ปล่อยแล้ว ศักรินทร์ ผู้ต้องสงสัยเผาห้าง

เมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 18 ส.ค. 59  ได้มีการปล่อยตัว นายศักรินทร์  คฤหัสถ์ ผู้ต้องสงสัยคดีวางเพลิงเผาทรัพย์ห้างเทสโก้โลตัส จ.นครศรีธรรมราช  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา  ซึ่งการปล่อยตัวในครั้งนี้ เชื่อว่าไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใด ๆ และห้ามนายศักรินทร์ฯ ให้สัมภาษณ์สื่อใด ๆ อย่างเด็ดขาด

     สำหรับนายศักรินทร์ฯ นี้เป็นชาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่   ทำงานที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน  ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุมีภาพนายศักรินทร์ฯ กำลังเดินซื้อของอยู่ภายในห้างที่เกิดเหตุ  โดยมีการสพายกระเป๋าติดตัว  จึงเกิดการนำตัวมาสอบสวนตาม ม.44  โดยเป็นการไปรับตัวจากแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลกันเลยทีเดียว

     ซึ่งการที่ฝ่ายทหารนำตัวมาสอบสวน กักตัวนายศักรินทร์ ตาม ม.44 นี้  เป็นข่าวคึกโครมจนเกิดกระแสการตีความว่า เกี่ยวข้องกับฝ่ายคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย   แต่เมื่อตำรวจทำการสอบสวนจนได้ข้อเท็จจริง  ปรากฎว่านายศักรินทร์ฯ นั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุแต่อย่างใด  จึงได้มีการปล่อยตัวออกมาโดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว





     หลักฐานที่ปรากฎออกมาเรื่อย ๆ ก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นตามลำดับว่าเป็นการขยายผลของกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้   เพราะตามภาพจากกล้องวงจรปิด  สามารถตามรอยได้ว่ากลุ่มคนร้ายมีการเดินทางโดยรถโดยสารมาก่อเหตุ จาก 3 จังหวัดชายแดนใต้  จากนั้นก็โดยสารรถกลับไป  ภาพคนร้ายที่ได้บางส่วนมีความชัดเจนพอสมควร   ประกอบกับการใช้โทรศัพท์ที่มีขายเฉพาะในประเทศมาเลเซียในการประกอบระเบิด

     นับเป็นอีกครั้งที่ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลทหาร และตำรวจ ในการรับมือเหตุ "ก่อการร้าย" มันดูสะเปะสะปะ  ไม่มีความเป็นมืออาชีพ   มีความพยายามใส่ร้ายทางการเมือง  หาประโยชน์ทางการเมืองอย่างทุเรศ  ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและองค์กรตำรวจแต่อย่างใด  แม้แต่คนระดับ ผบ.ตร. ก็ยังไม่เว้น  ในฐานะตำรวจคนหนึ่งนี่โครตอาย  ฝ่ายการเมือง ฝ่ายทหาร จะเล่นการเมืองอย่างไรก็ปล่อยเขาไป  แต่ตำรวจนั้นต้องว่ากันที่พยานหลักฐานในการดำเนินคดี  ไม่ใช่ให้อคติ หรืออารมณ์มาครอบงำ  แทนที่จะเรียกความเชื่อมั่นให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประเทศ  กลับกลายเป็นตัวตลกของสำนักข่าวต่างประเทศ

     เคยเห็นข่าวการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายประเทศในยุโรป  จากกรณีเหตุกราดยิงที่ประเทศฝรั่งเศส   มีความคืบหน้าในการสอบสวนติดตามคนร้ายแทบจะรายชั่วโมง  มีความเป็นมืออาชีพ  น่าคิดนะครับ  ตำรวจอาชีพ  กับ ตำรวจการเมือง  .... 

ความคิดเห็น