ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ หรือที่ผู้คนรู้จักกันในนาม "ดาบวิชัย" ผู้ที่เพียรปลูกต้นไม้กว่าสองล้านต้น ในอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอที่เขารับราชการอยู่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อำเภอปรางค์กู่ ที่เคยแห้งแล้งกลับมาอุดมสมบูรณ์
ประวัติ
ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2489 ที่อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นบุตรคนที่สาม ในจำนวนทั้งหมดหกคน บิดามารดามีอาชีพชาวนา ฐานะทางบ้านจึงยากจน ขณะเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มารดาก็เสียชีวิต บิดาเขาจึงต้องทำนาคนเดียว และเขาจึงต้องรับจ้างทำงานสารพัด ไม่ว่าจะเป็นกรรมกรก่อสร้าง, จับกัง กระทั่งได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนอุทุมพรพิสัย ศรีสะเกษวิทยาลัย
หลังจบโรงเรียนพลตำรวจ 3 จังหวัดนครราชสีมา ในปี พ.ศ. 2511 ก็ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองศรีสะเกษ ต่อมาในปี พ. ศ.2513 ย้ายมาประจำ สถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่ จนกระทั่งเกษียณอายุราชการ ในปี พ.ศ. 2549 ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่
พ.ศ. 2548 ดาบตำรวจวิชัย สุริยุทธ ได้รับพระราชทานยศเป็นกรณีพิเศษ เป็น "ร้อยตำรวจตรี" จากการอุทิศตนต่อประเทศชาติ
การปลูกต้นไม้
พ.ศ. 2548 ดาบตำรวจวิชัย สุริยุทธ ได้รับพระราชทานยศเป็นกรณีพิเศษ เป็น "ร้อยตำรวจตรี" จากการอุทิศตนต่อประเทศชาติ
การปลูกต้นไม้
พ.ศ. 2520 จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย อำเภอปรางค์กู่เป็นอำเภอที่ยากจนที่สุดในจังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศไทย มีการปล้นชิงลักขโมยเป็นคดีความมากมาย ดาบวิชัยในฐานะผู้เติบโตมาในพื้นที่และรับรู้ถึงปัญหามาตลอด จึงเกิดความคิดที่จะพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ให้ดีขึ้น จากความคิดของเขา ทำให้เขาตัดสินใจปลูกต้นไม้ เนื่องจากเห็นว่าจะผลที่จะตามมาจะเป็นผลที่ยั่งยืน เป็นประโยชน์ไปถึงคนรุ่นลูกรุ่นหลาน
พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา ทุกเช้าและหลังเลิกงานของวัน ดาบวิชัยจะขับจักรยานยนต์ ตระเวนปลูกต้นไม้ไปตามพื้นที่ต่างๆ ในอำเภอปรางค์กู่ โดยในระยะแรก ในสายตาชาวบ้าน เขาถูกมองว่าเป็นคนบ้า แม้ว่าจะถูกสังคมมองไปในทางเช่นนั้น เขาก็ยังคงปลูกต้นไม้อยู่เรื่อยไป
พ.ศ. 2541 เป็นต้นมาสังคมเริ่มเห็นผลจากการปลูกต้นไม้ของเขา เกิดโครงการปลูกต้นไม้ในที่สาธารณะเพื่อส่วนรวมเกิดขึ้น ได้แก่ รณรงค์ปลูกต้นยางนา เพื่อเอาไว้สร้างบ้านเรือน รณรงค์ปลูกต้นตาล ซึ่งเป็นพืชสารพัดประโยชน์ รณรงค์ปลูกต้นคูน ต้นไม้ประจำภาคอีสานและประจำชาติไทย และ รณรงค์ให้เปลี่ยนการทำนาปีเป็นไร่นาสวนผสม จนอำเภอปรางค์กู่กลายเป็นอำเภอที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งต้นไม้ที่เขาปลูกนั้นสามารถสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในอำเภอได้
พ.ศ.2543 ประชาคมอำเภอปรางค์กู่ทั้ง 10 ตำบล ได้พร้อมใจกันลงมติให้ใช้ 4 โครงการรณรงค์ดังกล่าวเป็นคำขวัญของ อำเภอปรางค์กู่ ที่ว่า “ปรางค์กู่อยู่ในป่ายางกลางดงตาล บานสะพรั่งดอกคูน บริบูรณ์ไร่นาสวนผสม”
ในปัจจุบัน แม้ว่าจะเกษียณอายุราชการมาแล้ว แต่ หมวดวิชัย ก็ยังคงปลูกต้นไม้ต่อไป จะเห็นได้ว่าการทำสิ่งดี ๆ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ก็มีค่า และที่สำคัญหมวดวิชัย ทำสิ่งดี ๆ ทุกวัน ไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ กับตนเอง หวังเพียงให้สังคมโดยรวมดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เหมือนการปิดทองหลังพระ จนล้นมาด้านหน้าองค์พระนั่นเอง
ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้พี่น้องข้าราชการตำรวจทุกท่านทำความดี แม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ ไม่มีคนเห็น แต่เราย่อมรู้อยู่แก่ใจ และใจเราก็จะเป็นสุขครับ
พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา ทุกเช้าและหลังเลิกงานของวัน ดาบวิชัยจะขับจักรยานยนต์ ตระเวนปลูกต้นไม้ไปตามพื้นที่ต่างๆ ในอำเภอปรางค์กู่ โดยในระยะแรก ในสายตาชาวบ้าน เขาถูกมองว่าเป็นคนบ้า แม้ว่าจะถูกสังคมมองไปในทางเช่นนั้น เขาก็ยังคงปลูกต้นไม้อยู่เรื่อยไป
พ.ศ. 2541 เป็นต้นมาสังคมเริ่มเห็นผลจากการปลูกต้นไม้ของเขา เกิดโครงการปลูกต้นไม้ในที่สาธารณะเพื่อส่วนรวมเกิดขึ้น ได้แก่ รณรงค์ปลูกต้นยางนา เพื่อเอาไว้สร้างบ้านเรือน รณรงค์ปลูกต้นตาล ซึ่งเป็นพืชสารพัดประโยชน์ รณรงค์ปลูกต้นคูน ต้นไม้ประจำภาคอีสานและประจำชาติไทย และ รณรงค์ให้เปลี่ยนการทำนาปีเป็นไร่นาสวนผสม จนอำเภอปรางค์กู่กลายเป็นอำเภอที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งต้นไม้ที่เขาปลูกนั้นสามารถสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในอำเภอได้
พ.ศ.2543 ประชาคมอำเภอปรางค์กู่ทั้ง 10 ตำบล ได้พร้อมใจกันลงมติให้ใช้ 4 โครงการรณรงค์ดังกล่าวเป็นคำขวัญของ อำเภอปรางค์กู่ ที่ว่า “ปรางค์กู่อยู่ในป่ายางกลางดงตาล บานสะพรั่งดอกคูน บริบูรณ์ไร่นาสวนผสม”
ในปัจจุบัน แม้ว่าจะเกษียณอายุราชการมาแล้ว แต่ หมวดวิชัย ก็ยังคงปลูกต้นไม้ต่อไป จะเห็นได้ว่าการทำสิ่งดี ๆ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ก็มีค่า และที่สำคัญหมวดวิชัย ทำสิ่งดี ๆ ทุกวัน ไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ กับตนเอง หวังเพียงให้สังคมโดยรวมดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เหมือนการปิดทองหลังพระ จนล้นมาด้านหน้าองค์พระนั่นเอง
ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้พี่น้องข้าราชการตำรวจทุกท่านทำความดี แม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ ไม่มีคนเห็น แต่เราย่อมรู้อยู่แก่ใจ และใจเราก็จะเป็นสุขครับ
ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก ไทยวิกิพีเดีย(คนธรรมดาที่มีข้อมูลใน วิกิพีเดีย นี่ถือว่าเยี่ยมเลยนะครับ)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น