ไอเดียบรรเจิดจริง ๆ ครับ กับแนวคิด "เลือกตั้ง ผบ.ตร." จาก คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฏหมายและกระบวนการยุติธรรม หวังจะให้ตำรวจปลอดการแทรกแซงจากการเมือง โดยมีเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์ ดังนี้
เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 1 ธันวาคม ที่รัฐสภา พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน โฆษกคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฏหมายและกระบวนการยุติธรรม แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้ขับเคลื่อนการปฏิรูปเรื่องดังต่อไปนี้
ปฏิรูปกิจการตำรวจ โดยให้มีการปฏิรูปการบริหารงานบุคคลให้ปราศจากการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง โดยมีการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ที่ทำให้ตำรวจอ่อนแอ เนื่องจากมีนักการเมืองเข้ามาแทรกแซง ตามมาตรา 53(1)(2) ที่ระบุให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร.และประธาน ก.ต.ช.ที่มีอำนาจแต่งตั้ง ผบ.ตร. และ รองผบ.ตร หรือมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานแทน ซึ่งฝ่ายการเมืองก็ต้องตั้งคนของตัวเองขึ้นมา รอง ผบ.ตร.ที่อยากเป็น ผบ.ตร.ก็ต้องเดินตามนักการเมือง ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีการเสนอให้ตัดมาตราดังกล่าวออกไป เพราะไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง โดยให้เปลี่ยนเป็นว่า ต่อไปนี้ให้เป็นการเลือก ผบ.ตร.แทน โดยเลือกจาก รอง ผบ.ตร.12 คนให้เหลือ 3 คน แล้วส่งรายชื่อทั้ง 3 คนไปให้ตำรวจทั่วประเทศพิจารณา พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ก่อนให้ตำรวจทั่วประเทศเข้าคูหากาว่าจะเลือกใคร แล้วให้แต่ละภาคส่งคะแนนให้ส่วนกลางก่อนประกาศว่าใครจะได้เป็น ผบ.ตร.โดยเรื่องดังกล่าวทางสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ส่งแนวทางการปฏิรูปดังกล่าวไปยังครม.แล้ว ซึ่งครม.ก็เห็นชอบโดยเฉพาะที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงกิจการตำรวจ
ปฏิรูปกิจการตำรวจ โดยให้มีการปฏิรูปการบริหารงานบุคคลให้ปราศจากการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง โดยมีการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ที่ทำให้ตำรวจอ่อนแอ เนื่องจากมีนักการเมืองเข้ามาแทรกแซง ตามมาตรา 53(1)(2) ที่ระบุให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร.และประธาน ก.ต.ช.ที่มีอำนาจแต่งตั้ง ผบ.ตร. และ รองผบ.ตร หรือมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานแทน ซึ่งฝ่ายการเมืองก็ต้องตั้งคนของตัวเองขึ้นมา รอง ผบ.ตร.ที่อยากเป็น ผบ.ตร.ก็ต้องเดินตามนักการเมือง ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีการเสนอให้ตัดมาตราดังกล่าวออกไป เพราะไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง โดยให้เปลี่ยนเป็นว่า ต่อไปนี้ให้เป็นการเลือก ผบ.ตร.แทน โดยเลือกจาก รอง ผบ.ตร.12 คนให้เหลือ 3 คน แล้วส่งรายชื่อทั้ง 3 คนไปให้ตำรวจทั่วประเทศพิจารณา พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ก่อนให้ตำรวจทั่วประเทศเข้าคูหากาว่าจะเลือกใคร แล้วให้แต่ละภาคส่งคะแนนให้ส่วนกลางก่อนประกาศว่าใครจะได้เป็น ผบ.ตร.โดยเรื่องดังกล่าวทางสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ส่งแนวทางการปฏิรูปดังกล่าวไปยังครม.แล้ว ซึ่งครม.ก็เห็นชอบโดยเฉพาะที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงกิจการตำรวจ
“การปฏิรูปตำรวจในครั้งนี้ ต้องแก้ พ.ร.บ.ตำรวจ ซึ่งบางเรื่องผมจะเสนอให้นายกฯใช้มาตรา 44 ดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งนายตำรวจ เพราะหากปล่อยเลยผ่านให้ถึงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แสงหิ่งห้อยจะสว่างกว่า เพราะไม่มีนักการเมืองคนไหนยอมให้อำนาจตัวเองลดลง ซึ่งที่ประชุมยังได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปตำรวจ ขึ้นมา 1 คณะ เพื่อทำเรื่องการปฏิรูปตำรวจโดยเฉพาะ ” พล.ต.ท.อำนวย กล่าว
นับว่าเป็นแนวคิดที่ไม่เลวเลยทีเดียว ถ้า ผบ.ตร. จะมีที่มาจากการเลือกตั้งของข้าราชการตำรวจทุกคน ทั่วประเทศ อย่างน้อยการบริหารงาน หรือแนวนโยบาย นอกจากจะคิดถึงประชาชนแล้ว ยังจะต้องคิดถึงตำรวจชั้นผู้น้อยบ้าง มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ขอเสนอคุณสมบัติ ผบ.ตร. มาให้พิจารณาในเบื้องต้นกันด้วยครับ เช่น
นับว่าเป็นแนวคิดที่ไม่เลวเลยทีเดียว ถ้า ผบ.ตร. จะมีที่มาจากการเลือกตั้งของข้าราชการตำรวจทุกคน ทั่วประเทศ อย่างน้อยการบริหารงาน หรือแนวนโยบาย นอกจากจะคิดถึงประชาชนแล้ว ยังจะต้องคิดถึงตำรวจชั้นผู้น้อยบ้าง มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ขอเสนอคุณสมบัติ ผบ.ตร. มาให้พิจารณาในเบื้องต้นกันด้วยครับ เช่น
- เคยผ่านงานระดับสถานีตำรวจมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี / เพื่อเข้าใจข้อจำกัด ความลำบากของพี่น้องตำรวจ คือถ้าไม่เคยลำบากด้วยกัน เวลาเป็นนายจะเข้าใจลูกน้องได้อย่างไร
- เคยเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจอย่างน้อย 2 ปี / เพื่อความเข้าใจในงานด้านต่าง ๆ ของสถานีตำรวจ(ก็โรงพักเป็นจุดแตกหักนี่นะ) รู้จักการบริหารหน่วย มีภาวะผู้นำ
- ใครเป็นคนเลือกรอง ผบ.ตร. จาก 12 คน ให้เหลือ 3 คน / คือจะแน่ใจได้อย่างไรว่า 3 คนนี่ไม่ใช่ค่ายเดียวกันส่งประกวด
- เลือกแล้วถ้ามีรัฐประหาร แม่งก็ปลดอีกแหละ จะรับรองได้อย่างไรว่าเสียงของตำรวจทั่วประเทศ จะได้รับการคุ้มครอง
- เชื่อมั๊ยว่าผู้มีอำนาจในปัจจุบัน จะยอม "คายอำนาจ" ให้ตำรวจเลือกนายของตัวเอง แค่เลือก ก.ตร. มันยังไม่ให้เลือกเลย
- กระบวนการเลือกตั้งจะแน่ใจในความบริสุทธิ์ ยุติธรรมได้หรือ ให้ภาครวบรวมส่งส่วนกลาง จะให้ดีต้องนับที่จังหวัด(หน่วย) ไปเลย โชว์ให้เห็นกันจะจะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น