วันที่ 14 ก.ค. 58 "เสธไก่อู" พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติในหลักการร่าง พ.ร.บ.หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เสนอให้มีการปรับเปลี่ยนหมายเลขกลางตามสากล โดยใช้หมายเลข 911 แทนของเดิม 191 ทั้งนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งชื่อว่า คณะกรรมการบริหารหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยนายกฯ เป็นประธาน ทำการบริหารจัดการเชื่อมโยงเครือข่ายหมายเลขที่จำเป็นในการติดต่อฉุกเฉินของประชาชนเข้าสู่หมายเลขหลัก 911 เมื่อประชาชนติดต่อมาจะเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานที่ต้องการติดต่อโดยไม่คิดค่าบริการ
สำหรับ สาระสำคัญของ ร่างพระราชบัญญัติหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ มีดังนี้
1. กำหนดบทนิยามศัพท์ต่าง ๆ เพื่อความชัดเจนในการใช้บังคับกฎหมาย
2. กำหนดให้หมายเลข 911 เป็นหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติสำหรับใช้เพื่อการแจ้งเหตุฉุกเฉิน
3. กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และกรรมการโดยตำแหน่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ
4. กำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการให้หน่วยงานของรัฐ และผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมจัดให้มีระบบโครงข่ายเชื่อมโยงในการให้บริการ ส่งเสริม และสนับสนุนหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการระงับและบรรเทาเหตุฉุกเฉิน เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรค เปลี่ยนแปลงการกำหนดหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ แต่งตั้งอนุกรรมการ รวมทั้ง ออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งเพื่อปฏิบัติการ
5. กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ รับผิดชอบงานธุรการ งานวิชาการ และกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับงานของคณะกรรมการ
6. กำหนดห้ามผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเรียกเก็บค่าตอบแทน หรือค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการให้บริการหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติจากผู้แจ้งเหตุฉุกเฉิน
7. กำหนดโทษทางอาญาแก่ผู้แจ้งเหตุฉุกเฉินโดยไม่เป็นความจริง
8. กำหนดให้ผู้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินและผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ได้รับการคุ้มครองและไม่เป็นความผิดกฎหมายสำหรับการเข้าถึงและแจ้งข้อมูลส่วนบุคคล ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
ถ้ามีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ ก็จะถือเป็นการสิ้นสุดของตำนานหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน 191 ที่ใช้กันมายาวนานหลายสิบปี และเปลี่ยนไปใช้หมายเลข 911 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี และมีใช้ในประเทศ อเมริกา แคนาดา
หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินในที่นี้จะรวมเอาการแจ้งเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ อาทิ
- เหตุด่วน-เหตุร้าย อาชญากรรมต่าง ๆ
- เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์
- เหตุเพลิงไหม้
- สาธารณะภัยต่าง ๆ
- เรื่องฉุกเฉินอื่น ๆ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการปรับปรุงระบบการแจ้งเหตุ 191 ในทุกจังหวัดมาแล้ว โดยมีการวางระบบคู่สายโทรศัพท์ และเพิ่มบุคลากรให้เพียงพอต่อการใช้งานจริง(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)(แน่นอนว่าบุคลากรในภาพรวม ตร. ไม่ได้เพิ่มขึ้น นั่นคือการลดกำลังพลในด้านอื่น เพื่อมาเข้าเวรศูนย์รับแจ้งเหตุ) เชื่อว่าสามารถรองรับการปฏิบัติการในเลขหมาย 911 ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้อาจต้องมีการอบรมในเรื่องทางการแพทย์ หรือจัดให้มีบุคลากรจาก 1669 มาร่วมเข้าเวรด้วนกัน
สำหรับปัญหาโทรก่อกวน ซึ่งทำให้กระทบถึงการใช้คู่สาย ผู้ที่มีเหตุฉุกเฉินจริง ๆ จะไม่สามารถโทรมาได้ ก็ต้องขอร้องกันล่ะครับ หาอะไรที่เป็นประโยชน์กับสังคมทำเถอะ ไปเก็บขยะ ปลูกต้นไม้ ไหว้พระ อะไรก็ทำไป ต่อไปทางเจ้าหน้าที่คงต้องเข้มงวดเอาผิดดำเนินคดีกันจริงจัง ไม่งั้นไม่หมด ไม่หลาบจำ จัดแถลงข่าวกันไปเลย ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างเบอร์โทรฉุกเฉินในประเทศไทย มันเยอะจนจำไม่ไหว นี่ยังไม่นับพิซซ่า ไก่ทอด อีกนะครับ สมควรแล้ว ที่ออก พ.ร.บ. นี้มา 55
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น