วันนี้ขอนำบทความ อาณาจักรโล่เงิน โดย เกลือสมุทร ซึ่งเขียนไว้นานแล้วครับ ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 57 แต่ยังคงทันสมัยอยู่จนทุกวันนี้ อ่านแล้วมันโดน เลยเอามาแชร์กัน เผื่อจะไปสะกิดต่อมอะไรของบรรดาท่านนายพลทั้งหลายได้บ้าง ลองอ่านกันดูครับ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผู้บริหารมานั่งเป็นเบอร์ 1 มักเขียนนโยบายสวยหรูให้ตำรวจตามโรงพักต้องปฏิบัติ เมื่อมอบหมายแล้ว เคยลงไปดูหรือไม่ว่า ตามสถานีตำรวจเขาขาดแคลนเครื่องมือมากเพียงไร เช่น ให้จัดกำลังตำรวจให้เพียงพอต่อปริมาณงานเพื่อลดความเครียด ที่ปริมาณงานมากเกินกำลัง มีแต่คำสั่งแต่ไม่ส่งกำลังพลลงมา ทาง สน.ต้องทำงานตามกำลังพลเท่าที่มี ผู้มอบนโยบายสั่งแล้ว ไม่ดูแล ผลสุดท้ายหัวหน้าสถานีต้องโดนลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา
ฝ่ายตรวจสอบทำการตรวจสอบเข้มแข็งโดยไม่สนใจปัญหาที่เกิดขึ้น ควรทำเรื่องจริงที่เกิดขึ้นตามโรงพักให้ผู้บริหารทราบ แต่รายงานผิดข้อเท็จริง โดยไม่เห็นใจฝ่ายปฏิบัติที่มีแต่โดนกับโดน ผู้บริหารหลับหูหลับตาลงโทษไร้ความยุติธรรม....หน่วยเหนือรู้อยู่แก่ใจว่า กำลังพลตามโรงพักไม่พอ ก็ไม่หามาเพิ่ม ไม่แก้ไขการขาดแคลน แถมสวัสดิการแทบไม่มี ก็รู้อยู่แก่ใจ แต่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ มีหน้าที่รายงาน มักจะรายงานเท็จ
ทุกวันนี้ผู้บริหารระดับสูงมักลอยตัว มีอะไรเกิดขึ้น ก็มาลงโทษหัวหน้าสถานี คิดบ้างไหมว่า ให้พวกเขามาบริหารงานโรงพักมือเปล่า ไม่มีเม็ดเงินให้ รถสายตรวจที่มีอยู่แทบใช้งานไม่ได้ ก็ต้องซ่อมกันเอง ส่วนรถจักรยานยนต์ใช้งานมานาน ซ่อมไม่ได้ ต้องให้นำรถจักรยานยนต์ส่วนตัวมาใช้ออกตรวจ ทำเรื่องเสนอไป ขอเปลี่ยนและขอทดแทน ก็ไม่ได้รับการตอบสนองเลย ต้องแก้ปัญหาเองทุกอย่าง ผู้บริหารมักสวนกลับมาทันทีว่า ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ ก็ออกไป จะหาคนอื่นมาแก้ไขแทน !
หาใครมาแทนก็แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่ไปขอความอนุเคราะห์หน่วยงานเอกชน....ผิดกับตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว ไม่ต้องซื้ออะไรเองเลยได้รับการสนับสนุนจากกรมทางหลวงและกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ขออะไรได้ตามนั้น รถใหม่ป้ายแดง กระบองไฟ เสื้อสะท้อนแสง แฟลตตำรวจชำรุด บอกเขารีบมาซ่อมให้ทันที ผิดกับตำรวจในนครบาลไม่รู้จะทำการโครงการเสนอให้ใคร ไม่ว่าเม็ดเงินหรือกำลังพลที่ขาดแคลน หรือนครบาลไม่มีให้
นโยบายที่ผู้บริหารเขียนมาให้อ่านสวยหรูเหมือนกับเล่นปาหี่...ผู้บริหารเมื่อมอบนโยบายสั่งแล้ว ต้องลงมาดูด้วยว่า ตามโรงพักต่างๆ เสนอขอสิ่งที่จำเป็นไปนั้น ทางตร.ดำเนินการให้หรือเปล่า ถ้าให้ครบตามที่ขอ แล้วโรงพักยังทำงานบกพร่อง ก็พิจารณาลงโทษหัวหน้าสถานีได้ทันที
จะเห็นได้ว่า ขณะนี้ทุกสถานีตำรวจขาดแคลนทุกอย่างในการปฏิบัติหน้าที่ ต้องไปขอความอนุเคราะห์ผู้ประกอบการที่ประกอบอาชีพไม่สุจริตนัก เพื่อมาปกป้องดูแลความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนในพื้นที่ เมื่อพลาดพลั้งขึ้นมาหน่วยเหนือไม่พิจารณาให้ดีก่อนสั่งตั้งกรรมการสอบวินัย ขั้นต้นถ้ามีมูลก็ดำเนินคดี....เห็นหรือยัง การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจตามโรงพักถูกผู้บังคับบัญชาข่มเหงรังแกตลอด
มอบนโยบายเหมือนเคาะกะลาให้ดีใจเท่านั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งหน่วยงานมาจับผิดตำรวจตามโรงพักแต่ไม่เคยสนับสนุนหรือดูแลทุกข์สุขของพวกเขาเลย เอาแต่สั่งเพื่อสนองตัณหากลุ่มผู้บริหารเท่านั้น
ตำรวจมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข แต่ตัวเองทุกข์ใจอยู่ทุกวัน จะมีกำลังใจที่ไหนไปบำบัดทุกข์ให้ประชาชน ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่กองบัญชาการขึ้นไปเห็นแก่ตัวทุกวินาที อาหารกลางวัน ทุกสน.ต้องหมุนเวียนจัดมาให้ จะเลี้ยงเพื่อนฝูงท้องที่ไหน หัวหน้าสถานีต้องลนลานหาที่กินที่เที่ยวหรูหราไว้บริการ แม้ต้องควักเนื้อก็ต้องยอมเพื่อหน้าที่
ยุคนี้ยุคไฮเทคแล้ว ผู้บังคับบัญชาทุกกระดับควรปรับปรุงตัวเสียใหม่ ของฟรีไม่มีแล้ว จะไปไถผู้ประกอบการเขาถ่ายคลิปไว้ วันไหนเขาทำผิดกฎหมายถูกตำรวจจับ พวกเขาจะนำคลิปมาให้สื่อดูว่า ถูกไถแล้วไม่ให้ตำรวจจึงแกล้งจับ ประชาชนจะเชื่อทันที ผู้บริหาร สตช. ควรเปลี่ยนนิสัยเสียใหม่ อย่าปากว่าตาขยิบทำตัวเป็นพระเปิดบาตร วันไหนมีตำรวจนักสู้ออกมาแฉที่ตนเองถูกผู้ใหญ่รังแก โลกโซเชียลจะดังยิ่งกว่าพลุ หัวหน้าสถานีตำรวจควรปรึกษากันเพื่อเปลี่ยนนิสัยของผู้บริหารบ้าง...สวัสดีครับ...
อ่านบทความต่าง ๆ ของคอลัมน์ อาณาจักรโล่เงิน(คลิ๊ก)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น