หมวกเบเร่ต์ในเครื่องแบบตำรวจ

ปกติการใส่หมวกเบเร่ต์ หรือหมวกสักหลาดทรงอ่อนของตำรวจนั้น มีใส่กันมานานแล้วในบางหน่วย อาทิ ตำรวจตระเวนชายแดน , ท่องเที่ยว , ทางหลวง  แต่ยังไม่แพร่หลายมากนัก  จนกระทั่ง พล.ต.อ.อดุลย์  แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทุกนายสามารถใช้หมวกเบเร่ต์ และเข็มขัดถัก ประกอบเครื่องแบบได้ เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน(เชื่อว่าตอนนี้คงได้รับคำสั่งดังกล่าวกันทุกโรงพักแล้ว)

     โดยท่าน ผบ.ตร. ได้ใส่มานานแล้ว  เท่าที่จำได้ เห็นตั้งแต่ช่วงเป็น รอง ผบ.ตร. และคุม สชต.  แต่ตำรวจส่วนใหญ่ยังไม่กล้าใส่ โดยเฉพาะตำรวจภูธรต่าง ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าใส่ได้หรือไม่  พอมีคำสั่งดังกล่าว  จึงได้กล้าใส่กัน  ก็นับว่าเป็นประโยชน์ต่อข้าราชการตำรวจเป็นอย่างยิ่ง  เพราะหมวกหม้อตาลนั้นไม่เหมาะในการปฏิบัติงานปกติอย่างยิ่ง  เป็นภาระที่ต้องระวังว่ามันจะหลุด หล่น , ใส่ก็ร้อน , เก็บก็ยาก แถมบดบังทัศนวิสัยอีกด้วย(เอาไว้ใส่ในงานพิธีเท่านั้นก็พอ)  ตอนนี้ร้านขายเครื่องแบบตำรวจก็กระชุ่มกระชวยกันใหญ่  ก็ขอฝากเรื่องเครื่องแบบตำรวจเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ดังนี้ครับ 

1. สีของเครื่องแบบปกติกากี น่าจะกำหนดเบอร์สีให้เป็นสีเดียวกัน(เวลาเข้าแถวจะเห็นว่ามันแตกต่างกันมากเหลือเกิน)

2. เครื่องแบบผู้ปฏิบัติน่าจะออกแบบใหม่ให้มีความคล่องตัวมาก ๆ ไอ้เครื่องแบบปัจจุบันนี้เป็นภาระในการทำงานเสียมากกว่า  เพราะรัดรูปเคลื่อนไหวลำบาก เครื่องหมายโลหะมีราคาแพงทำให้คอยระแวง กลัวตกหล่น  เอาง่าย ๆ ให้ลองแต่งเครื่องแบบปัจจุบันชักปืน , ฟัดคนร้าย  เปรียบเทียบกับแต่งชุดลำลอง จะเห็นถึงความว่องไว คล่องตัว และประสิทธิภาพที่แตกต่างชัดเจนครับ

3. หมวกแก็ป ไว้ด้วยครับ เพราะยังไม่มีในระเบียบ  และก็รูปแบบก็ต่างคน ต่างออกแบบกันไป  ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน  ถ้าออกแบบและมีคำสั่งเป็นเรื่องเป็นราวก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงานมาก

ถ้าทำได้ทั้ง 3 ข้อนี้ รับรองว่าตำรวจไทยจะทำงานเข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพขึ้นอีกมาก

ส่วนสีของอาร์มรองหน้าหมวกสำหรับหน่วยงานต่าง ๆ มีดังนี้

นครบาล-สีเหลือง
ท่องเที่ยว-สีน้ำเงิน
กองปราบ-สีฟ้า
ภูธร,ตชด.,ตำรวจรถไฟ เเละอื่นๆ- สีเเดงเลือดหมู
ทางหลวง-สีเเดงปักตราเเผ่นดิน



บทความที่เกี่ยวข้อง การสวมหมวกเบเร่ต์ที่ถูกต้อง , การใช้หมวกประกอบเครื่องแบบตำรวจ , หน้าหมวกตำรวจ : ประวัติและความเป็นมา