ปฏิรูปตำรวจโดยทหารเรือ และทนาย ??

การปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินเครื่องอีกครั้ง โดยการนำของ พลเรือเอกพระจุณณ์ ตามประทีป ประธานคณะอนุกรรมการปฏิรูป โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และกระบวนการทำงานตำรวจ เพื่อประโยชน์ของประชาชน  โดยมีคณะอนุกรรมการ 15 คน ที่ปรึกษา 7 คน
     ในคณะอนุกรรมการฯ มีตำรวจอยู่ 5 คน ในคณะที่ปรึกษามีตำรวจอยู่ 2 คน   โดยคณะอนุฯ ดังกล่าวจะทำการศึกษาปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะและแนวทางการปฏิรูปตำรวจ   ส่วนที่มาของคนกลุ่มนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก มาจากเครือข่ายคณะเผด็จการอำมาตย์หน้าเดิม ๆ ที่เคยมีบทบาทชักใยการรัฐประหารในประเทศนี้มาก่อนหน้า บางคนก็มีบทบาทในการให้ความเห็น สัมภาษณ์ ต่อต้านประชาธิปไตย  ส่วนคนที่ไม่มีบทบาทเบื้องหน้า ก็คงเป็นคณะทำงานใกล้ชิด ข้างเคียง  จึงได้รับเลือกมารับเบี้ยประชุม ค่าตอบแทน(แน่จริงเปิดตัวเลขให้สังคมรับรู้สิครับ เฉพาะเรื่องนี้ พวกคุณได้กันคนละกี่แสน ? เป็นคนดีไม่ต้องกลัว เปิดเผยหน่อย)
     หัวหน้าคณะอนุฯ อย่าง พลเรือเอกพระจุณณ์ฯ ก็รู้ ๆ กันอยู่ครับ เคยทำอะไรที่เรียกได้ว่าผลงานเป็นที่ประจักษ์หรือรับรู้ของสังคมได้บ้าง นอกจากเป็นตัวแทนบางคน ทำหน้าที่เหมือนนายเวร เหมือนขันที   เอาทหารเรือมาปฏิรูปตำรวจ  มีความรู้ความเข้าใจอะไรในงานตำรวจบ้างหรือไม่  เคยสัมผัสชีวิตตำรวจจริง ๆ บ้างไหม  ไม่ใช่ตำรวจที่ไปประจบสอพลอ รับใช้ ติดตามนะครับ  ตำรวจที่ทำงานที่โรงพัก  เขาได้งบประมาณเท่าไหร  แล้วใช้จริงเท่าไหร่    ไม่เหมือนทหารนะครับ ภารกิจไม่มี ตัวชี้วัดไม่ทำ ตรวจสอบไม่ได้
     อีกคนคือ นายวันชัย  สอนศิริ ทนายออกทีวี  โดยอาชีพทนาย เป็นปฏิปักษ์กับตำรวจชัดเจนโดยหน้าที่อยู่แล้ว เพราะยืนอยู่คนละฝั่ง  ตำรวจจับคนร้าย  ทนายช่วยโจร  กฎหมายที่ออกในสภาก็ล้วนออกมาตจากพวกทนาย  ที่เอื้อให้อาชีพตนเองได้มีรายได้มากขึ้น  เช่น บังคับให้บางคดีต้องมีทนาย , สอบเยาวชนก็ต้องมีทนาย(พ่อแม่ ผู้ปกครอง ไม่พอ)  รวมทั้งประเทศมันวุ่นวายอย่างนี้ก็ไม่ใช่เพราะนักกฎหมายหรอกหรือ  ส่วนบทบาทก่อนหน้าก็เกี่ยวข้องกับฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตยมาหลายปี ทั้งการรับตำแหน่ง สว.สรรหา , จัดรายการช่อง astv , จัดรายการคู่กับคนของพรรค ปชป.
     ส่วนตำรวจที่เข้าไปเป็นอนุฯ และที่ปรึกษา นั้น ไม่ทราบว่าประวัติเคยอยู่โรงพักกันบ้างไหม(อยู่จริง ๆ ทำงานจริง ๆ อย่างน้อย 5 - 10 ปี นะ ไม่ใช่มาแต่ชื่อ)  ถ้าเป็นพวกลอยไปลอยมา จากสำนักงาน ไป บช.ก.  วนเวียนแบบนั้น ก็บอกเลยว่าสิ้นหวัง
     จะปฏิรูปตำรวจ ต้องมาดูว่าโจทย์คืออะไร ปัญหามันอยู่ที่ไหน ตั้งสมมุติฐานบนความต้องการของประชาชน หรืออำมาตย์  ถ้าไม่พอใจในการปราบปรามม็อบ กปปส. , ตร. ไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง กปปส. , จับกุมทหารพกอาวุธปืนหลวงได้มากมายในช่วงการชุมนุม กปปส. , ไม่พอใจที่คนของตัวเองไม่ได้รับการแต่งตั้งตามใจ  เหล่านี้ไม่ใช่ความต้องการของประชาชน  
     ถ้าประชาชนจะพูดในเรื่องความไม่เป็นธรรม การกลั่นแกล้ง การใช้กำลัง ตำรวจทำตัวเหนือกฎหมาย พูดจาไม่ดี ใช้อำนาจหน้าที่แสวงประโยชน์ในทางมิชอบ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับประชาชน  ต้องแก้ที่ผู้ปฏิบัติ  ไม่เกี่ยวกับโครงสร้าง(พอเหอะ รื้อโครงสร้างจนมั่วไปหมดแล้ว) แก้ที่การใช้งบประมาณ และกำลังพล ไม่ถูกต้อง ไม่มีประสิทธิภาพ





     ส่วนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม นั้นควรทำกันทั้งระบบ  เริ่มจากการมีระยะเวลาดำเนินคดีในทุกระดับ เพราะตำรวจ-อัยการมีกรอบเวลาชัดเจนแล้ว  แต่ศาล และองค์กรอิสระ ไม่มี  ทำให้ความยุติธรรมล่าช้า จนบางคดีใช้เวลาเป็นสิบปี บางคดีปล่อยขาดอายุความ มันเกินไปไหม กับค่าตอบแทนที่ได้รับ เปรียบเทียบประสิทธิภาพที่คืนให้สังคม  แล้วก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
     อีกเรื่องคือการลำดับคดีก่อนหลัง  ไม่ใช่นึกจะเอาคดีไหนมาทำก่อนได้ ตามใจฉัน  คดีไหนพวกกันดองแม่ง  จนเกิดความเสียหายกับประเทศชาติ  คนพวกนี้ก็ไม่เห็นต้องรับผิดชอบอะไร
     ควรมีระบบถ่วงดุล ตรวจสอบกับศาล และองค์กรอิสระ  รวมทั้งมีบทลงโทษในกรณีสร้างความเสียหายโดยประมาท เลินเล่อ จงใจ สำคัญผิด ฯลฯ เพราะให้ค่าตอบแทนเดือนเป็นแสน  ต้องมีคุณภาพสมราคา  รวมทั้งการเปิดเผยทรัพย์สินแก่สาธารณะ  จะได้รู้กันว่าความรวย มันงอกในอัตราปกติหรือไม่ ?
     เห็นการวางตัวก็รู้แล้วครับ ว่าข้อเสนอ กปปส. ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดไว้บนเวทีว่าจะปฏิรูปตำรวจ  มันมีแนวคิดที่มาอย่างไร และภาคปฏิบัติ หลังจากได้หัวหน้าคณะรัฐประหาร มีการวางตัวดำเนินการกันอย่างไร   จริงใจแค่ไหนในการปฏิรูป  คำนึงถึงประชาชนและตำรวจผู้ปฏิบัติบ้างหรือไม่ ...

ความคิดเห็น