จับอีก ตำรวจปลอม มัดเหยื่อชิงทรัพย์ !

วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลาประมาณ 10.30 น.  เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สน.จรเข้น้อย ได้ทำการจับกุมตัว นายวิเชษฐ  บางใหญ่  พร้อมของกลางกลางยาไอซ์ จำนวน 0.44 กรัม , สิ่งเทียมอาวุธปืนพกสั้น แบบออโตเมติก สีเทา จำนวน 1 กระบอก , เครื่องวิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ โมโตโรล่า รุ่นจีที 668 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง , กระเป๋าผ้าขนาดเล็ก สีดำ มีสัญลักษณ์ POLICE จำนวน 1 ใบ , ชุดฟาร์ติก สีน้ำเงิน มีเครื่องหมาย POLICE จำนวน 1 ชุด , รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโลร่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ฉฐ 5961 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน , สายไฟ สีเทา จำนวน 1 เส้น , เชือกไนล่อน สีเขียว จำนวน 1 เส้น , สายเคเบิ้ลสภาพใช้งานขาดเป็นท่อน  จำนวน 1 เส้น , โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ วีโว้ สีดำ จำนวน 1 เครื่อง , โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อทรู จำนวน 1 เครื่อง , เครื่องเล่นเอ็มพี 3 จำนวน 1 เครื่อง และเงินสด จำนวน 560 บาท(ยึดละเอียดเลย) โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในบ้านพัก ถ.หลวงแพ่ง แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กทม. เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.30 ของวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา

     สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีชายแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ใช้อาวุธปืนข่มขู่และทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย จำนวน 2 ราย ก่อนมัดตัวเจ้าของบ้านไว้กับเสาบ้าน พร้อมทั้งรื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในบ้านพักหลังดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบเมื่อมาถึงช่วงบริเวณกลางซอยของจุดเกิดเหตุกระทั่งพบชายฉกรรจ์แต่งเครื่องแบบคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีท่าทางมีพิรุธขณะกำลังจะขึ้นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโลร่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ฉฐ 5961 กรุงเทพมหานคร อยู่ช่วงทราบชื่อต่อมาคือนายวิเชษฐ จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นก่อนพบของกลางทั้งหมดจึงตรวจยึดเพื่อทำการตรวจสอบรายละเอียด

     จากนั้นก็มีผู้เสียหายมายืนยันว่านายวิเชษฐ กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง  โดยบุกรุกเข้าไปในบ้านพักผู้เสียหาย ใช้อาวุธปืน(ปลอม) บังคับมัดมือและทำร้ายร่างกายผู้เสียหายชาย  ส่วนผู้เสียหายหญิงถูกขู่ให้นำเงินมามอบให้ และกระทำอนาจาร  หลังเกิดเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง

นายวิเชษฐฯ ผู้ต้องหาในคดีนี้

     จากการสอบสวนทราบว่า นายวิเชษฐ ประกอบอาชีพที่แท้จริงคือเป็นผู้รับจ้างขายไอศกรีมอยู่ย่านลาดกระบัง ซึ่งก่อนหน้าที่เคยลงมือก่อเหตุข่มขู่เอาทรัพย์สินจากเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมาแล้วรวมจำนวน 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งได้ทรัพย์สินไปไม่มาก ส่วนเจ้าของบ้านไม่ยอมเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตั้งแต่ต้น เนื่องจากคิดว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง จนกระทั่งมาในครั้งนี้คนร้ายได้กระทำการเกินกว่าเหตุจนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบดังกล่าว

     เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จัดหนักแจ้งข้อหาแบบจัดเต็มดังนี้ "มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น, ลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น หรือเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาทรัพย์นั้นไปโดยมีและใช้อาวุธปืน, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ และร่างกาย, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น" 

ขอบคุณเนื้อหาจาก นสพ.ข่าวสด ออนไลน์ อ่านต่อฉบับเต็ม ได้ที่ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1458877751





     มีข่าวมาเรื่อย ๆ นะครับ  สำหรับมิจฉาชีพ ที่ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ  โดยเฉพาะตำรวจ  สำหรับท่านที่เคยพบเจอเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว  หรือมีเพื่อน คนรู้จัก เคยพบเจอ  ขอให้ลองตรวจสอบดูรูปพรรณคนร้ายว่าตรงกับที่เคยเจอหรือไม่ครับ  ลองติดต่อไปทาง สน.จรเข้น้อย ดูเพื่อจะมีอีกหลายคดี  และแม้รูปพรรณไม่ตรง  แต่ถ้าถูกบุคคล กลุ่มบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ  กระทำผิดต่าง ๆ ก็สามารถแจ้งความ หรือตรวจสอบได้กับหน่วยงานต่าง ๆ มากมาย ทั้งตำรวจท้องที่ , กองปราบปราม , ศูนย์ดำรงธรรม  ฯลฯ  อย่านิ่งเฉยปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวลครับ

ความคิดเห็น