หลังจากเทคแอ็คชั่นเข้าตา คสช. ในที่สุด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ก็ได้รับความไว้วางใจจากคณะ ก.ต.ช. (โดยสารเสนอชื่อของ พล.ต.อ.วัชระพล ประสานราชกิจ รรท.ผบ.ตร. ซึ่งเป็นกรรมการและเลขานุการโดยตำแหน่ง) ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 10 ต่อจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2557 นี้
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับ "บิ๊กอ๊อด" ที่ได้รับตำแหน่งสูงสุดของชีวิตข้าราชการตำรวจ แม้จะมีวาระดำรงตำแหน่งเพียง 1 ปี ก็ขอให้ท่านประสบความสำเร็จในตำแหน่ง ผบ.ตร. สร้างความเชื่อมั่นในองค์กรตำรวจ ให้กับทั้งประชาชน และบุคลากรในองค์กร ทำให้ตำรวจเป็นที่รักของประชาชนอย่างที่ท่านได้กล่าวเอาไว้ พร้อมทั้งดูแลข้าราชการตำรวจให้ปฏิบัติงานและดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี และขอให้อยู่จนครบวาระนะครับ
มาดูเส้นทางชีวิตราชการของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. คนที่ 10 กันครับ ว่าเป็นอย่างไร
- เตรียมทหาร รุ่น 15 / นรต. รุ่น 31
- รองสว.ตำแหน่งต่างๆ 9 ปี.... (อันนี้ถือว่าเยอะไป)- สว. 9 เดือน.... (นี่ก็เร็วเกิ้น ทำได้ไง หลักเกณฑ์ไหน วานบอก)
- รอง ผกก. 6 ปี.... (อันนี้เป็นความเร็วอัตรา มนุษย์ปกติ)
- ผกก.1 ปี.... ( ร .. ร .. เร็วมาก ยอดมนุษย์ชัด ๆ)
- รอง ผบก. 3 ปี.... ( จัดว่าเร็ว )
- ผบก. 2 ปี.... (จะรีบไปไหนคับ)
- ผช.ผบช. 2 ปี .. (ยกเลิกไปแล้ว)
- รอง ผบช. 2 ปี....
- ผบช. 3 ปี....
- ผู้ช่วย ผบ.ตร. 4 ปี....
- ปี 54 ติดยศ พล.ต.อ. ถึงปี 57 ก็รวมแล้ว 4 ปี
ถ้านับรวมอายุราชการปกติ ตั้งแต่ ว่าที่ ร.ต.ต.ปี 2521 ถึง ปี 2557 รวม 37 ปี(ไม่นับรวม รร.ตท.2 ปี รร.นรต.4 ปี) ท่านอายุ 59 ปี ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของ ตร.อันดับ1 คือ ผบ.ตร.!!!! นับว่าเป็นโชคชะตา บวกกับ วาสนาส่ง รวมทั้งฟ้าลิขิต...เพราะท่านเกิด เดือนธันวาคม 2497 ถ้าเกิดก่อนตุลาคม ก็ต้องเกษียณไปพร้อมกับ ผบ.อดุลย์/รองฯกุ้ย นรต.29 ที่เกษียณหลังเพื่อนร่วมรุ่นโดยส่วนใหญ่เข่นกัน !!
ผลงานเด่นช่วงท้าย ที่แซงโค้งท่านอื่น ๆ คือการจับกุมอาวุธสงคราม คดีความมั่นคงและสถาบัน คดียาเสพติด(จริง ๆ ก็ไม่ได้จับเองหรอก แต่เป็นหน้างานที่รับผิดชอบ เลยได้แถลงข่าว)
มาถึง แต่ ..... ตามหัวเรื่องที่โปรยเอาไว้ มีข้อครหาในเรื่อง "ทรัพย์สิน" ที่ว่ามีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งยังชี้แจงที่มา ที่ไป ไม่กระจ่าง ตกลงได้มาจากการทำธุรกิจอะไร อย่างไร เพราะถ้าจำกันได้ ผบ.ตร. ท่านก่อน ๆ ไม่เคยต้องถูกข้อครหาเช่นนี้มาก่อน รวมทั้งข้อครหาเกี่ยวกับการทำธุรกิจร่วมกับพี่น้องตำรวจด้วยกันอีกเรื่อง ที่มีการพูดกัน ก็ควรเปิดใจชี้แจงก่อนรับตำแหน่ง เพื่อความสง่างาม
ส่วนอีกเรื่องคือการทำตาม "ใบสั่ง" คสช. ทั้งเรื่องการดำเนินคดีความมั่นคง คดีเกี่ยวกับ ม.112 ที่ตรรกะในการดำเนินคดีมันผิดเพี้ยนไปจากกระบวนการปกติ คล้าย ๆ ปี 53 ที่มีการหว่านแหดำเนินคดีจะเอาผิดคนกลุ่มหนึ่งให้ได้ แต่สุดท้ายศาลยกฟ้องไปหลายคดี เช่น เผาเซนทรัลฯ ผู้หญิงยิงฮอ ยิงวัดพระแก้ว หรือ กรณีผังล้มเจ้า ที่เห็น บิ๊กอ๊อด เข้าไปเล่นเองเช่นคดี เปิ้ล กริชสุดา ที่ถูกทหารคุมตัวเกือบเดือน(ด้วยความเต็มใจอะนะ) พอหนีไปต่างประเทศ แฉกลับว่าถูกบังคับ คราวนี้มีคดีโยงเรื่องอาวุธสงคราม และคดีอีกสารพัด ถึงขนาดมีสัญญาจ้าง(กรูเพิ่งรู้นะว่าต้องทำสัญญากันด้วย) จัดให้แบบเอาใจทหาร จะขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนแบบจักรภพ เพ็ญแข ส่วนคดีม็อบมือปืนพุทธอิสระ นับสิบ ใช้อาวุธปืนสารพัดขนาด ระดมยิงกลางเมือง ต่อหน้าผู้สื่อข่าวที่จับภาพได้ชัด ๆ ยังไม่เห็นความคืบหน้า !!
รวมทั้งคดีที่พี่น้องตำรวจ ถูกม็อบระยำ ทำร้าย ฆ่า ทำลายข้าวของ พังป้าย สตช. คดีเหล่านี้ต่างหากที่จะสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานให้กับผู้ปฏิบัติ ได้ดีกว่าคำพูดสวยหรู แค่ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ท่านทำได้หรือเปล่าครับ
เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความคาดหวังต่อตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 10 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ท่านมีเวลาเพียง 1 ปี จะทำให้พี่น้องตำรวจ และประชาชนคนไทย จดทำท่านในแบบใด อยู่ที่ตัวท่านแล้ว
เขียนข่าวได้ถูกต้องเลยครับ ไม่ต้องมีคำพูดสวยหรู แค่ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายก็พอ(นั่นล่ะหน้าที่ตำรวจ)
ตอบลบ