เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 59 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงมาตรการการแก้ไขปัญหาการจราจรใน กทม. ที่จะทำให้เห็นผลดีขึ้นใน 7 วัน ถ้าฝนไม่ตก โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกพื้นที่มากขึ้น ในการโบกรถ และช่วยกวดขันวินัยจราจร ซึ่งจะสามารถทำให้เวลาบนถนนลดลงไปได้ 10 - 20 นาที เป็นอย่างน้อย
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามแก้ไขปัญหาการจราจรให้ลดลง แต่คนใช้รถใช้ถนนต้องมีจิตใต้สำนึกในการดูแล คนใช้ถนนร่วมกัน ไม่ใช่ขับรถชนแล้วลงมาตีกัน ทำให้รถติด อย่างนี้จะโทษรัฐบาลไม่ได้ วันนี้เจ้าหน้าที่มีการบังคับใช้กฎหมายกันอยู่แล้ว ซึ่งต่อจากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะกวดขัน จับ ปรับ ตลอด ผมได้สั่งการไปแล้ว ถ้าใครโดนใบสั่งแล้วไม่ยอมไปเสียค่าปรับ จะไม่อนุญาตให้ไปต่อทะเบียน แต่ถ้าอยากต่อก็ต้องเสียค่าปรับ 4 เท่าเป็นอย่างน้อย เดี๋ยวจะออกคำสั่งลงไป อีกทั้งอาจจะต่อทะเบียนรถไม่ได้ และผู้ขับขี่ต่อไปจะให้ทางกระทรวงคมนาคมอบรมในเรื่องจิตใต้สำนึก ในการใช้รถใช้ถนน เพื่อลดปัญหาการจราจร รวมทั้งการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ส่วนปัญหาความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งได้มีการประชุมไปแล้วทั้ง 37 หน่วยงาน โดยตนได้ตั้งผบ.ตร. เป็นอนุกรรมการบูรณาการ เกี่ยวกับการขับเคลื่อนการจราจร และได้สั่งการไปแล้วว่าต่อจากนี้รถยนต์ต่าง ๆ จะจอดบนถนนสายหลัก 21 สายไม่ได้ ห้ามจอด แต่สามารถจอดในซอยได้ ซึ่งตนขับรถผ่านไปที่ไหนเมื่อพบมีการจอดขวางการจราจรก็จะโทรสั่งการไปยังผู้กำกับเพื่อดำเนินการจับกุม(เนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์)
ก่อนหน้านี้ทาง ตร. พยายามผลักดันในเรื่องของการไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ หากยังไม่ได้ไปจ่ายค่าปรับ โดยพยายามประสานกับทางขนส่ง แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ ทำให้ใบสั่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกนั้น กลายเป็นของสะสมของผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด (อ่าน กฤษฎีกา ตีกลับข้อเสนอ ตร. เบี้ยวค่าปรับก็ต่อทะเบียนรถได้)
ตอนนี้ พล.อ.ประวิตรฯ หรือ "บิ๊กป้อม" ได้มาดูแลแก้ปัญหาจราจรด้วยตนเอง จึงได้รับฟังปัญหาจากทางตำรวจ ถ้าใบสั่งจราจรไม่มีความหมาย คนก็ยังคงละเมิดกฎหมายจราจร ซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานที่สะท้อนวินัยของคนในชาติ ถ้ามาตรการ "ไม่จ่ายค่าปรับ ต่อทะเบียนไม่ได้" นี้บังคับใช้ได้จริง เชื่อว่าจะสามารถสร้างวินัยจราจรให้คนไทยได้อีกมาก เมื่อปฏิบัติตามกฎจราจร อุบัติเหตุจะลดลง การจราจรจะเป็นระเบียบมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การเคารพกฎหมาย และเคารพสิทธิของผู้อื่น บ้านเมืองจะได้ไม่ต้องวุ่นวายเหมือนทุกวันนี้ เราจะเจริญแต่วัตถุไม่ได้ จิตใจคนต้องพัฒนาไปด้วยนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น