เริ่มกันอีกแล้วครับประเทศไทย กับการรับม็อบการเมือง คราวนี้มาในนาม "ม็อบน้ำแข็ง" ของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม หรือ อพส. ที่ตั้งเป้าว่าจะมากันเป็นแสน เป็นล้าน เพื่อล้มรัฐบาล และจับประเทศแช่แข็ง !!
งานนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ต้องรับบทหนักในฐานะผู้นำตำรวจ ที่ต้องบริหารสถานการณ์ให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ให้เกิดมือที่สาม หรือกลุ่มคนที่จะป่วนการชุมนุม เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย เข้าทางขบวนการยึดอำนาจ ซ้ำรอย รัฐประหารปี 49
โดยมีการเรียกกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนจากจังหวัดต่าง ๆ รวมกันแล้ว 100 กองร้อย !! (1 กองร้อยมีกำลังประมาณ 150 นาย) รวมกับกำลังตำรวจ บช.น. , ตชด. , บช.ก. ฯลฯ เป็นกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดร่วม 50,000 นาย !! จัดแบ่งกำลังรับผิดชอบสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทุกจุด ประกอบกับรัฐบาลประกาศ พรบ.ความมั่นคงฯ ใน 3 เขต กทม.
หวังว่าการชุมนุมคงจะเป็นไปด้วยความสงบ เรียบร้อย อย่างที่ ผู้นำ(เสธ.อ้าย) ประกาศเอาไว้(ไม่รู้ว่าจะเชื่อสัจจะทหารหาญได้หรือไม่?) เพราะงานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกปลดอาวุธปืนทั้งหมด ถ้ามีมือที่สามมาไม่รู้ว่าจะต้องเกิดการสูญเสียกันอีกแค่ไหน ม็อบที่มาก็แปลงร่างจากม็อบมีเส้นชุดเดิม ที่สร้างความเจ็บช้ำให้กับตำรวจมาแล้ว ด้วยผลงานสุดอลังการ อาทิ ขับรถชนตำรวจแล้วถอยมาทับ = รอลงอาญา , พกระเบิดมาตายเอง = ตำรวจผิด , ยึดสนามบิน = เลื่อนคดีไปเรื่อย ๆ , ยึดทำเนียบ ทำลายทรัพย์สิน = เลื่อนไปเรื่อย ๆ อีกเช่นกัน ฯลฯ
ตำรวจไม่ต้องการเผชิญหน้ากับมวลชนครับ ไม่ว่าจะมาในสีเสื้อไหน เพราะตำรวจรู้กฎหมาย รู้ดีว่าทำอะไรได้แค่ไหน มีวิจารณญาณเฉพาะตน ไม่ใช่ประเภทสั่งยิงก็ยิงแมร่งหมด จะเห็นว่าตำรวจออกมาควบคุมสถานการณ์ จะเกิดการสูญเสียน้อยกว่าทหารมาก แต่ถ้าจะให้ดีก็อยากจะขอให้กลุ่มมวลชนมีสติและเคารพกฎหมาย อย่าบ้า อย่าคลั่งไปตามแกนนำ เพราะมันไม่ได้อยู่แนวหน้า ไม่ได้เจ็บตัวเหมือนมวลชน
ประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานะที่ดีในสายตาประชาคมโลก เพราะประเทศมหาอำนาจเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับตลาด AEC (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) และประเทศไทยก็ถือเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้ เรามีเรื่องที่จะต้องเร่งทำอีกมากมาย เพื่อรองรับ AEC อย่าให้ประเทศต้องหยุดนิ่ง หรือถอยหลังไปมากกว่านี้เลยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น