เตือนภัยผู้ใช้รถ โจรตัดสัญญาณรีโมท !!

ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ (ศปจ.ตร.) เตือนภัยผู้ใช้รถ ระวัง! ตรวจเช็ค ระบบล็อกรถ ทุกครั้ง รับมือแก๊งโจรกรรมแบบใหม่ ที่ใช้วิทยุสื่อสาร ก่อเหตุ.

     วันที่ 29 สิงหาคม 2556 ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ (ศปจ.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงประชาสัมพันธ์รูปแบบการโจรกรรมทรัพย์สินภายในรถหรือโจรกรรมรถยนต์ โดยวิธีการรบกวนสัญญาณรีโมทรถยนต์

     พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ได้เคยแจ้งข้อมูลต่อประชาชนและสื่อมวลชนไปแล้วว่า กลุ่มมิจฉาชีพ มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนารูปแบบการโจรกรรมอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ จะนำเสนอรูปแบบการโจรกรรมรถ หรือทรัพย์สินภายในรถรูปแบบใหม่ ที่กลุ่มมิจฉาชีพได้พัฒนามาจากรูปแบบเดิมๆ ที่เคยนำเสนอไปแล้ว โดยรูปแบบที่จะนำเสนอและสาธิตให้ได้ชมนั้น สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ได้จับกุมนายวิเชียร บรรดาศักดิ์ อายุ 48 ปี ได้ที่ ลานจอดรถห้างสรรพสินค้า “แม็คโคร” สาขาบางพลี ซึ่งขณะจับกุม นายวิเชียรฯ กำลังรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าภายในรถของผู้เสียหาย 

     จากการสอบสวน ทราบว่า นายวิเชียรฯ ได้ใช้วิทยุสื่อสาร (ว.) มาดัดแปลงเพิ่มประสิทธิภาพกำลังส่งให้อยู่ในย่านความถี่เดียวกับรีโมทรถยนต์ทั่วไป (233.92– 434 เมกะเฮิรทซ์) และวิธีการใช้งานของวิทยุสื่อสารเครื่องดังกล่าว คือ “เปิดสวิตซ์เครื่องวิทยุสื่อสาร” เพียงเท่านี้ วิทยุสื่อสารเครื่องนี้ก็จะสามารถรบกวนสัญญาณรีโมทรถยนต์ได้ โดยมีรัศมี ประมาณ 25-55 เมตร ผลที่ได้ก็คือ ทำให้รีโมทรถยนต์ที่อยู่ในรัศมี ไม่สามารถใช้เปิด-ปิด ประตูรถยนต์ได้ และถ้าหากผู้ขับขี่ไม่ทำการตรวจสอบรถยนต์ให้แน่ชัดว่า ประตูรถล็อกแล้วหรือไม่ คนร้ายก็จะใช้ช่วงเวลาขณะที่ท่านเจ้าของรถไม่อยู่ เข้ามาทำการโจรกรรมทรัพย์สิน สิ่งของมีค่าภายในรถยนต์ หรือแม้กระทั่งรถยนต์. 

     ในการแถลงครั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ยังได้สาธิตวิธีการทำงานของ วิทยุสื่อสาร (ว.) ที่คนร้ายใช้ว่าวิทยุเครื่องนี้ทำงานอย่างไรด้วย
     ฝากเตือนภัยให้กับทุก ๆ ท่าน ให้ระมัดระวังกัน ถ้าล็อครถแล้วอย่าลืม ดึงมือจับดูว่า ล็อคสนิทแล้วหรือไม่  จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลังครับ

ความคิดเห็น