พงศพัศ เร่งรัดคดีทายาทกระทิงแดง

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 59  พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการ ผบช.น. ได้เรียก พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตภาคภูมิต์ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ , พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผู้กำกับสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และคณะกรรมการสอบสวนคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง พร้อมนำสำนวนการสอบสวนเข้าพบ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดขาดอายุความ ส่งผลให้เกิดข้อครหาต่อสังคม

     พล.ต.อ.พงศพัศฯ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตรวจสอบว่าเหตุใดคดีดังกล่าวจึงขาดอายุความ โดยให้พิจารณาว่าเป็นความบกพร่องของพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนหรือบกพร่องในส่วนใด หากเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สั่งการให้ดำเนินการทั้งทางปกครองและวินัย และให้เสร็จภายใน 1 - 2 วันนี้ รวมถึงพิจารณาว่าคดีนี้มีการวิ่งเต้นตามที่สังคมตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ซึ่งคดีดังกล่าวมีพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในรูปของคณะกรรมการ 6 นาย โดยมี พ.ต.อ.ไกรเมศ อุทัย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ในขณะนั้นเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งการที่ปล่อยให้ข้อหาขับรถเร็วฯ หมดอายุความ จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ขณะที่อัยการกำลังตรวจสอบ และจะชี้แจงต่อสื่อมวลชน เบื้องต้นยืนยันตำรวจไม่ขัดแย้งกับอัยการในการทำคดีนี้ นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังสั่งให้รื้อสำนวนคดีเก่าที่เกี่ยวข้องกับเมาแล้วขับทั่วประเทศ โดยเริ่มต้นที่คดีทายาทกระทิงแดง ไม่ยกเว้นจะเป็นคดีคนรวยหรือคนจน

     โดยให้รายงานผลให้ทราบ ภายในวันจันทร์นี้ จากนั้นจะเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาสั่งการต่อไป ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ฯ ระบุ ต่อหน้าพนักงานสอบสวนคดีทายาทกระทิงแดง ว่า เป็นความบกพร่องของพนักงานสอบสวนที่ให้ข้อหาขับรถเร็วฯ หมดอายุความ ซึ่งจะต้องดำเนินการในเรื่องของวินัย และอาญา รวมถึงพิจารณาว่าจะต้องรับผิดชอบทั้งคณะ หรือเป็นรายบุคคล ด้าน พ.ต.อ.วิรดลฯ ยืนยันว่า ทำสำนวนคดีอย่างตรงไปตรงมา และสามารถส่งฟ้องคดีได้ก่อนหมดอายุความ ยืนยันไม่มีการวิ่งเต้นให้ทำสำนวนคดีอ่อนลง

     คดีนี้ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทนายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มเครือกระทิงแดง ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555  ผ่านมากว่า 3 ปี ยังไม่มีการสรุปสำนวนการสอบสวน  เป็นไปได้อย่างไร  ทั้ง ๆ ที่เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และพี่น้องตำรวจ  คดีนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร  แค่ลูกคนรวยซิ่งรถหรูขยี้ตำรวจจน ๆ ตาย แล้วลากศพพยายามหลบหนี  

     ทางแพ่งก็ต้องชดใช้กับครอบครัวตำรวจอยู่แล้ว  เศษเงินแค่นี้จ่ายได้ไม่มีปัญหาสำหรับครอบครัวที่รวยอันดับต้น ๆ ของไทย  แต่ในส่วนคดี ยังเป็นที่กังขาของสังคม  ว่าลูกคนรวยที่สร้างปัญหาบนท้องถนน  มักจะรอดพ้นการลงโทษจำคุก  เงื้อมมือกฎหมายไม่สามารถเอื้อมถึงถ้าคุณมีเงินพอ  มาตรฐานยุติธรรมไทย  ยังคงตกต่ำต่อไปทั้งระบบ