ระบบ POLIS เป็นระบบการเก็บข้อมูลของตำรวจ ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ใช้มาแล้วเป็นสิบปี โดยมีค่าบำรุงรักษาต่อปีนับสิบล้านบาท มีการต่อเชื่อมโครงข่ายไปยังทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้ตำรวจโรงพักได้รายงานข้อมูลต่าง ๆ เข้าระบบ อาทิ ข้อมูลคดี , กำลังพล เป็นต้น
ซึ่งจากการใช้งานมานานเช่นนี้ ระบบก็สามารถทำงานได้พอสมควร(มีง่อยบ้างบางครั้ง) ที่ผ่านมาทางผู้บังคับบัญชาก็ได้กำชับกันมาโดยตลอดว่าให้กรอกข้อมูล POLIS ให้เป็นปัจจุบันที่สุด โดยเฉพาะเรื่องคดี และหมายจับ ซึ่งจะต้องนำข้อมูลมาคำนวนและวิเคราะห์กันรายเดือน
ก็น่าแปลกนะครับว่าหน่วยเหนือ ระดับ บก. - บช. - ตร. ยังคงให้รายงานในกรณีจับกุมฐานความผิดต่าง ๆ อีก เช่น ทรัพยากรธรรมชาติ และป่าไม้ , ลิขสิทธิ์ , ค้ามนุษย์ ฯลฯ เรียกขอดูผลการปฏิบัติเป็นรายเดือนอยู่นั่นแหละ ทั้ง ๆ ที่เปิด POLIS ดูก็น่าจะรู้ได้หมดอยู่แล้ว ลำบากหน่วยปฏิบัติที่ต้องมากรอกข้อมูลด้วย รายงานเป็นตาราง พร้อมปะหน้าส่งอีก ซ้ำซ้อนน่ารำคาญ ตอนนี้ที่โรงพักจะหาคนทำงานธุรการยากเต็มที ไอ้ทีมีอยู่ก็อยากไปอยู่สายตรวจ(งานจบเป็นวัน ๆ ไป ไม่ต้องมีงานต่อเนื่องเหมือนธุรการ)
ยังไงลองปรึกษา admin ของ POLIS ดูครับ ว่าจะสามารถสรุปออกมาเป็นรายเดือนให้ดูยังไง หรือมีแจ้งเตือนไปยังผู้เกี่ยวข้องหากมีคดีแต่ละฐานความผิดเกิดขึ้น จะช่วยลดภาระผู้ปฏิบัติลงไปได้มากทีเดียว ดูแบบรายงานเหตุล่าสุดนะครับ เฉพาะที่ต้องแฟกซ์ไปก็ไม่รู้กี่แห่งแล้ว ทาง LINE อีก โทรศัพท์อีก โครตเยอะ ส่วนมากเพื่อทราบ ไม่ได้ช่วยอะไร แค่เอาไว้เผื่อนักข่าวถามแล้วจะได้รู้เรื่องเท่านั้น เชื่อมั๊ย แค่เรื่องรายงานนี่เสียเวลาไปร่วมชั่วโมงเลยทีเดียว (ซึ่งเป็นหน้าที่ของหัวหน้าสถานี และพนักงานสอบสวน)
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ควรจะทำให้การทำงานด้านเอกสารมันง่ายขึ้น สะดวกรวดเร็วขึ้นนะ ไม่ใช่กลับมาเพิ่มภาระกันแบบนี้ แทนที่จะได้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บนท้องถนนมาก ๆ กลับมากองอยู่บนโรงพักทำงานเอกสารกันเสียมาก ตำรวจจบใหม่ ไม่ต้องบู๊แล้ว เอามาสอนงานธุรการกันหมด เพราะแก่ ๆ ก็ไม่เอา เลยกลายเป็นเด็กหนุ่ม ๆ อยู่โรงพัก รุ่นพี่อายุมากก็ออกตรวจไป ไอ้ที่ว่าตำรวจไม่พอ ๆ น่ะ มันเป็นซะอย่างนี้แหละครับ
ยังไงลองปรึกษา admin ของ POLIS ดูครับ ว่าจะสามารถสรุปออกมาเป็นรายเดือนให้ดูยังไง หรือมีแจ้งเตือนไปยังผู้เกี่ยวข้องหากมีคดีแต่ละฐานความผิดเกิดขึ้น จะช่วยลดภาระผู้ปฏิบัติลงไปได้มากทีเดียว ดูแบบรายงานเหตุล่าสุดนะครับ เฉพาะที่ต้องแฟกซ์ไปก็ไม่รู้กี่แห่งแล้ว ทาง LINE อีก โทรศัพท์อีก โครตเยอะ ส่วนมากเพื่อทราบ ไม่ได้ช่วยอะไร แค่เอาไว้เผื่อนักข่าวถามแล้วจะได้รู้เรื่องเท่านั้น เชื่อมั๊ย แค่เรื่องรายงานนี่เสียเวลาไปร่วมชั่วโมงเลยทีเดียว (ซึ่งเป็นหน้าที่ของหัวหน้าสถานี และพนักงานสอบสวน)
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ควรจะทำให้การทำงานด้านเอกสารมันง่ายขึ้น สะดวกรวดเร็วขึ้นนะ ไม่ใช่กลับมาเพิ่มภาระกันแบบนี้ แทนที่จะได้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บนท้องถนนมาก ๆ กลับมากองอยู่บนโรงพักทำงานเอกสารกันเสียมาก ตำรวจจบใหม่ ไม่ต้องบู๊แล้ว เอามาสอนงานธุรการกันหมด เพราะแก่ ๆ ก็ไม่เอา เลยกลายเป็นเด็กหนุ่ม ๆ อยู่โรงพัก รุ่นพี่อายุมากก็ออกตรวจไป ไอ้ที่ว่าตำรวจไม่พอ ๆ น่ะ มันเป็นซะอย่างนี้แหละครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น