ช่วงระหว่างวันที่ 29 พ.ค. - 2 มิ.ย. 60 มีการประชุมมคณะกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ รอง ผบก. - สว. ทั่วประเทศ โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นประธาน มีระดับ รอง ผบ.ตร. , ผู้ช่วย ผบ.ตร. , ผบช. ต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม เป็นการพิจารณาที่มีข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องนับหมื่นคน โดยมีคำสั่ง คสช. รองรับ ยึดอำนาจจาก ผบช. มาไว้ที่ ผบ.ตร. แต่เพียงผู้เดียวเหมือนเมื่อปีที่แล้ว
ก่อนที่คำสั่งจะคลอดออกมา ช่วงนี้พี่น้องข้าราชการตำรวจก็ใจสั่นกันหมด เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะไปลงเอยที่ใด ทำงานอยู่ดี ๆ ไม่มีความผิด ก็ถูกย้ายไปไกลบ้าน ไกลครอบครัวได้ ร้องเยียวยาก็ไม่ได้ เลยอยากจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายของตำรวจในยุคเผด็จการ ดังนี้ครับ
- ความล่าช้า แม้จะมีคำสั่ง คสช. ให้อำนาจกับ ผบ.ตร. แต่ความล่าช้าของวาระ 2559 ล่วงเลยจากเดือน ตุลาคม 59 มาจนปัจจุบัน 1 มิถุนายน 60 ก็ยังไม่สามารถออกคำสั่งได้ ทาง ผบ.ตร. เคยให้สัมภาษณ์ว่าเดือน พ.ค. 60 เสร็จแน่ ๆ อยากรู้จริง ๆ ว่ามันช้าเพราะอะไร ต่อไปน่าจะมีโทษทัณฑ์กันบ้าง แต่งตั้งช้า งดขั้น ผบ.ตร. - ผบช. ไปเลย 555
- ขวัญและกำลังใจ ยิ่งล่าช้า ยิ่งลุ้นนาน มันบั่นทอนจิตใจในการทำงาน การแต่งตั้ง โยกย้าย ควรเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ แต่แบบนี้มันไม่ใช่
- เสียสิทธิ ในการแต่งตั้งที่ล่าช้าอย่างนี้ คนที่อาวุโสพร้อมดำรงตำแหน่งสูงขึ้น ก็จะเสียสิทธิไปหลายเดือน ยิ่งถ้าจะเกษียณอายุราชการในปี 60 นี้ ยิ่งแย่ ได้ตำแหน่ง ย้ายไปไม่กี่เดือนก็เกษียณแล้ว ฮ่วย !
- ตำแหน่งว่างที่ยาวนาน เมื่อมีคนเกษียณไปในเดือนกันยายน 2559 ก็ยังไม่มีการแต่งตั้ง ให้รักษาราชการแทนมาเกินครึ่งปี จะคิดพัฒนาหน่วยอะไรก็ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าจะได้ตำแหน่งที่นี่หรือไม่
- อำนาจในมือคน ๆ เดียว จะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่แต่งตั้งนั้นเหมาะสมกับงาน กับพื้นที่หรือไม่ ภูมิลำเนาอยู่ที่ไหน ขอย้ายไปที่ไหนบ้าง เดี๋ยวคอยดูเถอะ คนพื้นที่ถูกถีบเพราะตั๋ว ตร. จับโยนไปไหนต่อไหน
- ไม่มีระบบคุณธรรม อันนี้สำคัญมาก ยิ่งพูดว่าจะปฏิรูปตำรวจ ยิ่งต้องมีระบบคุณธรรม อย่างน้อยก่อนหน้านี้ยังไม่ โรงพักเพื่อประชาชนดีเด่น แต่นี่ไม่มีอะไรเลย พิจารณาตาม "ความเหมาะสม" นั่นก็คือดูที่ ตั๋ว นั่นเอง
- ไม่ได้ดูที่ผลงาน ไม่ว่าจะได้รางวัล ได้ตำแหน่งชนะเลิศห่าเหวอะไรมา ไม่เคยมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้าย ถ้าไม่มี "ตั๋ว" ก็อย่าหวังดีกว่า
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีแต่เสียกับเสีย ย้ายคนที่เขาไม่เต็มใจไป ทำงานก็ไม่มีใจจะทำ ไหนจะค่าเดินทาง ค่าใช้จ่าย ต้องจากครอบครัว หน่วยที่รับตัวไปก็ได้คนทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ สุดท้ายมันก็เสียทั้งสองฝ่าย
ผู้บังคับบัญชาระดับ พลตำรวจเอก พลตำรวจโท เคยเข้าใจลูกน้องบ้างมั๊ยครับ ย้ายไปไหนทีค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าขนของ เป็นหมื่นนะครับ อย่าคิดว่าเป็นตำรวจอยู่ไหน ก็ต้องอยู่ได้ เขามีครอบครัว มีภาระที่ต้องดูแล การแต่งตั้งฯ มีปัญหาทุกปี ไม่เห็นจะแก้ปัญหาอะไรกันเลย ผมเห็นแววตา เห็นหน้าของคนที่โดนย้ายแล้วมันเศร้าครับ ขอตั้งข้อสังเกตุไว้เท่านี้ เผื่อคนเป็น ผบ.ตร. ในอนาคต จะได้อ่านบ้าง