พล.อ.ประยุทธ์ฯ ใช้อำนาจ ม.44 พ่อทุกสถาบัน ออกคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ถ้าไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งตำรวจ จะไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ และให้แบ่งเงินค่าปรับระหว่างกรมขนส่งทางบก - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 21 มีนาคม 2560 และเริ่มบังคับใช้ทันที !
ในปัจจุบันมีผู้ขับขี่รถหรือเจ้าของรถ ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการจราจรทางบก เป็นจํานวนมาก โดยมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงและเพิกเฉยต่อการบังคับใช้ทางกฎหมาย ซ้ํายังปรากฏว่ามีการกระทําความผิดดังกล่าวซ้ําอีกในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งความสงบเรียบร้อยของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน จึงจําเป็นต้องปรับปรุงกลไกและกําหนดมาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายอันเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูประบบการคมนาคมขนส่งและความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในวรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ของมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2535 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“เจ้าพนักงานจราจร หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานจราจร หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใต้การควบคุมดูแลของบุคคลดังกล่าว มีอํานาจเคลื่อนย้ายรถที่หยุดหรือจอดอยู่อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือใช้เครื่องมือบังคับไม่ให้เคลื่อนย้ายรถดังกล่าวได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติกําหนด
การเคลื่อนย้ายรถหรือใช้เครื่องมือบังคับให้รถที่หยุดหรือจอดอยู่ไม่ให้เคลื่อนย้ายได้ตามวรรคสอง เจ้าพนักงานจราจร หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงาน เจ้าหน้าที่ ไม่ต้องรับผิดสําหรับความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามมาตรานี้ เว้นแต่ความเสียหายนั้น จะเกิดขึ้นจากการกระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่ต้องชําระค่าใช้จ่ายในการที่รถถูกเคลื่อนย้ายหรือการใช้เครื่องมือบังคับ ไม่ให้เคลื่อนย้าย ตลอดจนค่าดูแลรักษารถระหว่างที่อยู่ในความครอบครองของเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ตามอัตราที่กําหนดในกฎกระทรวง”
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๑๒๓ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2538 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะขับขี่รถยนต์ และต้องจัดให้ คนโดยสารรถยนต์รัดร่างกายไว้กับที่นั่งด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์ และคนโดยสารรถยนต์ดังกล่าวต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะโดยสารรถยนต์ด้วย”
ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 141 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2535 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 141/1 ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถซึ่งได้รับใบสั่งไม่ปฏิบัติตามมาตรา 141 ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีและนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก มีหน้าที่และอํานาจ ดังต่อไปนี้
(1) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตําแหน่งตั้งแต่สารวัตรขึ้นไปมีหนังสือแจ้งการไม่ปฏิบัติตามใบสั่ง และจํานวนค่าปรับที่ค้างชําระให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ครบกําหนดชําระค่าปรับตามที่ระบุในใบสั่ง และให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถทําการชําระค่าปรับที่ค้างชําระด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามมาตรา 141 ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
การแจ้งตามวรรคหนึ่ง ให้ทําเป็นหนังสือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับให้ผู้ขับขี่ หรือเจ้าของรถ แล้วแต่กรณี ณ ภูมิลําเนาของผู้นั้น ทั้งนี้ ตามแบบที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติกําหนดและให้ถือว่าผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถได้รับแจ้งเมื่อพ้นกําหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ส่ง
(2) ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถคันใดไม่ชําระค่าปรับตาม (1) ให้ดาเนินการ ดังต่อไปนี้
(ก) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งจํานวนค่าปรับที่ค้างชําระพร้อมหลักฐานตาม (1) ไปยัง นายทะเบียน และให้นายทะเบียนตรวจสอบข้อมูลและแจ้งให้ผู้มาติดต่อขอชําระภาษีประจําปีสําหรับรถคันนั้นทราบ เพื่อไปชําระค่าปรับที่ค้างชําระภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ถ้าผู้มาติดต่อขอชําระภาษีประจําปีเป็นเพียงตัวแทนเจ้าของรถ ให้ผู้มาติดต่อแจ้งให้เจ้าของรถทราบเพื่อไปชําระค่าปรับภายในระยะเวลาดังกล่าว ในการนี้ ให้นายทะเบียนรับชําระภาษีประจําปีสําหรับรถคันนั้นไว้โดยออกหลักฐานชั่วคราวแทนการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจําปีให้เจ้าของรถหรือตัวแทนเจ้าของรถแทน หลักฐานชั่วคราวตามวรรคหนึ่งให้ใช้แทนเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจําปี โดยให้มีอายุสามสิบวันนับแต่วันที่นายทะเบียนได้ออกให้
(ข) ในกรณีที่เจ้าของรถได้ชําระค่าปรับที่ค้างชําระครบถ้วนภายในระยะเวลาตามที่กําหนด ใน (ก) ให้เจ้าของรถหรือตัวแทนเจ้าของรถนําหลักฐานแสดงการชําระค่าปรับที่ได้รับจากพนักงานเจ้าหน้าที่มาแสดงต่อนายทะเบียนเพื่อให้ออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจําปีสําหรับรถคันนั้น
(ค) ในกรณีที่เจ้าของรถหรือตัวแทนเจ้าของรถที่ได้รับหนังสือแจ้งตาม (ก) ประสงค์จะ ชําระค่าปรับในวันที่มาติดต่อขอชําระภาษีประจําปี ให้นายทะเบียนมีอํานาจรับชําระค่าปรับตามจํานวนที่ค้างชําระแทนได้ โดยให้นายทะเบียนรับชําระภาษีประจําปีสําหรับรถคันนั้นและออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจําปีให้เจ้าของรถหรือตัวแทนเจ้าของรถ
(ง) ในกรณีที่เจ้าของรถไม่ชําระค่าปรับที่ค้างชําระหรือชําระไม่ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กําหนดใน (ก) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งนายทะเบียนให้งดการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจําปีสําหรับรถคันนั้น และแจ้งให้พนักงานสอบสวนดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจต่อไป
ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถผู้ใดเห็นว่า ตนมิได้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติ แห่งพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถนั้น ให้ทําหนังสือโต้แย้งข้อกล่าวหานั้นภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียนตาม (ก) ส่งไปยังสถานที่ที่ระบุไว้ในใบสั่งหรือสถานที่ที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ การทําหนังสือโต้แย้งให้ใช้วิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับหรือสํานักงานตํารวจแห่งชาติจะกําหนดวิธีการอื่นใดด้วยก็ได้
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานจราจรได้รับหนังสือโต้แย้งตามวรรคสอง หากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานจราจรยังคงยืนยันและเห็นสมควรดําเนินคดีต่อผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถผู้นั้นให้ส่งเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อดําเนินการฟ้องต่อศาลต่อไป แล้วแจ้งผลให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถทราบ
เมื่อได้มีการชําระค่าปรับครบถ้วนถูกต้องแล้ว ให้คดีเป็นอันเลิกกัน และในกรณีที่มีการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้ ให้ผู้ขับขี่นําหลักฐานการชําระค่าปรับไปขอรับใบอนุญาตขับขี่คืนจาก พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เรียกเก็บ ทั้งนี้ ในระหว่างที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตขับขี่คืน ให้ถือว่าหลักฐานแสดงการชําระค่าปรับเป็นใบแทนใบอนุญาตขับขี่มีกําหนดสิบวันนับแต่วันที่ชําระค่าปรับ
การรับชําระและการนําส่งเงินค่าปรับ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบกกําหนด
เงินที่ได้รับตามวรรคหนึ่ง (2) (ก) ให้อธิบดีกรมการขนส่งทางบกหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย หักไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บหรือค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานในอัตรา ร้อยละห้า ของจํานวนเงินที่ได้รับ โดยให้นําไปใช้จ่ายได้เช่นเดียวกับเงินงบประมาณตามระเบียบที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกําหนด ส่วนเงินที่เหลือให้นําส่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติ
การดําเนินการใด ๆ ของพนักงานเจ้าหน้าที่และนายทะเบียนตามมาตรานี้สามารถใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใดตามที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบกกําหนด”
ข้อ 4 บทบัญญัติในมาตรา 141/1 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคําสั่งนี้ มิให้ใช้บังคับกับใบสั่งที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ออกให้ ก่อนวันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับ โดยให้นําบทบัญญัติในมาตรา 141 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2535 ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับ มาใช้บังคับกับใบสั่งดังกล่าว
ข้อ 5 ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบ แห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้
ข้อ 6 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๒๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ถือเป็นคำสั่งที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติรอคอยมานาน เพราะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ กับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ที่ได้ออกใบสั่งไปแล้วได้ เมื่อกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนก็ยังคงขับรถตามอำเภอใจ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอุบัติเหตุทางถนนมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ความสูญเสียชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เสียไปจำนวนมากมายมหาศาล การบังคับใช้กฎหมายของตำรวจปีแล้วปีเล่า ก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ขับขี่คนไทยได้เลย โดยเฉพาะเรื่องการ เมาแล้วขับ , ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นสาเหตุหลัก ๆ ในการเกิดอุบัติเหตุ
แต่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะต้องกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ให้เน้นข้อหาหลัก ๆ ที่สำคัญ รวมค่าปรับแล้วจะต้องไม่เกินกำลังของประชาชนที่จะจ่ายได้ เพื่อเป็นการค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนนิสัยในการขับขี่ ส่วนข้อหารอง ๆ นั้นก็ให้แจ้งให้ทราบแล้วว่ากล่าวตักเตือนไปบ้าง อย่าหวังเอาแต่ค่าปรับ คิดถึงใจเขาใจเรา จะให้จ่ายเงิน 500-1,000 บาท กับประชาชนคนเดินดิน มันหนักหนาสาหัสอยู่นะครับ(พวกเจ้านายไม่เคยจน ไม่รู้หรอก.. เลยบอกให้รู้ไง) ลองดูว่าครบปีแล้วมาประเมินผลกันอีกที ว่าสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้รถใช้ถนนได้หรือไม่
มาดูขั้นตอนต่าง ๆ ของการดำเนินการในเรื่องนี้กันครับ ว่าหากได้รับใบสั่งแล้ว เสียค่าปรับ กับ ไม่เสียค่าปรับ นั้น จะมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไรบ้าง จะได้เข้าใจตรงกันครับ
ส่วนด้านล่างนี้ เป็นตัวคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 จำนวน 4 หน้า ครับ
แต่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะต้องกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ให้เน้นข้อหาหลัก ๆ ที่สำคัญ รวมค่าปรับแล้วจะต้องไม่เกินกำลังของประชาชนที่จะจ่ายได้ เพื่อเป็นการค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนนิสัยในการขับขี่ ส่วนข้อหารอง ๆ นั้นก็ให้แจ้งให้ทราบแล้วว่ากล่าวตักเตือนไปบ้าง อย่าหวังเอาแต่ค่าปรับ คิดถึงใจเขาใจเรา จะให้จ่ายเงิน 500-1,000 บาท กับประชาชนคนเดินดิน มันหนักหนาสาหัสอยู่นะครับ(พวกเจ้านายไม่เคยจน ไม่รู้หรอก.. เลยบอกให้รู้ไง) ลองดูว่าครบปีแล้วมาประเมินผลกันอีกที ว่าสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้รถใช้ถนนได้หรือไม่
มาดูขั้นตอนต่าง ๆ ของการดำเนินการในเรื่องนี้กันครับ ว่าหากได้รับใบสั่งแล้ว เสียค่าปรับ กับ ไม่เสียค่าปรับ นั้น จะมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไรบ้าง จะได้เข้าใจตรงกันครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น