เตือนภัย! มิจฉาชีพในคราบลูกค้า ขอเลขบัญชีและหน้าบัตรประชาชนพ่อค้า ไปออกซิมการ์ดใหม่เพื่อโทรศัพท์ไปยืนยันตัวตนกับธนาคารให้สั่งปลดล็อก และออกรหัสใหม่ถอนเงินฝากไปจนหมดบัญชี สูญเงินเกือบ 1 ล้านบาท
ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เปิดใจนายพันธุ์สุธี พ่อค้าอุปกรณ์ประดับยนต์โนเนม ใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค.59 มีลูกค้ามาติดต่อซื้ออุปกรณ์ประดับยนต์ผ่านทาง Facebook และได้ขอเลขที่บัญชีของนายพันธุ์สุธีเพื่อจะโอนเงินค่าสินค้าให้ และได้ขอบัตรประชาชนของนายพันธุ์สุธีเพื่อความมั่นใจ โดยอ้างว่าเป็นการซื้อของครั้งแรก กลัวจะถูกโกง ซึ่งนายพันธุ์สุธีก็ได้มอบให้กับลูกค้ารายนี้ไปทั้ง 2 อย่าง โดยที่มีการเบลอเลขบัตรประชาชน 13 หลักออก
จากนั้น วันที่ 31 ก.ค.59 นายพันธุ์สุธีจึงรู้ว่าบุคคลที่มาซื้อของ กลายเป็นมิจฉาชีพ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือของนายพันธุ์สุธี ถูกตัดสัญญาณ จึงได้โทรไปที่ Call center ของ True พบว่ามีคนนำบัตรประชาชนปลอมในชื่อของนายพันธุ์สุธี มาขอยกเลิกซิมการ์ดไปแล้ว ขณะที่มิจฉาชีพได้ซิมการ์ดใหม่ เบอร์เดิมของนายพันธุ์สุธี ก็ได้โทรศัพท์ไปหลอก Call center ของธนาคารกสิกรไทย เพื่อปลดล็อก และออกรหัสสำหรับบริการ K-Cyber Banking ใหม่ โดยที่นายพันธุ์สุธีไม่ได้ไปทำนิติกรรมอะไรที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาพระนครศรีอยุธยาเลย คนร้ายสามารถใช้เวลาเพียง 3 นาที ถอนเงินฝากของนายพันธุ์สุธี ไปได้หมดยอดเงินรวมกันเกือบ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้นายพันธุ์สุธีไม่เคยได้รับการเหลียวแลธนาคารกสิกรไทย สาขาพระนครศรีอยุธยาเลย แต่มีฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ติดต่อมามายืนข้อเสนอกับนายพันธุ์สุธีว่าจะชดเชยเงินให้ 33% อีก 33% ไปเอากับคนร้าย และอีก 33% ไปเอากับบริษัท True
อย่างไรก็ตามวันที่ 22 ส.ค. นายพันธุ์สุธีจะนำครอบครัวไปประท้วงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ผู้บริหารสูงสุดของธนาคารกสิกรไทยแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้า เนื่องจากวันนี้ทั้ง True และกสิกรไทย ต่างปฏิเสธความรับผิดชอบ(ข่าวจาก VoiceTV)
ยุคนี้มิจฉาชีพหากินกันในสารพัดวิธี คดีนี้ตำรวจน่าจะตามตัวได้ในที่สุด แต่ไม่รู้ว่าจะเหลือเงินมาคืนกับผู้เสียหายสักเท่าใด ตอนนี้คนร้ายคงเห็นข่าวแล้ว คนทั่วไปก็เช่นกัน น่าจะตามตัวได้ไม่ยากเกินความสามารถตำรวจครับ มีงงเล็กน้อยที่จะไปประท้วงธนาคารและค่ายโทรศัพท์ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 55 เอาเถอะครับ เอาที่สบายใจ ตำรวจยินดีต้อนรับประชาชนอยู่แล้ว ขนาดบุกไปพังป้ายกันมาแล้ว
ฝากแจ้งเตือนกันไว้นะครับ มิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบ ที่เคยรับแจ้งกันบ่อย ๆ ก็อาทิ
ภูมิคุ้มกันมิจฉาชีพที่ดีที่สุดคือตัวเองนั่นแหละครับ ต้องไม่โลภอยากได้ทรัพย์ที่มิควรได้ มีความรอบคอบในการทำธุรกรรมต่าง ๆ อะไรสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้บ้าน หรือผู้ที่ท่านไว้ใจไว้ก่อนจะตัดสินใจครับ
ฝากแจ้งเตือนกันไว้นะครับ มิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบ ที่เคยรับแจ้งกันบ่อย ๆ ก็อาทิ
- หลอกซื้อของออนไลน์ โอนเงินมา แต่ไม่ได้ของ(ซื้อโทรศัพท์ ได้ก้อนหิน ก็เคยมี)
- โทรศัพท์หลอกว่ามีเงินผิดกฎหมายโอนเข้าบัญชี ให้ไปที่ตู้ ATM ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายบอกทางโทรศัพท์ โดยขั้นตอนที่บอกจะเป็นภาษาอังกฤษ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินออกไปให้คนร้ายหมด
- แฮกเฟส ไลน์ คนที่เรารู้จัก บอกให้โอนเงินให้ด่วน
- ตกทอง ด้วยวิธีการต่าง ๆ อาจ ไม่ค่อยได้ใช้สร้อยทองมาล่ออีกแล้ว แต่หลักการเดียวกันคือ เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ล่อใจผู้เสียหายด้วยผลประโยชน์ที่ได้มาง่าย ๆ แต่ต้องร่วมลงเงินกันก่อน
ภูมิคุ้มกันมิจฉาชีพที่ดีที่สุดคือตัวเองนั่นแหละครับ ต้องไม่โลภอยากได้ทรัพย์ที่มิควรได้ มีความรอบคอบในการทำธุรกรรมต่าง ๆ อะไรสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้บ้าน หรือผู้ที่ท่านไว้ใจไว้ก่อนจะตัดสินใจครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น