วิธีปลอดภัย จากด่านตรวจจับความเร็ว

เพื่อน ๆ มักจะถามผมว่าวันนี้มีตรวจจับความเร็วที่ไหนบ้าง ? หรือ จุดที่ตรวจจับความเร็วอยู่ที่ไหน ?  เพราะท่านที่ขับรถบนทางด่วน หรือออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ คงเคยได้รับใบสั่งขับรถเร็วทางไปรษณีย์ หรือ ถูกเรียกเพราะขับรถเร็วเกิน กันบ้าง  และก็ไม่อยากจะโดนกันอีก เพราะไม่อยากเสียเงิน เสียเวลา   วันนี้เลยสรุปข้อแนะนำให้เพื่อน ๆ รอดพ้นจากด่านตรวจจับความเร็วกันครับ

1.             ขับเร็วเท่าไหร่ ถึงจะโดน  อันนี้อันดับแรกต้องดูที่กฎหมายก่อนครับ ปกติถนนทั่วประเทศนั้นบังคับไม่ให้เกิน 90 กม./ชม. จะมีด่วนบางแห่งเท่านั้นครับ ที่ให้ได้ถึง 120 กม./ชม.(มอเตอร์เวย์) อันนี้พูดถึงรถยนต์ 4 ล้อนะครับ  แต่การตรวจจับความเร็วนั้น จะตั้งเกณฑ์ไว้ที่เกินกว่า 120 กม./ชม.(ค่อนข้างเป็นสากล เพราะหลาย ๆ ประเทศก็ใช้เกณฑ์นี้กัน) ท่านที่เคยได้รับใบสั่งทางไปรษณีย์ แบบมีรูปถ่ายรถเรา จะเห็นได้ว่าความเร็วเกินกว่า 120 กม./ชม.

2.             ความเร็วที่ปลอดภัยควรอยู่ที่เท่าไหร่  ถ้าขับตามกฎหมายก็ดีครับ แต่ถ้ามันช้าไปก็ขออย่าให้เกิน 110 กม./ชม.  เพราะมิเตอร์วัดความเร็วของรถเรา กับทางเจ้าหน้าที่อาจคลาดเคลื่อนกัน เผื่อช่วงความเร็วไว้ให้ไม่โดนเรียกดีกว่า  อย่างนี้ปลอดภัยแน่จากเจ้าหน้าที่ตำรวจแน่(เฉพาะเรื่องความเร็วนะครับ)  และยังลดการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย

เป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะรอดพ้นจาก มหันตภัยตำรวจทางหลวง 5 5  คือแทนที่จะปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง คนไทยกลับเลือกที่จะหาช่องหลบเลี่ยงกฎหมาย และมักจะเป็นอย่างนี้ในทุก ๆ เรื่อง  ลองทบทวนกันดูครับว่าที่บ้านเมืองเรามันเป็นอย่างนี้เพราะอะไร  ที่ตำรวจเลวรับส่วย เพราะอะไร(ทำถูกกฎหมาย ไม่ต้องจ่ายส่วย ทำเถอะครับ ทุกเรื่องนั่นแหละ)

สำหรับผู้ที่ชอบความเร็ว และเห็นว่ารถของท่านสามารถทำความเร็วได้มากกว่า 200 กม./ชม.  ทำไมต้องวิ่งเป็นเต่าคลาน  ก็จะขอบอกว่า การขับรถเร็วใคร ๆ ก็ขับได้ แค่มีตีน ไม่ต้องใช้สมอง หรือความรับผิดชอบต่อชีวิตคนอื่นแต่อย่างใด  เมื่อถนนเป็นของสาธารณะที่ต้องใช้ร่วมกัน ก็ควรต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎ  ถ้าคิดว่ารวยจริงแล้วมีเงินซื้อรถหรูมาขับซิ่ง ก็ให้พ่อท่านสร้างถนนเอาไว้ขับเองคนเดียวเลยครับ ^^