป็นคนนึงที่อภิปรายเรื่อง "ตั๋วช้าง" ซึ่งตีแผ่วงจรอุอุบาทว์นี้ได้เป็นอย่างดี จริงไม่จริงอย่างไร พี่น้องตำรวจคงทราบกันดี
- เพิ่มโอกาสเลื่อนยศเป็นสัญญาบัตร เพิ่มโควต้าสำหรับนายตำรวจชั้นประทวนผลงานดีในการเลื่อนยศ สู่ระดับสัญญาบัตร : ดีครับ ส่งเสริมความก้าวหน้าจากคนในก่อน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ถ้าจบนายสิบตำรวจก็ยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะเป็นนายร้อยได้ และขอให้ยกเลิกหลักสูตร กอส. ที่เอาลูกท่าน หลานเธอ เข้ามาอบรม บรรจุ ในตำแหน่งที่อ้างว่าขาดแคลน แต่เสือกไม่เปิดสอบ พออีพวกนี้บรรจุไปก็ไม่มาทำงาน ไปช่วยตรงนั้น ตรงนี้ แดกเงินเดือนหลวงฟรี ๆ ทั้ง ๆ ที่แม่งก็ไม่ได้เดือดร้อนหรือยากจน เพียงแค่เอาเข้ามาเสริมเครือข่าย เสริมบารมีของ ผบ.ตร. เท่านั้น ปีนึง ๆ มีจำนวนไม่น้อยด้วย
- ทำงานกับจังหวัดอย่างราบรื่น จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายความปลอดภัยสาธารณะในทุกจังหวัด มีตัวแทนตำรวจและท้องถิ่นร่วมกันรับใช้ประชาชน : อันนี้คงให้มาประชุมร่วมกันกำหนดนโยบาย คงต้องรอความชัดเจน และคำอธิบายเพิ่มเติมก่อน
- ลดภาระพนักงานสอบสวน เพิ่มอำนาจให้ตำรวจสายป้องกันปราบปราม ยุติคดีเล็กน้อยได้ โดยไม่ต้องส่งต่อให้พนักงานสอบสวน : อันนี้ปกติก็ทำกันอยู่แล้ว ทั้งสาย ป. และ จราจร ถ้าคุยจบหน้างานบางทีก็ทำบันทึกให้ด้วย
- ลดภาระงานเอกสาร ลดการใช้เอกสาร เพิ่มการใช้เทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานสอบสวน : เรื่องนี้ผู้ปฏิบัติก็บ่นกันมานาน สั่งรายงานเป็นเอกสารในรอบเดือน เยอะมาก พร้อม ๆ กับที่ต้องกรอกลงเว็บ ทำให้งานซ้ำซ้อน รายงานประจำเดือนทั้งหลายควรทำในเว็บก็พอ เจ้านายคนไหนอยากดูก็กดดูเอาในคอมฯ ตั้งระบบให้มันตรวจสอบว่ามีการกรอกข้อมูลเข้ามาครบหรือไม่ ถ้าไม่ระบบก็แจ้งเตือนได้ / การรายงานเหตุก็เช่นกัน กรอกหน้าเว็บทีเดียว กับโทรรายงานก็พอ ไม่ต้องส่งแฟกซ์ ไม่ต้องไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสาร ทำระบบให้มันฉลาด ๆ หน่อย มันทำได้ (ถ้าคนคุมนโยบายใส่ใจ และไม่โง่)
- นักจิตวิทยาเพียงพอ เพิ่มจำนวนและการเข้าถึงนักจิตวิทยา เพิ่มความรวดเร็วของกระบวนการยุติธรรม : นักจิตวิทยา ไม่น่าจะเกี่ยวกับนโยบายปฏิรูปตำรวจ เอามาใส่เพื่อ ? ถ้าคิดว่าตำรวจเครียดจากงาน จะฆ่าตัวตาย ก็ลองมาถามสถานีตำรวจดูว่าเขาเครียดเรื่องอะไร ส่วนใหญ่ก็นโยบายง่าว ๆ ที่สั่งกันลงมาโดยไม่คำนึงถึงปริมาณกำลังและงบประมาณนั่นแหละ ไปแก้ตรงนั้นก่อน
- ตำรวจทุกเพศโอกาสเท่ากัน ตำรวจหญิงทุกสถานี โอกาสเลื่อนขั้นเท่าเทียมในทุกสายงาน เติบโตเป็น ผบ.ตร. ได้ : ดีครับ ไม่ได้รับตำรวจหญิงมาหลายปีแล้ว
- ผบ.ตร. เป็นที่ยอมรับของตำรวจทุกคน ส่งเสริมประชาธิปไตยภายในตำรวจ เพิ่มการมีส่วนร่วมของตำรวจทุกระดับในกระบวนการแต่งตั้ง ผบ.ตร. : เห็นมีทดสอบความรู้กันทุกระดับ ทุกสายงาน น่าจะมีทดสอบความรู้ ผบช. - ผบ.ตร. กันบ้างนะ / เพิ่มเติมกำหนดให้ ผบก. ต้องเคยผ่านการเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ บช. นั้น ๆ , ผบช. ต้องผ่านการเป็น ผบก. จังหวัด หรือ ผบก.น. และถ้าจะเป็น ผบ.ตร. ต้องผ่านการเป็น หัวหน้าสถานีตำรวจ อันนี้แหละคือหัวใจของผู้นำหน่วย เพราะตำรวจส่วนใหญ่อยู่ตามสถานีตำรวจ และนโยบายทั้งหลายล้วนพุ่งลงมาที่สถานีตำรวจเกือบทั้งหมด ถ้าไม่เคยผ่านงาน จะสั่งอะไรโง่ ๆ ไม่เข้าใจบริบทและข้อจำกัดของคนทำงาน ถ้าทำได้อย่างนี้ ผบ.ตร. ก็จะได้รับการยอมรับจากคนทำงาน ไม่ใช่นักวิ่งเต้น โดดไปหน้าห้องที แล้วสไลด์มาหาผลประโยชน์ใน บช.ก. เก็บตังค์วิ่งเต้น ครบขึ้น ๆ คนแบบนี้จะให้มาเป็นเบอร์หนึ่งเหรอ ถามจริง ?
- ภูมิใจที่ได้เป็น "ตำรวจของประชาชน" กอบกู้ภาพลักษณ์ตำรวจ รักษาตำรวจน้ำดี ตำรวจอยู่ข้างประชาชน เพื่อให้สังคมกลับมาเชื่อมั่นในตำรวจไทย : ทุกวันนี้ไม่อยากใส่เครื่องแบบกันแล้ว อาย ดูข่าวตำรวจแต่ละวัน เลิกงานนี่เปลี่ยนชุดเลย ไม่ได้มีความภูมิใจในเครื่องแบบแล้ว เป็นหนึ่งในอาชีพที่คนเกลียดที่สุด ดูแย่ที่สุดในสายตาประชาชน เพราะอะไร ? เพราะระบบวิ่งเต้น แต่งตั้งโยกย้าย ที่รับเงิน รับผลประโยชน์ สุดท้ายก็ต้องไปเก็บเงินเอาคืน ทุนจีนเทาเกิดมาได้อย่างไร เว็บพนันออนไลน์เต็มบ้านเต็มเมืองได้อย่างไร ประชาชนรู้ดี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น