ก่อนปฏิรูปตำรวจ มาดูต้นทุนทำงานของตำรวจก่อน

หลังจากรัฐบาลเผด็จการทหารได้แต่งตั้ง พล.อ.บุญสร้าง  เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้ก่อการรัฐประหารรุ่นพี่ เมื่อปี 2549  เป็นประธานกรรมการในการปฏิรูปตำรวจ  มีกรรมการฯ ตามตำแหน่ง 5 คน ประกอบด้วยปลัดกระทรวงการคลัง , ปลัดกระทรวงมหาดไทย , ปลัดกระทรวงยุติธรรม , เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมและอัยการสูงสุด กรรมการฝ่ายตำรวจนำโดย ผบ.ตร. 15 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 15 คน รวม 36 คน ต้องปฏิรูปให้เสร็จในวันที่ 6 เม.ย.61 ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ มีกรอบปฏิรูป 3 ด้าน คือโครงสร้างตำรวจ สังกัดและอำนาจหน้าที่

     สถานีตำรวจนั้นทางผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. ให้ความสำคัญว่าเป็น "จุดแตกหัก" ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ  สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดีหรือเลว  ก็อยู่ที่การปฏิบัติของสถานีตำรวจทั่วประเทศ  ตัวผู้เขียนเองนั้นในฐานะตำรวจผู้ปฏิบัติ ที่อยู่ในสถานีตำรวจ  ขอเสนอความคิดเห็นต่อ พล.อ.บุญสร้างฯ และคณะ  ก่อนที่จะรับเบี้ยประชุม และค่าตอบแทนจากภาษีประชาชน(กันพุงปลิ้น)  ในการปฏิรูปตำรวจ  ต้องมาดูการปฏิบัติงานที่สถานีตำรวจก่อนครับ  มาดูกันหน่อยว่า "ตำรวจโรงพัก" มีต้นทุนอะไรบ้าง อาทิ
  • ซื้ออาวุธประจำกาย  จบมายังไม่ทันรับเงินเดือนเดือนแรก  ก็ต้องตะเกียกตะกาย  หาซื้ออาวุธปืนประจำกาย  ในราคาสวัสดิการเดี๋ยวนี้ก็ 4 - 5 หมื่น  ไม่เหมือนพวกท่านที่จบมาก็มี ปืนเล็กยาว รถถัง GT200 ใช้กันครบครัน   จะซ้อมยิงปืน ก็ต้องซื้อกระสุนเองนะครับ
  • ซื้อวิทยุสื่อสาร ของหลวงมีไม่พอ ที่มีก็ห่วยครับ แบตเสื่อมหมดแล้ว
  • บ้านพัก แฟลต ไม่เพียงพอ  หรือ สร้างยังไม่เสร็จด้วยงบไทยเข้มแข็ง !(ลืมกันรึยัง ว่าไอ้จัญไรตัวไหนมันทำไว้)
  • ยานพาหนะ และน้ำมัน  มีไม่พอทำงาน ไม่มีเหลือขายเหมือนบางหน่วยนะครับ
  • ที่ทำการสายตรวจสร้างเอง ออกค่าน้ำค่าไฟเอง  มีหน่วยงานไหนทำได้แบบนี้บ้าง
  • คอมพิวเตอร์ พริ้นเตอร์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ของส่วนตัวทั้งนั้น  งบราชการแม่งซื้อกระดาษก็ไม่พอแล้ว
  • ชั่วโมงทำงานเกินเบี้ยเลี้ยงที่ได้รับ  สำนักงานตำรวจแห่งชาติเอาเปรียบตำรวจชั้นผู้น้อยมาหลายปีแล้ว  หน่วยงานอื่น ไม่มีเงิน เขาไม่ต้องออกทำงานนะครับ(ท่านรัฐประหารยังเบิกเบี้ยเลี้ยง ค่าน้ำมันรถถังเลยจริงมั๊ย)  แต่ตำรวจนี่มึงไปทำงานก่อนเลย  เรื่องเงินไม่ต้องถาม  มีแล้วจะให้
  • ความก้าวหน้า ขึ้นกับผู้มีอำนาจ  ไม่มีระบบคุณธรรมที่มีตัวชี้วัดชัดเจน(การเข้าอบรมสารวัตร ยังมีหลักเกณฑ์ดีกวาแต่งตั้ง)

     เหล่านี้แหละครับที่ทำให้ตำรวจไม่สามารถ "ยกระดับการบริการ" หรือ "ปฏิรูป" ได้อย่างมืออาชีพ  เหมือนอย่างที่ประชาชนคาดหวัง  ส่วนคนที่ท่านแต่งตั้ง  ถ้ามาแบบมีต้นทุน มันก็ต้องมาถอนทุน  คนทำเรื่องแต่งตั้งก็ต้องรับผิดชอบด้วยสิครับ  




     เห็นตั้งธงไว้ 3 ด้าน คือโครงสร้าง สังกัด และ อำนาจหน้าที่  มาดูกันทีละด้านตามความเห็นตำรวจบ้านนอกที่อยู่ห่างศูนย์กลางอำนาจกันบ้างครับ
  1. โครงสร้าง  ไม่ต้องไปยุ่ง หรือปรับอะไร  เพราะเห็นปรับกันมาหลายรอบก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้น  กลับมาให้อำนาจ ผบช. แต่งตั้งอย่างเดิม  แล้วใช้ระบบคุณธรรมให้มากขึ้น  กำหนดตัวชี้วัดในการแข่งขันให้เป็นธรรม  / แล้วการย้าย ถีบออกนอกภาค โดยมิได้ร้องขอ  พอซะทีเถอะ  คนหมดกำลังใจทำงาน  ห่างบ้านห่างครอบครัว  หน่วยปลายทางก็ใช้งานเขาได้ไม่เต็มที่
  2. สังกัด จะให้ขึ้นกับท้องถิ่น จังหวัดใคร จังหวัดมัน  ถ้าจะลอกจากต่างประเทศ ก็ลอกมาให้หมด มึงเอาซักประเทศนึงครับ  ลอกระบบการปกครองของเขามาด้วย  ไม่ใช่เอาอย่างประเทศนี้นิด ประเทศนั้นหน่อย  ยำจนมั่วไปหมดอย่างทุกวันนี้  เช่น จะเอาอย่างอเมริกา ก็ทำให้เหมือนนะ อุปกรณ์ครบ มาแต่ตัว ออกตรวจจับอย่างเดียว ไม่ต้องรอให้โดนยิงก่อนถึงจะยิงได้
  3. อำนาจหน้าที่ บ่นเรื่องงานสอบสวนกันมาก  ก็เขาทำแท่งไว้ดี ๆ ก็ใช้ ม.44 พังสายงานเขาทิ้ง  พนักงานสอบสวนหมดขวัญกำลังใจ ต้องวิ่งเต้นหาเจ้านายเพื่อความก้าวหน้า  ย้ายข้ามสายกันให้มั่วไปหมด  ย้ายคนนอกสายมาอยู่สอบสวน เงินประจำตำแหน่งก็ไม่ได้  แบบนี้งานจะออกมาดีได้อย่างไร  ที่ผ่านมาก็ปรับระบบจนจะเข้าที่อยู่แล้ว  พวก พงส. หลายคน ถ้าออกนอกสายได้เขาก็อยากออก


     ลองดูครับ  ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ให้ทหารมาปฏิรูปตำรวจ เพราะอย่างไร ก็ต้องตั้งคนนอกมาเป็นกรรมการอยู่แล้ว  จึงจะเหมาะสม  แต่จะปฏิรูปอะไรก็ต้องมาเรียนรู้การทำงาน ข้อจำกัด อุปสรรค ของหน่วยงานนั้น ๆ เสียก่อน  ไม่ใช่จ้องจะด่ากันท่าเดียว  เห็นพวกที่เย้ว ๆ จะปฏิรูปตำรวจบนเวที  ตัวเองยังไม่เคารพกฎหมายเลย  ย้อนแย้งฉิบหายไทยแลนด์

อ่าน ปฏิรูปตำรวจฉบับผู้ปฏิบัติ(คลิ๊ก) เขียนไว้หลายปีแล้ว ปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขครับ

ความคิดเห็น