เพื่อนตำรวจที่อยู่สถานีตำรวจหลาย ๆ คน คงได้สัมผัสประสบการณ์การตรวจงานของ จเรตำรวจ มาบ้าง ไม่มากก็น้อย ส่วนใหญ่ที่ฟังมา เป็นประสบการณ์ที่ไม่ค่อยจะดี จนถึงขั้น ห่วยแตก ! กับตัวหัวหน้าคณะตรวจไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่กับเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจไม่รู้ว่าจะดุไปไหน เก็บกดอะไรในชีวิต ถึงได้มาระบาย + ละเลง เอากับตำรวจท้องที่ ในฐานะผู้ปฏิบัติ การทำงานมันต้องมีความผิดพลาด มีข้อตำหนิบ้างอยู่แล้ว กับคนตรวจ คนวิจารณ์ แม่งง่าย จะหาเรื่องจับผิดกัน ก็ทำได้ทุกเรื่องนั่นแหละ แล้วงานพวกกูนี่ ในแต่ละวันก็มีไม่ใช่น้อยนะครับ ไม่ใช่นั่งหายใจทิ้ง รอพวกเอ็งมาตรวจเท่านั้น
ขอรวบรวมความเห็น และประสบการณ์ของเพื่อน ๆ ตำรวจ ที่มีต่อการตรวจราชการของ จเรตำรวจ มานำเสนอสักหน่อย ดูว่าที่พวกท่านเจอจะเหมือนกันหรือไม่ ระดับความงี่เง่าขนาดไหน มาดูกันครับ
- แบบฟอร์ม+แฟ้มรับการตรวจ แม่งเปลี่ยนทุกปี ปีที่แล้วบอกให้ทำอย่างนี้ถึงจะถูก พอมาปีนี้จะเอาอย่างนี้ ปีหลัง ๆ มานี่ค่อยยังชั่วหน่อยที่เป็นระบบมากขึ้น แต่ก็บางทีก็ไม่สอดคล้องกับ โรงพักเพื่อประชาชน ทำให้มันเหมือนกันไม่ได้เหรอวะครับ อย่าเพิ่มภาระและความงง ให้กับผู้ปฏิบัตินักเลย หาคนทำงานธุรการนี่มันยากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเพราะพวกท่านนี่แหละ
- จะดุทำไม มึงก็คน กูก็คน เอาอารมณ์เป็นใหญ่ มาข่มผู้ปฏิบัติ ไม่รู้ไปเอานิสัย หรือมารยาทแบบนี้มาจากไหน แต่ที่บ้านผมไม่ได้สอนแบบนี้แน่ ท่านมาหา เราต้อนรับอย่างดี มีบริการกาแฟ ขนม เลี้ยงข้าวด้วย เราทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี แขกผู้มาเยือนก็ควรมีมารยาทดุจเดียวกันถูกมั๊ย เรื่องนี้หัวหน้าคณะตรวจอาจไม่รู้ว่าทีมที่ท่านนำมาเป็นอย่างไร เพราะไม่มีใครเคยบอก(บอกเดี๋ยวแม่งกดคะแนนอีก)
- ไม่เข้าใจการทำงานของตำรวจท้องที่ เสือกโชว์โง่ มาถามว่าถ้าเกิดเหตุ ว.40 พนักงานวิทยุจะต้องแจ้งใครก่อน พอตอบไปว่าต้องแจ้งสายตรวจที่ใกล้ที่สุดไปดูที่เกิดเหตุ แม่งบอกให้แจ้งร้อยเวรสอบสวนก่อน อธิบายก็ไม่ฟัง กลายร่างเป็น Hulk อาละวาดอีก จะอธิบายให้ฟังช้า ๆ นะ ชัด ๆ นะ ต้องแจ้งสายตรวจที่ใกล้ที่สุดก่อนเว้ย ! ให้ไปดูที่เกิดเหตุ ควบคุมการจราจร ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน หากมีคนเจ็บจะได้เรียกรถพยาบาลได้ทันท่วงที แล้วขณะที่แจ้งสายตรวจน่ะ เขาได้ยินกันทั้งโรงพักอยู่แล้ว เพราะทุกคนเปิดวิทยุฟังเหมือนกัน(เคยใช้วิทยุรึเปล่าวะ) หัดฟังเหตุผลผู้ปฏิบัติบ้าง แล้วรู้มั๊ยถ้าเป็นการแจ้งผ่านศูนย์ 191 เวลาไปถึงที่เกิดเหตุสำคัญแค่ไหนต่อชีวิตประชาชนที่เขาประสบเหตุ และการประเมินความพึงพอใจ
- อย่าเพิ่มความเพ้อเจ้อ เพ้อฝัน มาใส่ผู้ปฏิบัติ ที่ทำงานอยู่ทุกวันนี้มันก็ยากลำบากอยู่แล้ว ปีนี้เห็นให้มีปฏิญาณตนตอนประชุมแถวอีก .. เพื่อ ? แค่ตรวจอุปกรณ์ ชี้แจกภารกิจ กำชับการปฏิบัติ ก็พอสมควรแล้ว
- ยังจำ E Inspector กันได้มั๊ยครับ สรุปสุดท้ายต้องยกเลิกไป เพราะมันซ้ำซ้อน เป็นภาระงาน เสียเวลา หมดเปลืองพลังงาน ทรัพยากรไปไม่ใช่น้อย ผลงานของ จเรตำรวจ นั่นแหละ
- ดูศักยภาพ ขนาดกำลังพล ของแต่ละที่ แล้วปรับการตรวจให้สอดคล้อง ไม่ใช่แบบตรวจกรูแบบนี้ เอ็งต้องทำแบบนี้เท่านั้น จะบอกให้ว่าแบบตรวจที่ทำมามันออกแบบสำหรับ บช.น. หรือ โรงพักแถบปริมณฑล ไอ้ที่เขามีกำลังแค่ 30-40 คน จะให้ทำครบเหมือนกันหมดได้อย่างไร มีสมองคิดบ้าง ใช้มันบ้างเดี๋ยวจะฝ่อ
- ปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้อง ไม่รู้จะถามทำไม ตอบไปหลายสิบปี ไม่เห็นจะเอาไปทำอะไรได้ บางปีมีบอกอีกนะว่า ห้ามเสนอเรื่อง งบประมาณ - กำลังพล - อุปกรณ์ เอ่อ... งั้นก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะ
- อยากให้มีการประเมินจเรตำรวจ กลับบ้าง จะได้รู้ว่าตัวเองทำงานอย่างไรในมุมมองของตำรวจจริง ๆ ที่เขาอยู่ใน "จุดแตกหัก" ในเมื่อคุณเป็นกระจกส่องตำรวจโรงพัก คุณก็ควรส่องกระจกดูตัวเองบ้าง จริงมั๊ย
แหม่ ... ค่อยยังชั่ว ได้ระบายออกมาหน่อย(โดนมาเยอะ 55) นี่เป็นแค่ที่คิดได้ในชั่วโมงนี้นะครับ คิดว่าเพื่อน ๆ ที่โดนมากับตัวคงมีอีกหลายเรื่องราว บอกต่อกันได้ในคอมเมนท์ด้านล่างนี้ ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ไม่ใช่จะบอกว่า จเรตำรวจ ไม่ควรมี หรือไม่ดี นะครับ แต่ควรปรับการทำงานให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ให้ตำรวจท้องที่ทำสิ่งที่ควรทำ อะไรที่มันเกินจำเป็นก็ตัดออก อย่าสร้างภาระงานให้กับผู้ปฏิบัติ ตำรวจสมัยนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนยุคท่านนะครับ
อยากจะใช้คำว่ากระทืบไลท์รัวๆ ค่ะ เห็นด้วยอย่างแรง แค่ทุกวันนี้หาคนทำงานธุรการก็ยากเต็มทีแล้ว ยังจะเพิ่มแฟ้มซึ่งเป็นภาระให้คอยอัพเดทตลอดเวลาอีก เฉพาะงานประจำก็ทำแทบจะไม่ทันอยู่แล้ว โดยเฉพาะโรงพักเล็กๆ ซึ่งมีกำลังพลไม่เกิน 50 นาย ธุรการแผนกงานละ 1 นาย รับผิดชอบงานเท่ากับโรงพักใหญ่ๆ เช่นกัน คณะตรวจคงจะไม่เคยทำงานในระดับปฏิบัติการ ก็คือไม่เคยอยู่โรงพักนั่นแหล่ะ ได้แต่นั่งเทียนคิดนู่นนี่นั่นไปวันๆ ให้มันสวยหรูอลังการเข้าว่า จึงไม่เคยรับรู้ถึงสภาพปัญหาที่แท้จริง
ตอบลบ555 หัวอกเดียวกันครับ
ลบ