เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพงานสืบสวนสอบสวนเฉพาะทาง ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลางหลายหน่วย โดยมีกำลังตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามเป็นกำลังหลัก โดยเน้นเพิ่มความรู้ด้านสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายคดีสำคัญต่าง ๆ
ในช่วงการแต่งตั้ง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนตัวบุคลากรเข้าออกจำนวนมากจากผลของการเมืองและคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ทำให้ผลงานของกองปราบในความรับรู้ของคนทั่วไป ดูเหมือนจะลดประสิทธิภาพลงไป ตัวบุคลากรเองก็ดูเหมือนจะห่อเหี่ยว ประคองตัวดูทิศทางลมให้รอดปลอดภัย
มาถึงในยุคของ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. จึงได้จัดโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนดังกล่าวขึ้น โดยเชิญมือปราบ มือสืบสวนชั้นครู ที่เคยสร้างผลงานกับกองปราบปรามในอดีตมาเป็นวิทยากรมากมาย อาทิ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง , พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ฯลฯ และยังมีวิทยากรจากต่างประเทศมาแชร์ความรู้อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับกองปราบนั้นถือเป็นหน่วยงานการสืบสวนที่ควรต้องมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คดีที่อยู่ในมือกองปราบ ผู้ต้องหาจะต้องกลัวเกรงว่าไม่รอดเงื้อมมือกฎหมายแน่ ถ้าคดีไหนที่กองปราบทำไม่ได้ คงไม่มีใครทำได้อีกแล้ว เปรียบเทียบกับตำรวจท้องที่ ที่ภารกิจหลากหลายต้องทำทุกอย่าง แต่กองปราบเลือกคดีที่จะทำได้ ใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีทุ่มไปให้กับคดีนั้น ๆ คนที่อยู่กองปราบจะต้องเป็นยอดฝีมือ และมีโอกาสก้าวหน้า โด่งดังสูง ขอให้ท่านตระหนักในย่อหน้านี้ด้วย
การผลิตผลงานอย่างต่อเนื่อง จับกุมปราบปรามคนร้ายคดีสำคัญให้สาธารณะเห็นบ่อย ๆ ในฐานะทีมบุกที่ดีที่สุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาต่อองค์กร ไม่ใช่เฉพาะแค่กองปราบ หรือ บช.ก. แต่มันคือหน้าตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อบรมเสร็จแล้ว เริ่มงานกันได้เลยพี่น้อง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น