เจ้าหน้าที่ตำรวจ น่าจะเป็นหน่วยงานเดียวละมั้งครับ ที่ต้องดิ้นรนควักเงินส่วนตัว ซื้ออาวุธปืนมาเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ รักษาความสงบเรียบร้อยให้กับพี่น้องประชาชน กระบอกหนึ่งก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เพราะเกือบทั้งหมดไม่สามารถจ่ายเป็นเงินสดได้ หลาย ๆ คนเงินเดือนที่ได้ยังน้อยกว่าราคาอาวุธปืนในโครงการเสียอีก
ตอนเริ่มโครงการก็ติดขัดในการนำเข้า กว่าจะปลอดภาษีต่าง ๆ ได้ก็ไม่ง่าย ไหนจะปฏิวัติรัฐประหารอีก ทำให้กำหนดการรับอาวุธปืนต้องเลื่อนออกไปเป็นปี และแม้ตัวโครงการจะดำเนินการมาจนถึงการส่งมอบอาวุธปืน แต่อุปสรรคมันก็มีอย่างมากมาย ที่ทำให้ติดขัดไม่สามารถรับปืนมาใช้ในการทำงานได้ง่าย ๆ โดยที่ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องตำรวจ อาทิ
- การขอใบอนุญาติมีและใช้อาวุธปืน หรือ ป.3 เพื่อนข้าราชการตำรวจ ต้องทำเรื่องไปยังอำเภอที่ภูมิลำเนาตั้งอยู่ ซึ่งมาตรฐานก็จะแตกต่างออกไป อย่างที่รู้ ๆ กันว่าบางแห่ง มันต้องมีการ "หล่อลื่น" ไม่งั้นไม่เซ็น ยิ่งขอกันมาก ๆ อย่างนี้ จะพลาดโอกาสงาม ๆ ไปได้อย่างไร ทำให้เกิดการตั้งมาตรฐานประหลาด ๆ ในการขอใบ ป.3 เช่น ต้องผ่านการอบรมการใช้อาวุธปืน , ต้องทำประชาคมหมู่บ้าน - ตำบล , ตรวจประวัติต้องโทษ ฯลฯ แม้ทางอธิบดีกรมการปกครองจะมีหนังสือขอความร่วมมือมาแล้วก็ตาม / ส่วนมากไม่มีปัญหานะครับ อาจจะช้าบ้าง แต่ก็เข้าใจว่าเป็นการซื้อปืนที่เอามาใช้ในราชการ
- ขอไปรับอาวุธปืนที่ ตร. เนื่องจากมีการซื้อกันเป็นหมื่นกระบอก ไม่มีการจัดคิวการรับ หรือวางแผนในการแจกจ่าย ทำให้พี่น้องตำรวจต้องไปรอเข้าคิวกันแต่เช้ามืด โดยเฉพาะพวกที่อยู่ไกล ๆ ต้องไปนอนรอกันก่อนเลยทีเดียว พอไปถึงก็พบว่าสถานที่นั้นไม่สามารถรองรับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากได้ ไม่มีการทำบัตรคิว จึงต้องเอารองเท้าเรียงต่อกัน เข้าคิว ดูแล้วก็น่าสงสารเหมือนกันนะครับ ตอนทำพิธีมอบจัดงานอย่างใหญ่โต
จริง ๆ ก็ไม่น่าจะต้องลำบากไปรับกันไกล ๆ ขนาดนั้น ให้แต่ละจังหวัดโดยผู้บังคับการ จัดเจ้าหน้าที่ เป็นตัวแทนพร้อมบัญชี ลำดับการรับปืน มารับไปเก็บไว้ที่ ภ.จว. แล้วแจกจ่ายตามมาตรฐานเดียวกับกองสรรพาวุธ ตร. ไม่น่าจะยากนะครับ ว่ามั๊ย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น