กลายเป็นประเด็นเดือดสำหรับพี่น้องตำรวจ ที่วงเสวนาของ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ในหัวข้อ "ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร" ซึ่งจัดที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในวงเสวนาดังกล่าว อาทิ
- นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ สื่อสารมวลชนด้านยานยนต์
- พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปตำรวจ สปช.
- ร.ต.อ.วิเชียร ตันศิริคงคล ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา
- รศ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
ซึ่งเนื้อหาก็แน่นอนอยู่แล้วล่ะครับว่าต้องสับแหลกตำรวจในประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ทั้งเรื่อง ครูแพะ , ทุจริตสอบนายสิบตำรวจ , การใช้อำนาจของตำรวจด้านต่าง ๆ ฯลฯ ทำให้ผู้นำองค์กรตำรวจอย่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ต้องออกมาตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน ดังนี้
"นักวิชาการที่พูดในตำราก็โอเค แต่หากนอกตำราเขาเรียกนักวิชาเกิน กรมตำรวจตั้งมาตั้งแต่สมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 มีหน้าที่ปกป้องดูแลทุกข์สุขประชาชน ปราบโจรผู้ร้ายเยอะแยะมากมาย ต้องถามเขาดูว่าคำถามนี้ ควรถามไหม ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ ปกป้องสถาบันฯ ตำรวจดูแลความปลอดภัยในประเทศภัยพิบัติต่างๆ ที่ออกมาช่วยเหลือก็มีแต่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทำไมไม่ไปถามบ้างว่ากรมการปกครอง มหาดไทย มีไว้ทำไม พวกนี้นักวิชาเกิน ผมไม่รู้ว่ามีอคติอะไรหรือเปล่า ญาติพี่น้องอาจถูกตำรวจจับมาก่อนก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่ามาย่ำยีองค์กรผมมาก ผมในฐานะหัวหน้าหน่วย ก็ต้องออกมาปกป้ององค์กร ปกป้องอาชีพของผม
เรื่องนี้ก็ว่ากันไป ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปรับตรงนี้ ทำให้ดีที่สุด นักวิชาการมีตั้งแยะ สิ่งที่บอกว่าหากดีกับตำรวจก็นำมาดำเนินการอยู่แล้ว รับฟังหมดอยู่แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการปฏิรูปตำรวจ รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ทั้ง สนช. สปท. เพราะการปฏิรูปตำรวจโดยฟังความเห็นจากรอบด้านเป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อยู่แล้ว ส่วนอดีตตำรวจที่ออกมานั้นให้ไปสำรวจตัวเองว่าประสบความสำเร็จในการรับการราชการตำรวจหรือเปล่า นอกนั้นก็เป็นนักวิชาเกินเหมือนกัน บ้านยังถูกปาระเบิดเลย ไปคิดดูแล้วกัน อย่างไรก็ตามตนไม่สามารถบอกได้ว่าเจตนาของการจัดเสวนาหัวข้อนี้คืออะไร อาจต้องการสร้างกระแสก็ได้
ตำรวจมีหน้าที่รับใช้ประชาชน ทุกวันนี้ผมก็เป็นเบ๊ประชาชน ยังมาถามอีก ตำรวจมีไว้ทำอะไร แม้จะปรับองค์กร เราก็พร้อมอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าทุกคนที่ให้ความเห็นก็หวังดี ตำรวจคนไหนไม่ดีก็บอกมา ระบุชื่อมา ผมก็เอาออกอยู่แล้ว อย่ามาพูดถึงองค์กรตำรวจ ถ้าอย่างนั้นผมก็วิจารณ์เขากลับได้ เป็นนักวิชาการแล้วมาพูดไปเรื่อย คะนองปากหรือเปล่า"
พล.ต.อ.จักรทิพย์ฯ ในฐานะ ผบ.ตร. โต้ตอบแบบ ได้ใจ ผู้ใต้บังคับบัญชามาก แต่สิ่งที่ตอบโต้ไปนั้น ควรจะได้รับการขัดเกลา เตรียมประเด็นสักหน่อย เพราะมีเวลา 2 - 3 วัน กว่าจะออกมาแสดงท่าที จะได้ไม่เป็นการโดดลงไปเล่นวิวาทะกัน อาทิ
- เกริ่นนำด้วยการขอบคุณวงเสวนา ที่ได้ให้ข้อเสนอแนะ ทางตำรวจยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มคนสีไหน ม็อบไหน เคยขึ้นเวทีไหน มีอคติส่วนตัวอย่างไร เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
- ตำรวจทั่วประเทศมีกว่าสองแสนนาย งานในหน้าที่มีมาก มันก็อาจมีข้อผิดพลาดบกพร่องเกิดขึ้นได้ ซึ่งตรงไหนที่ผิดพลาดก็แก้ไขกันเป็นจุด ๆ ไม่ใช่เหมารวมไปหมด คนที่เขาทำหน้าที่ได้ดีก็จะหมดกำลังใจในการทำงาน
- ในโลกยุคโซเชี่ยลมีเดีย การตรวจสอบตำรวจนั้นมีมากยิ่งกว่าหน่วยงานราชการใด ๆ อยู่แล้ว ช่องทางร้องเรียนตำรวจนั้นมากมายสารพัดช่องทาง ซึ่งเราก็พยายามปรับปรุงตัวอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีจุดไหนที่ไม่ถูกต้อง ผิดพลาด ท่านก็รายงานเข้ามา ร้องเรียนมา เราพร้อมดำเนินการ
- แล้วท่าน ผบ.ตร. ก็ไม่ต้องไป แขวะ องค์กรอื่นเขาหรอกครับ จะทำให้หมางใจกันเปล่า ๆ โดยเฉพาะในท้องที่ ที่เขาทำงานด้วยกัน ไอ้ที่ดี ๆ กันอยู่ก็อาจหาเรื่องกันได้
นอกจากนี้ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ก็ยังได้ออกมากล่าวเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทหาร - ตำรวจ มีไว้ทำไม ลองฟังกันดูครับ
กับคำถามที่ว่า "ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร" นั้น เขาต้องการที่จะกระตุกเตือนพี่น้องตำรวจ ในการทำงานให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ไม่ให้เกิดการทุจริตเรียกรับ สร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้น อำนวยความยุติธรรม แน่นอนว่าตำรวจ จำเป็นต่อสังคมทุกแห่ง ทุกประเทศ เพื่อรักษากฎหมาย เพื่อให้สังคมดำรงอยู่ได้ด้วยความปกติสุข แต่การทำงานของเรายังต้องปรับปรุง ผมเคยเขียนเรื่อง "จนถึงวันที่ตำรวจไม่จำเป็นต่อสังคมอีกต่อไป" ลองไปอ่านดูครับ(คลิ๊ก)
พี่น้องตำรวจก็ไม่ต้องโมโห กับคำถามที่ว่า ตำรวจมีไว้ทำไม ประชาชนมีสิทธิถามกับทุก ๆ อาชีพ ที่เขารู้สึกว่ายังทำงานได้ไม่ดีพอ ช่วยกันปรับปรุงตัวนะครับพี่น้อง ไม่มีใครเข้าใจว่าเราลำบากอย่างไร นอกจากพวกเราเอง ถ้าตำรวจมันเลวหมด เราคงเป็นอาชีพที่รวยที่สุดไปแล้ว ไม่ต้องอาศัยบ้านหลวง ส่งลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ กันหมดแล้ว เรื่องความเข้าใจกัน ต้องใช้เวลา จะให้ใจถึงใจกันได้ ต้องเข้าหาประชาชน คุยกับเขามาก ๆ ช่วยเหลือเขาแม้นอกเหนือหน้าที่ ยิ้มแย้ม พูดจาดี ๆ คงไม่ยากเกินไปนะครับ
ปล. เหมือนน้องน้ำตาล ที่ต้องตอบคำถามสด ในการชิงมงกุฎนางงามฯ เมื่อไม่เตรียมตัวมาก่อน คำตอบมันก็อาจไม่ครบถ้วนกระบวนความเท่าทีควร แต่ในกรณีนี้ ท่าน ผบ.ตร. มีเวลาเตรียมตัว และรู้แน่ว่าจะโดนคำถามแบบนี้หลังงานเสวนา ทางทีมโฆษก หรือหน้าห้อง ควรต้องเตรียมคำตอบไว้ให้ท่านด้วยนะครับ ... นี่เป็นสิ่งที่มืออาชีพจะต้องทำ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น