ถ้าพูดถึงการวัดผลการทำงานของตำรวจ เพื่อน ๆ คงจะคุ้นเคยกับ "สถิติคดีอาญา 4 กลุ่ม" ที่มีการติดตามความคืบหน้ากันทุก ๆ เดือน และต้องมีผลการปฏิบัติที่ดีกว่าเป้าหมาย กล่าวคือ หากมีคดีเกิดแล้วจะต้องจับกุมผู้ต้องหาให้ได้คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ โดยดูจากค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง เช่น หาก 3 ปี ย้อนหลังมีคดีเกี่ยวกับทรัพย์เกิดขึ้นเฉลี่ยปีละ 100 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เฉลี่ยที่ 70 คดี ปีนี้ ก็จะต้องมีการจับกุมผู้ต้องหาให้ได้มากกว่า 70 % นั่นเอง โดยการคิดตัวชี้วัดนี้จะเน้นกันที่ กลุ่ม 1 และ กลุ่ม 2
สำหรับรายละเอียด สถิติคดีอาญา 4 กลุ่ม นั้น มีดังนี้
- กลุ่ม 1 คดีเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ
- กลุ่ม 2 คดีเกี่ยวกับทรัพย์ เช่น ลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง ฯลฯ
- กลุ่ม 3 คดีความผิดตาม พ.ร.บ. ต่าง ๆ เช่น ค้ามนุษย์ ลิขสิทธิ์ ป่าไม้ ฯลฯ
- กลุ่ม 4 คดีทีรัฐเป็นผู้เสียหาย เช่น ยาเสพติด อาวุธปืน การพนัน ฯลฯ
จากสถิติปัจจุบัน กลุ่ม 1 ความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และ เพศ เฉลี่ยทั่วประเทศ อยู่ในระดับ 80 % ขึ้นไป(ตอนนี้บางโรงพักได้ 100% แล้ว) ส่วนกลุ่ม 2 ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ก็ประมาณ 70 % ขึ้นไปเช่นกัน นั่นคือการรับคดีแล้วสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้นั้น มีสัดส่วนที่สูงมาก ๆ ที่จับไม่ได้ก็อาจรู้ตัวผู้กระทำผิดแต่หลบหนีหมายจับ หรือเป็นคดีไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด
ถามว่าสถิติดังกล่าวตรงตามคดีที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ? .... แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับสถิติคดีอาญาของไทย ? .... การรับคดีอาญาที่มีตัวเลขนั้น จะถูกกำกับด้วยสถิติย้อนหลัง 3 ปี และนโยบายกำหนดให้ต้องจับกุมตัวผู้ต้องหาให้ได้ในสถิติที่ดีกว่าเดิม ความกดดันจะถาโถมใส่หัวหน้าสถานี ทำให้ไม่สามารถรับทุกคดีที่เกิดขึ้นจริงได้ จะรับคดีที่รู้ตัวผู้ต้องหาเป็นหลักก่อน คดีอื่นถ้าเลี่ยงได้ก็จะรับเรื่องไว้ดำเนินการ แต่ยังไม่ตัดเลขคดี แน่นอนว่าหากยังทำกันอย่างนี้ อีกไม่กี่ปี สถิติการจับกุมผู้ต้องหาจะเป็นร้อยเปอร์เซนต์แน่ ๆ แต่แน่นอนว่าเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ เพราะสถิติเหล่านี้ ได้มาจากการปิดบังตัวเลขที่แท้จริง ในการรับคดีนั่นเอง
แม้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. จะได้มอบนโยบายในหลายวาระ หลายปีที่ผ่านมา ให้ "รับคดีตามจริง" แต่ด้วยความกดดันจากสถิติดังกล่าว จึงยังไม่สามารถรับคดีตามจริงได้ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่เราจะเลิกทำงานแบบโกหก ตอแหลใส่กัน แล้วยืดอกยอมรับความจริง ทำงานบนพื้นฐานของตัวเลขที่ถูกต้องเสียที นี่ก็เป็นการปฏิรูปการทำงานของตำรวจแบบหนึ่งเหมือนกัน ไม่แน่ถ้าได้ตัวเลขคดีจริง ๆ มา เราอาจได้เห็นภาพรวม หรือมุมมองใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหาก็เป็นได้
ปล. สถิติ หรือข้อมูลประเทศไทยแทบทุกเรื่องมันเพี้ยน ๆ เป็นสถิติ ข้อมูล ตัวเลขที่ตกแต่งมาให้ส่วนราชการของตัวเองดูดีมาตลอด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น